วันจันทร์ที่ 8 กันยายน 2568 เวลา 13.00 น. ณ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ มอบหมายให้นายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการคุ้มครองเด็กแห่งชาติ ครั้งที่ 3/2568
นางอภิญญา ชมภูมาศ อธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน เปิดเผยว่า การประชุมฯ ดังกล่าว ได้มีมติเห็นชอบแนวทางการดำเนินงานสถานรองรับเด็กเอกชนทั่วประเทศ โดยมีแนวทางฯ ประกอบด้วย 7 กิจกรรม ดังนี้
1) การจัดทำฐานข้อมูลเด็กและสถานรองรับเด็ก เพื่อให้มีฐานข้อมูลเด็กรายบุคคล สถานการณ์เคลื่อนย้ายเด็กที่มีประสิทธิภาพ (รู้พิกัด รู้สถานะ)
2) การวิเคราะห์ จัดทำสถานการณ์ และแผนการดำเนินงานระดับจังหวัด เพื่อให้จังหวัดได้ทราบสถานการณ์ในพื้นที่และดำเนินการให้มีแผนส่งเสริมสถานรองรับเด็กเอกชนในจังหวัด
3) การดำเนินงานมาตรฐานการเลี้ยงดูเด็กในสถานรองรับเด็กเอกชน เพื่อให้เด็กได้รับการเลี้ยงดูที่ปลอดภัยมีสุขภาวะที่ดี และส่งเสริมให้สถานรองรับเด็กเอกชนดำเนินงานตามมาตรฐาน และมีการเตรียมความพร้อมในการขอรับใบอนุญาต
4) การพัฒนาศักยภาพบุคลากรเพื่อดำเนินการตามมาตรฐาน เพื่อส่งเสริมให้ผู้ปฏิบัติงานมีขีดความสามารถในการดำเนินงานตามมาตรฐาน
5) การกำกับติดตาม เพื่อให้มีทีมทำงานระดับจังหวัดและส่วนกลางที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ พร้อมทั้งมีการติดตามการดำเนินงานของจังหวัดผ่านการรายงานผล/การหารืออย่างต่อเนื่อง
6) การปรับปรุงกฎหมาย เพื่อให้กฎหมาย ระเบียบ และแนวปฏิบัติมีความสอดคล้อง และเอื้ออำนวยต่อการเลี้ยงดูเด็ก
7) การสื่อสารสาธารณะ โดยใช้กลไกคณะกรรมการคุ้มครองเด็กทุกระดับ รวมทั้งผู้ปฏิบัติงานให้สามารถสื่อสาร
แนวทางการดำเนินงานไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อให้สถานรองรับเด็กเอกชน มีความเข้าใจ พร้อมให้ความร่วมมือในการดำเนินงานและสื่อสารให้สังคมรับรู้เรื่องการเลี้ยงดูเด็กในสถานรองรับเด็กทุกรูปแบบ โดยไม่เลือกปฏิบัติ
ทั้งนี้ มอบหมายกรมกิจการเด็กและเยาวชนประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ปฏิบัติงานเชิงลึกและเป็นรูปธรรมในพื้นที่ที่มีสถานรองรับเด็กเอกชนจำนวนมาก และมีกลไกเครือข่ายภาคประชาสังคมสนับสนุนการดำเนินงานอย่างเข้มแข็ง 4 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย ตาก และกาญจนบุรี
นางอภิญญา กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ประชุมฯ มีมติเห็นชอบ (ร่าง) กรอบหลักสูตรการฝึกอบรมปฏิบัติการผู้ช่วยนักสังคมสงเคราะห์ด้านการคุ้มครองเด็กเพื่อความมั่นคงชายแดน เพื่อเป็นการสร้างมาตรฐานร่วมในการพัฒนาบุคลากรผู้ช่วยนักสังคมสงเคราะห์ด้านการคุ้มครองเด็กที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ชายแดนอย่างมีประสิทธิภาพ และมอบหมายคณะอนุกรรมการพัฒนาศักยภาพพนักงานเจ้าหน้าที่ และผู้ปฏิบัติงานด้านการคุ้มครองเด็ก พิจารณาให้ความเห็นเพื่อปรับปรุงหลักสูตรฯ ดังกล่าว พร้อมทั้งส่งให้สภาวิชาชีพสังคมสงเคราะห์พิจารณารับรองอย่างเป็นทางการ เพื่อให้สามารถนับเป็นหน่วยกิตของนักสังคมสงเคราะห์รับอนุญาต
นอกจากนี้ มีมติรับทราบความก้าวหน้าการปรับปรุงร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. .... โดยกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ได้มีหนังสือยืนยันร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. .... ไปยังสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2568 ซึ่งที่ประชุมได้มีข้อสั่งการให้เร่งยกร่างกฎหมายลำดับรอง ภายใต้พระราชบัญญัติฯ ดังกล่าว รวมทั้งจัดทำแผนการประกาศใช้ การปรับหลักสูตร และจัดอบรมให้สอดคลองกับร่างพระราชบัญญัติฯ นางอภิญญา กล่าวทิ้งท้าย
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่
https://www.facebook.com/DepartmentofChildrenandYouth
Advertisement