ส่อง ‘เศรษฐกิจแมว’ แดนมังกร มูลค่าเกือบ 7 แสนล้านบาท
‘แมว’ เป็นหนึ่งในสัตว์เลี้ยงที่ได้รับความนิยมทั่วโลกเป็นรองเพียงสุนัขหรือน้องหมาเท่านั้น และความนิยมเลี้ยงแมวเติบโตขึ้นเรื่อยๆ เรียกว่ามี ‘ทาสแมว’ เกิดขึ้นใหม่ในทั่วทุกมุมโลก โดยเฉพาะในสังคมเมือง ซึ่งมีพื้นที่อยู่อาศัยจำกัด เจ้าเหมียวตัวเล็กๆ จึงตอบโจทย์กว่าสุนัขซึ่งส่วนมากตัวใหญ่กว่าแมว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ในประเทศจีนที่มีประชากรมากกว่าพันล้านคน แมวก็เป็นสัตว์เลี้ยงยอดนิยมเช่นกัน มีการเลี้ยงแมวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เรียกว่าคนจีนตกเป็นทาสแมวเพิ่มขึ้นทุกปี
ข้อมูลจากการสำรวจอุตสาหกรรมสัตว์เลี้ยงของประเทศจีนในปี 2568 ระบุว่า การเลี้ยงแมวในจีนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2561 จากที่มีการเลี้ยงแมว 40,640,000 ตัว เพิ่มขึ้นทุกปีจนเป็น 71,530,000 ตัวในปี 2567 และมีการเลี้ยงแมวมากกว่าสุนัขในปี 2564 เป็นต้นมา
เมื่อมีคนรักแมวเพิ่มขึ้นในประเทศที่มีประชากรมากอย่างจีน ธุรกิจที่กี่ยวข้องกับแมวจึงมีแนวโน้มพัฒนาไปสู่อุตสาหกรรมใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นการซื้อขายชนิดพันธุ์แมว ธุรกิจอาหารแมว ธุรกิจของเล่น-ของใช้สำหรับแมว และการบริการสำหรับแมว
ด้วยเทรนด์ดังกล่าว ในจีนจึงมีการบัญญัติคำศัพท์ใหม่ขึ้นมาว่า ‘猫经济’ หรือ ‘เศรษฐกิจแมว’ ซึ่งมีมูลค่าปีละเกือบ 700,000 ล้านบาท
ตลาดสินค้าแมวเกือบ 700,000 ล้าน
ตลาดสินค้าสำหรับแมวในประเทศจีน ปี 2567 มีมูลค่า 144,500 ล้านหยวน (654,200 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 10.7% จากปีก่อนหน้า ขณะที่มูลค่าตลาดสินค้าสำหรับสุนัข 155,700 ล้านหยวน (ประมาณ 705,000 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 4.63% และมูลค่าอุตสาหกรรมสัตว์เลี้ยงรวมอยู่ที่ 300,200 ล้านหยวน (1,359,200 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 7.5% จากปีก่อนหน้า จะเห็นได้ว่าอัตราการเติบโตของตลาดสินค้าแมวโตเร็วกว่าตลาดสินค้าสุนัขมากกว่าเท่าตัว
ในแง่อัตราการใช้จ่ายเฉลี่ยสำหรับสัตว์เลี้ยงหนึ่งตัวก็เป็นไปในทิศทางเดียวกัน แม้ว่าอัตราเฉลี่ยการใช้จ่ายสำหรับการเลี้ยงสุนัขจะมากกว่า เฉลี่ยอยู่ที่ 2,961 หยวน (13,460 บาท) /ตัว/ปี เพิ่มขึ้น 3.0% แต่การใช้จ่ายเฉลี่ยสำหรับแมวก็มีอัตราการเพิ่มขึ้นเร็วกว่า อยู่ที่ 2,020 หยวน (9,150 บาท) /ตัว/ปี เพิ่มขึ้น 4.9%
ผลสำรวจกลุ่มผู้เลี้ยงแมว พบว่าผู้เลี้ยงแมวส่วนใหญ่ 60.5% เป็นเพศหญิง อีก 30.5% เป็นเพศชาย โดยเป็นคนที่เกิดในช่วง ค.ศ. 1991-2000 (พ.ศ. 2534-2543) มากที่สุด
สินค้า-บริการสำหรับแมวโตอย่างมีเสถียรภาพ
ข้อมูลจากสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ เมืองเซี่ยเหมิน สาธารณรัฐประชาชนจีน บอกว่า ผลิตภัณฑ์สินค้าสำหรับแมวยังคงขยายตัวอย่างมีเสถียรภาพ โดยเฉพาะกลุ่มผลิตภัณฑ์ประเภทอาหารแมวซึ่งมียอดขายที่น่าจับตามอง ทั้งยังจัดอยู่ในสินค้าที่มีความจำเป็นที่สุดสำหรับกลุ่มผู้บริโภคผู้รักแมว ในขณะเดียวกัน อัตราการบริโภคผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพแมวและขนมสำหรับแมวก็มีปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างมากตามลำดับ
นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์สินค้าประเภทใหม่ที่เกิดขึ้น อย่างเช่น อุปกรณ์เดินเล่นสำหรับแมว อุปกรณ์อัจริยะสำหรับเลี้ยงแมว ล้วนมีอัตราการเติบโตอย่างสม่ำเสมอ กล่าวคือ อาหารแมวซึ่งเป็นสินค้าพื้นฐานยังคงได้รับความนิยมและมีอัตราการขยายตัวที่มั่นคง ขณะเดียวกัน สินค้าประเภทใหม่ๆ ได้ถูกคิดค้นขึ้นและกำลังเติบโตในวงการเศรษฐกิจแมวต่อไปในอนาคต
อาหารแมวพัฒนาอย่างหลากหลาย
อิงตามข้อมูลจากสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ เมืองเซี่ยเหมิน สูตรผลิตภัณฑ์อาหารแมวได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้เลี้ยงแมว โดยอาหารแมวสูตรเนื้อสดและสูตรไม่ผสมธัญพืชได้รับความนิยมอย่างสูงสุด และเป็นเจ้าตลาดหลักในวงการผลิตภัณฑ์อาหารแมว ขณะเดียวกัน อาหารแมวสูตรเนื้อปลาก็ได้มีอัตราการเติบโตมากขึ้นเป็นพิเศษเมื่อเทียบกับสูตรอาหารประเภทอื่น
ส่วนกลุ่มอาหารแมวที่มีสรรพคุณเฉพาะนั้น ผลิตภัณฑ์บำรุงสุขภาพและบำรุงระบบย่อยอาหารสำหรับแมว เป็นผลิตภัณฑ์ที่มียอดขายสูงที่สุด แต่สินค้าที่มีอัตราการเติบโตสูงสุดคือ ผลิตภัณฑ์ชะลอวัยและบำรุงข้อ ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้บริโภคเป็นอย่างมาก แสดงให้เห็นถึงการพัฒนาและการขยายขอบเขตผลิตภัณฑ์สุขภาพสัตว์เลี้ยงที่มุ่งเน้นการผสมผสานระหว่างโภชนาการที่แม่นยำและสรรพคุณที่หลากหลาย เพื่อตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัยของผู้บริโภค ตั้งแต่ “กินให้อิ่ม” จนถึง “กินให้อร่อยและกินเพื่อสุขภาพ”
แนะผู้ประกอบการไทยศึกษาโอกาสเจาะตลาด
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองเซี่ยเหมิน แสดงความเห็นว่า ‘เศรษฐกิจแมว’ หรืออุตสาหกรรมสินค้าและการบริการสำหรับแมวในประเทศจีนยังคงเติบโตอย่างมีเสถียรภาพ และคาดว่าจะมีการขยายขอบเขตของสินค้าและบริการให้มีความครอบคลุมอย่างครบวงจรในอนาคตต่อไป เนื่องจากกลุ่มผู้เลี้ยงแมวในปัจจุบันมีกำลังซื้อ ขณะเดียวกันก็มีความต้องการที่หลากหลาย ละเอียดอ่อน และให้ความใส่ใจพิถีพิถันกับการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับแมวที่มีความปลอดภัยสูง ทำให้ ‘เศรษฐกิจแมว’ มีอัตราการเติบโตมากเป็นพิเศษกว่าธุรกิจสัตว์เลี้ยงชนิดอื่นอย่าง สุนัข หรือปลาสวยงาม
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองเซี่ยเหมิน มีคำแนะนำสำหรับผู้ประกอบการไทยว่า ผู้ประกอบการไทยในอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์สำหรับสัตว์เลี้ยงสามารถอาศัยจุดแข็งของประเทศไทยที่มีวัตถุดิบและระบบการการผลิตที่มีมาตรฐาน รวมถึงการใช้ผลการวิจัยด้านโภชนาการสำหรับแมว และใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ ร่วมด้วย เพื่อเป็นรากฐานสำคัญในการเจาะตลาดอาหารแมวในประเทศจีน โดยอาจใช้กรณีศึกษาของแบรนด์อาหารแมวชื่อดังอย่าง ‘เซียนหล่าง’ ของจีน ในการปรับปรุงพัฒนาวงการผลิตภัณฑ์อาหารแมวในประเทศไทยเพื่อเจาะตลาดจีนต่อไป
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองเซี่ยเหมิน ให้ข้อมูลอีกว่า เมืองเซี่ยเหมิน ถือเป็นหนึ่งในเมืองที่มีชื่อเสียงด้านตลาดสัตว์เลี้ยง โดยเฉพาะธุรกิจสินค้าและการบริการสำหรับแมว ปัจจุบันในตลาดซื้อขายสัตว์เลี้ยงมีร้านค้ามากกว่า 100 ร้าน เป็นกิจการซื้อขายเฉพาะแมวประมาณ 30 ร้าน มีการซื้อขายชนิดพันธุ์แมวตั้งแต่ราคาหลักร้อยไปจนถึงหลักหมื่นหยวนต่อตัว มีโรงพยาบาลและคลินิกสำหรับสัตว์เลี้ยงที่ได้รับการจดทะเบียนกว่า 42 แห่ง ทั้งยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่อาศัยแมวเป็นจุดขาย อีกทั้งยังมีการจัดนิทรรศการสัตว์เลี้ยงประจำปี อย่างนิทรรศการอุตสาหกรรมเศรษฐกิจแมว CEIE หรือ นิทรรศการแมว
“ผู้ประกอบการไทยที่มีความสนใจส่งออกอาหารแมวและผลิตภัณฑ์สำหรับแมวในตลาดจีน โดยเฉพาะในมณฑลฝูเจี้ยนและเจียงซี สามารถใช้นิทรรศการดังกล่าวเป็นช่องทางในการสำรวจตลาด และศึกษาแนวโน้มการเติบโตของอุตสาหกรรมวงการเศรษฐกิจแมวในประเทศจีนได้” สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองเซี่ยเหมิน แนะนำ
หมายเหตุ: ใช้อัตราแลกเปลี่ยน 1 หยวน = 4.53 บาท ณ วันที่ 1 พฤศจิกายน 2568
