กรุงเทพฯ – 22 กันยายน 2568 – ในยุคที่การใช้ชีวิตในเมืองใหญ่เต็มไปด้วยความท้าทาย การแสวงหา "เมืองในอุดมคติ" ที่สามารถตอบโจทย์ทุกความต้องการได้อย่างครบวงจรและพร้อมรับทุกการเปลี่ยนแปลง จึงกลายเป็นหัวใจสำคัญของการเลือกใช้ชีวิต สอดคล้องกับรายงานดัชนีเมืองน่าอยู่ระดับโลก (Global Liveability Index 2025) โดย The Economist Intelligence Unit (EIU) ชี้ให้เห็นว่า เมืองชั้นนำอย่างโคเปนเฮเกน เวียนนา และซูริก ล้วนมีจุดร่วมเดียวกันคือ 'คุณภาพชีวิตที่ครบถ้วน' ทั้งในด้านความมั่นคงปลอดภัย สุขภาพ สิ่งแวดล้อม การศึกษา และโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่สะท้อนถึงความยั่งยืนของการใช้ชีวิต คำถามคือ ในมหานครอย่างกรุงเทพฯ มีสถานที่ใดที่สามารถมอบประสบการณ์การใช้ชีวิตบนมาตรฐานระดับโลกเช่นนั้นได้บ้าง
ปัจจุบัน โครงการอสังหาริมทรัพย์ต่าง ๆ ในกรุงเทพฯเอง ก็มีความตื่นตัวอย่างยิ่งในการออกแบบและวางมาสเตอร์แพลน เพื่อสร้างสรรค์พื้นที่ที่ตอบโจทย์คุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืน โดยมุ่งเน้นการบูรณาการนวัตกรรมและแนวคิดที่มุ่งเน้นผู้คนเป็นหัวใจสำคัญ ควบคู่ไปกับการยกระดับมาตรฐานการใช้ชีวิตในเมืองให้ดียิ่งขึ้น
วัน แบงค็อก โครงการอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่และครบวงจรที่สุดใจกลางกรุงเทพฯ คือต้นแบบของโครงการฯ ที่ให้ความสำคัญกับเรื่องดังกล่าว ตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบมาสเตอร์แพลน จนถึงการก่อสร้าง และบริหารจัดการโครงการ เพื่อให้เป็น "เมืองที่พร้อมอยู่เสมอ" ด้วยมาตรฐานใหม่ของการใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพในเมืองที่ทุกคนสัมผัสได้จริง วัน แบงค็อก ไม่ได้เป็นเพียงกลุ่มอาคารขนาดใหญ่เท่านั้น แต่คือ Green Smart City ที่พัฒนาขึ้นบน 3 แนวคิดหลัก ประกอบด้วย People-Centricity, Sustainability และ Smart City Living เป็นหัวใจหลักในการออกแบบและพัฒนาทุกองค์ประกอบของโครงการ ตั้งแต่การวางผังพื้นที่ การเลือกใช้วัสดุ ไปจนถึงการบริหารจัดการระบบต่างๆ เพื่อให้มั่นใจว่าทุกการใช้ชีวิตภายในโครงการเป็นไปอย่างราบรื่น คล่องตัว และเต็มไปด้วยประสิทธิภาพ
ความมั่นคงปลอดภัย รากฐานสำคัญของชีวิตคุณภาพ
วัน แบงค็อก ให้ความสำคัญสูงสุดกับการสร้างสภาพแวดล้อมที่มั่นคงปลอดภัยสำหรับทุกคน โดยมีหัวใจสำคัญคือ District Command Center (DCC) ศูนย์บัญชาการอัจฉริยะที่ทำงานตลอด 24 ชั่วโมงไม่มีวันหยุด รวบรวมข้อมูลมหาศาลจากเซ็นเซอร์กว่าล้านจุด และกล้องวงจรปิดกว่า 5,000 ตัว ที่กระจายอยู่ทั่วโครงการฯ ทำให้เห็นภาพรวมสถานการณ์แบบเรียลไทม์ สื่อสารกันได้ราบรื่น พร้อมด้วย ระบบ Integrated Security System ผสานรวมการเฝ้าระวังอัจฉริยะผ่านเครือข่ายกล้องวงจรปิดที่ใช้เทคโนโลยี AI ในการตรวจจับพฤติกรรมผิดปกติ พร้อมการแจ้งเตือนแบบเรียลไทม์ (Smart Surveillance) และระบบควบคุมการเข้าออกด้วย QR Code และการจดจำใบหน้า เพื่อป้องกันบุคคลที่เข้ามาโดยไม่ได้รับอนุญาต (Access Control) สร้างความอุ่นใจในทุกย่างก้าว
นอกจากนี้ยังมีระบบบริหารจัดการภัยพิบัติ (Disaster Management) ที่ออกแบบมาเพื่อรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินทุกรูปแบบอย่างเป็นระบบ ด้วย 4 กระบวนการหลัก ได้แก่ 1 การรับรู้สถานการณ์ (Situational Awareness): โดยรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลแบบเรียลไทม์จากระบบเฝ้าระวังและระบบสื่อสารต่างๆ เพื่อให้เห็นภาพรวมของสถานการณ์ได้อย่างแม่นยำและทันท่วงที 2 การสนับสนุนการตัดสินใจ (Decision-Making Support): นำเสนอข้อมูลเชิงลึกที่จำเป็นแก่ผู้บริหาร เพื่อประเมินความเสี่ยงและตัดสินใจดำเนินการได้อย่างรวดเร็วและเหมาะสมที่สุด 3 การสื่อสารและการประสานงาน (Communication & Coordination): เป็นศูนย์กลางในการอัปเดตข้อมูลและประสานงานกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การตอบสนองเป็นไปในทิศทางเดียวกันและมีประสิทธิภาพสูงสุด และ 4 การจัดการเหตุการณ์ (Incident Management): ติดตามเหตุการณ์ จัดการการตอบสนอง และลดผลกระทบจากการหยุดชะงักของระบบต่างๆผ่านการตรวจสอบอัจฉริยะ
นอกจากความปลอดภัยในชีวิตประจำวันแล้ว วัน แบงค็อก ยังให้ความสำคัญสูงสุดกับความมั่นคงทางโครงสร้าง อาคารทั้งหมดได้รับการออกแบบให้มีความแข็งแรงทนทานต่อแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหว ด้วยการตอกเสาเข็มลึกถึง 80 เมตร ซึ่งเป็นระดับที่ลึกที่สุดในประเทศไทย โดยมีฐานรากขนาดใหญ่กว่า 100,000 ตร.ม. ที่เชื่อมต่อกับโครงสร้างอาคารอย่างยืดหยุ่น เพื่อรองรับแผ่นดินไหวได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด พร้อมแผนรับมือและฝึกซ้อมอพยพที่มีประสิทธิภาพ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันอยู่เสมอ โดยในช่วงเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่เมื่อเดือน มีนาคม ที่ผ่านมา วัน แบงค็อก ยังได้เปิดพื้นที่ภายในโครงการ ให้ผู้ที่ติดค้างอยู่ในบริเวณถนนพระรามสี่ ถนนวิทยุ รวมถึงชุมชนโดยรอบ สามารถเข้ามาพักพิงชั่วคราว ณ วัน แบงค็อก ทาวเวอร์ โฟร์ ซึ่งมีอาหาร เครื่องดื่ม และห้องน้ำ ไว้บริการสำหรับผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือ
โครงการฯ ยังมีระบบป้องกันน้ำท่วม มีบ่อกักเก็บน้ำฝนที่ตกลงบนโครงการ 5 จุด รวม 15,000 ลูกบาศก์เมตร พร้อมกำแพงและประตูน้ำป้องกันพื้นที่อย่างแน่นหนา ซึ่งติดตั้งได้ภายใน 2 ชั่วโมง เสริมด้วยแผนรับมือน้ำท่วมฉุกเฉิน (Flood Respond Plan) ที่ใช้สถานีตรวจอากาศ 4 จุด และระบบเฝ้าระวังระดับน้ำเพื่อคาดการณ์และแจ้งเตือนความเสี่ยง เพื่อให้มั่นใจว่าโครงการปลอดภัยจากน้ำท่วมในทุกสภาพอากาศ
เชื่อมต่อกับชีวิตเมืองแบบไร้รอยต่อ
วัน แบงค็อก ได้รับการออกแบบให้มีโครงสร้างพื้นฐานที่ทันสมัยและเชื่อมโยงทุกมิติของชีวิต ส่งเสริมให้ทุกคนหันมาใช้รูปแบบการเดินทางที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ด้วยการออกแบบทางสัญจรที่เอื้อต่อการเข้าถึงพื้นที่อย่างสะดวกสบาย เช่น ทางเดินเท้า เลนจักรยาน โครงการยังเชื่อมต่อโดยตรงกับระบบขนส่งมวลชนที่ครบวงจร ไม่ว่าจะเป็น สถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สายสีน้ำเงิน สถานีลุมพินี พร้อมมีทางเข้าออกรอบโครงการถึง 6 จุด ซึ่งรวมถึงทางเชื่อมตัดตรงเข้าสู่ทางด่วน นอกจากนั้นยังมี บริการ EV Shuttle Service รับ-ส่ง ฟรีระหว่างโครงการฯ และ BTS สถานีเพลินจิต เพิ่มความสะดวกสบายในการเดินทางทุกรูปแบบ
สุขภาวะที่ดี เพื่อคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืน
วัน แบงค็อก คำนึงถึงการส่งเสริมสุขภาวะที่ดี ทั้งร่างกายและจิตใจของผู้อยู่อาศัยและผู้ใช้อาคาร ด้วยการออกแบบอาคารที่คำนึงถึงสุขภาวะอย่างรอบด้าน อาทิ การใช้กระจกฉนวนกันความร้อน (Insulated Glass) ที่ช่วยลดการถ่ายเทความร้อนจากภายนอกเข้าสู่อาคาร ทำให้ประหยัดพลังงานและคงอุณหภูมิภายในที่เหมาะสมอยู่เสมอ และยังช่วยลดเสียงรบกวนจากภายนอก รวมถึงการออกแบบช่องเปิดและหน้าต่างที่ช่วยให้แสงธรรมชาติส่องถึงภายในได้อย่างทั่วถึง ลดการใช้พลังงานไฟฟ้าและสร้างบรรยากาศที่โปร่งสบาย อากาศภายในอาคารสะอาดบริสุทธิ์ด้วยไส้กรอง MERV 8 และ MERV 14 ที่สามารถกรองฝุ่น PM2.5 และ PM10 พร้อมใช้รังสี UV กำจัดเชื้อโรค และเซ็นเซอร์ตรวจวัดคุณภาพอากาศ เพื่อสุขอนามัยที่ดี ในพื้นที่สาธารณะของโครงการมีการนำระบบไร้สัมผัสมาใช้ อาทิ ระบบจดจำใบหน้า เครื่องสแกน QR โค้ด เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีเครื่องกรองน้ำดื่มให้บริการทุกชั้นภายในอาคารสำนักงานและที่พักอาศัย โดยใช้ไส้กรองคาร์บอน และท่อส่งน้ำไร้สารตะกั่วที่เป็นไปตามการรับรองโดย NSF พร้อมมีการทดสอบคุณภาพน้ำดื่มอย่างสม่ำเสมอ ตลอดจนเลือกใช้วัสดุก่อสร้างและตกแต่งอาคารที่ปลอดภัย เป็นมิตรต่อสุขภาพ ปราศจากสารเคมีอันตราย เช่น ตะกั่ว ปรอท และมีสารระเหยต่ำ เพื่อลดการสัมผัสสารพิษในชีวิตประจำวัน เป็นต้น
มาตรฐานระดับโลกเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน
วัน แบงค็อก ได้รับการรับรองมาตรฐาน LEED for Neighbourhood Development (LEED ND) ระดับ Platinum เป็นโครงการแรกในไทย สะท้อนถึงการออกแบบพื้นที่โดยรอบที่เอื้อต่อการเดินและการพักผ่อน การเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกในระยะเดินถึง การเชื่อมต่อกับระบบขนส่งสาธารณะ การจัดการพลังงาน น้ำ และทรัพยากร ตลอดจนสาธารณูปโภคที่รองรับการใช้อาคาร ไปจนถึงคุณภาพชีวิตของผู้คนที่จะเข้ามาใช้จริง
นอกจากนี้ ยังมุ่งสู่การรับรองมาตรฐานอาคาร WELL ระดับ Platinum ที่รับรองคุณภาพทั้งด้านอากาศภายในอาคาร น้ำ แสง การออกกำลังกาย สาธารณูปโภค และการออกแบบที่ใส่ใจ เพื่อสร้างสถานที่ทำงานและที่อยู่อาศัยที่ปลอดภัย มีคุณภาพ
นอกจากนั้น วัน แบงค็อก ยังโดดเด่นด้วยโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่ได้รับการรับรองมาตรฐานระดับโลก โดยอาคารสำนักงานทั้งหมดของ วัน แบงค็อก รวมถึงอาคารที่พักอาศัย ได้รับการรับรองมาตรฐาน WiredScore Platinum สำหรับความสามารถเป็นเลิศในการเชื่อมต่อระบบดิจิทัล และ SmartScore Platinum นำเทคโนโลยีอัจฉริยะขั้นสูงมาใช้เพื่อประสบการณ์ที่ดีที่สุดของผู้ใช้งาน ส่งผลให้ทั้งโครงการได้รับการรับรองในระดับ Neighborhood เป็นโครงการแรกของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
การรับรองมาตรฐานต่าง ๆ ทั้งในด้านโครงสร้างพื้นฐาน ระบบอัจฉริยะ และความยั่งยืนเหล่านี้ ล้วนสนับสนุนเป้าหมาย ESG และเป็นข้อยืนยันว่าทุกองค์ประกอบโครงการได้รับการออกแบบและพัฒนาตามมาตรฐานระดับโลกสูงสุด เป็นเมืองที่พร้อมอยู่เสมอ เพื่อรองรับทุกรูปแบบการใช้ชีวิตในทุกมิติอย่างมีคุณภาพสูงสุดและยั่งยืน
เมืองที่ไม่หยุดนิ่ง พร้อมต้อนรับทุกคน
วัน แบงค็อก เป็นศูนย์กลางประสบการณ์การชอปปิงและไลฟ์สไตล์ครบวงจร เชื่อมโยงกันอย่างไร้รอยต่อบน ‘Retail Loop’ กว่า 900 ร้านค้า โครงการฯ ยังผสานธรรมชาติ ศิลปะ และวัฒนธรรมเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว ด้วยพื้นที่สีเขียวและพื้นที่เปิดโล่งกว่า 50 ไร่ ประกอบด้วย One Bangkok Park, One Bangkok Boulevard, Wireless Park และ Parade Park ที่ออกแบบมาเพื่อเป็นพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจสำหรับทุกคน พร้อมทางเดินร่มไม้กว่า 5 กิโลเมตร และมี Art Loop เส้นทางแห่งศิลปะและวัฒนธรรมความยาวกว่า 2 กิโลเมตร ที่ออกแบบมาเพื่อจุดประกายชีวิตให้ใกล้ชิดศิลปะ ครอบคลุมทั่วทั้งโครงการ
นอกจากนั้น ยังมีการออกแบบตามหลักอารยสถาปัตย์ (Universal Design) ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ที่เอื้อต่อการใช้รถเข็น หรือการปูทางเท้าสำหรับผู้ที่มีความบกพร่องทางการมองเห็น หรือพิการทางสายตา รวมถึงการออกแบบป้ายและสัญลักษณ์นำทางทั่วโครงการ เพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าถึงและใช้ประโยชน์จากพื้นที่ได้อย่างเท่าเทียมกัน ขณะเดียวกัน ก็ส่งเสริมการเรียนรู้ พัฒนาศักยภาพ และเสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์ โดยจัดสรรพื้นที่ สำหรับกิจกรรมต่างๆ อาทิ เวิร์คช็อป นิทรรศการ และการพบปะแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตและสร้างสรรค์ชุมชนที่มีชีวิตชีวา พร้อมทั้งยังจัดอีเวนท์หลากหลายเพื่อสร้างความสุขให้กับผู้มาเยือนตลอดทั้งปี
โดยเร็วๆ นี้ วัน แบงค็อก เตรียมเปิด Community Hub ซึ่งเป็นพื้นที่สำหรับคนทำงานในอาคารสำนักงานได้พักผ่อนหย่อนใจ พบปะสังสรรค์ แลกเปลี่ยนความคิดเห็น และสร้างสรรค์เครือข่ายทางธุรกิจ (networking) ในบรรยากาศที่ผ่อนคลายและเอื้อต่อการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและประสบการณ์
ทั้งหมดนี้ คือปัจจัยซึ่งทำให้ วัน แบงค็อก เป็น "เมืองที่พร้อมอยู่เสมอ" ที่จะส่งเสริมให้ผู้คนได้ใช้ชีวิตอย่างเต็มศักยภาพในทุกมิติ ในทุก ๆ วัน ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมของวัน แบงค็อก ได้ที่ www.onebangkok.com หรือติดตาม Facebook: One Bangkok Retail, Instagram: parade.onebangkok / thestoreys.onebangkok, TikTok: onebangkok.retail หรือแอด LINE: @onebangkokretail เพื่อรับทราบข้อมูลก่อนใคร
Advertisement