ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา “การวิ่ง” กลายเป็นกิจกรรมไลฟ์สไตล์ที่ครองใจคนเมืองอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะวิ่งเพื่อสุขภาพ วิ่งเพื่อเวลาที่ดีขึ้น หรือวิ่งเพื่อท้าทายขีดจำกัดตัวเอง โดยเฉพาะที่สวนเบญจกิติ ซึ่งกลายเป็นแลนด์มาร์กสายฟิตของกรุงเทพฯ ไปแล้ว และในเดือนสิงหาคมนี้ บรรยากาศแห่งการวิ่งจะยิ่งคึกคักกว่าที่เคย เพราะงานวิ่ง 12 สิงหา ฮาล์ฟ มาราธอน 2025 งานวิ่งประจำปีเพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ และยังเป็นหนึ่งในรายการที่นักวิ่งตั้งตารอ ด้วยเส้นทางสวยกลางเมือง และบรรยากาศอบอุ่นทุกก้าว ใครที่กำลังฟิตซ้อมเพื่อลงแข่งขันวิ่งในงานนี้ หรือวิ่งเพื่อสุขภาพเป็นประจำ คงเจอปัญหาที่หลายคนเจอหลังวิ่งคือ.. “ไม่รู้จะกินอะไรดีหลังวิ่ง ที่ไม่ทำให้รู้สึกผิด!”
วันนี้เรามีทริกง่าย ๆ ที่ได้ข้อมูลดี ๆ จาก ผศ.นพ. ชายวุฒิ สววิบูลย์ อายุรแพทย์เฉพาะทางด้านเวชบำบัดวิกฤต และโภชนบำบัดคลินิก โรงพยาบาลเมดพาร์ค สำหรับนักวิ่งที่อยากเติมพลังให้ร่างกายแบบไม่พังแพลนสุขภาพของตัวเอง มาฝากกัน!
โดยคุณหมอชายวุฒิได้สรุปให้เราฟังง่าย ๆ ว่า “สำหรับการรับประทานอาหาร หรือเครื่องดื่มหลังวิ่ง หลังการออกกำลังกายนั้น ตามข้อมูลของสมาคมโภชนาการการกีฬาระหว่างประเทศ (International Society of Sports Nutrition: ISSN) ได้แนะนำว่าควรรับประทานคาร์โบไฮเดรต และโปรตีน ภายใน 30 นาที หรือไม่เกิน 2 ชั่วโมงหลังการออกกำลังกาย เป็นช่วงที่ร่างกายสามารถนำสารอาหารไปใช้ซ่อมแซม เสริมสร้างกล้ามเนื้อ และเพิ่มอัตราการฟื้นฟูร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพได้ดีที่สุด โดยวัยที่ไม่เกิน 20 ปี แนะนำให้รับประทานอาหารและเครื่องดื่มที่ให้พลังงานสูง และมีโปรตีนย่อยง่าย เช่น กล้วยหอม นมจืด นมช็อกโกแลต แซนด์วิช ไข่ต้ม ผักสลัด น้ำส้มคั้นสด เป็นต้น ซึ่งปริมาณการรับประทานที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับความฟิต แล้วก็ระยะทางที่จะวิ่ง รวมถึง อายุ เพศ ส่วนสูงด้วย
สำหรับช่วงวัย 21 - 40 ปี เป็นช่วงของคนวัยทำงาน จะเน้นเรื่องส่งเสริม และฟื้นฟูกล้ามเนื้อหลังวิ่ง จึงเน้นการรับประทานอาหาร หรือเครื่องดื่มที่มีโปรตีนคุณภาพดี เช่น ขนมปังโฮลวีต ถั่ว โยเกิร์ตไขมันต่ำ ข้าวกล้อง อกไก่ เป็นต้น
ช่วงวัย 40 ปีขึ้นไป และผู้สูงอายุ หลังวิ่งหรือออกกำลังกายควรทานอาหาร หรือเครื่องดื่มที่มีโปรตีนย่อยง่ายเพื่อช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ เช่น โจ๊กข้าวกล้อง ไข่ลวก หรือซุปฟักทองที่ใช้นมถั่วเหลืองในการทำ ขนมปังโฮลวีต เป็นต้น และนอกจากนั้น ทุกกลุ่มวัยควรดื่มน้ำหลังออกกำลังกาย หรือวิ่ง ในช่วง 30 นาที ถึง 2 ชัวโมง เพื่อให้ร่างกายนำสารอาหารไปใช้ และซ่อมแซมกล้ามเนื้อ โดยปกติจะอยู่ที่ปริมาณ 500 - 600 ml.”
“สิ่งที่คนสนใจเรื่องวิ่งควรรู้ คือโดยปกติร่างกายจะสะสมพลังงานอยู่หลัก ๆ 2 รูปแบบ คือ คาร์โบไฮเดรตเชิงเดียว และคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน ซึ่งหากเราต้องการวิ่งระยะยาว จำเป็นจะต้องเตรียมพลังงานในกล้ามเนื้อ โดยปกติพลังงานที่อยู่ในกล้ามเนื้อของเราจะเป็นไกลโคเจนเป็นหลัก ไกลโคเจนเป็นแหล่งพลังงานสำรองที่ร่างกายสามารถนำไปใช้ได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งจะอยู่ในกล้ามเนื้อประมาณ 80% และที่ตับประมาณ 15% เมื่อเวลาเราเดิน หรือวิ่งระยะยาว ร่างกายจะเลือกเผาผลาญไกลโคเจน และไขมัน เพื่อสร้างพลังงาน เพราะฉะนั้นถ้าเรายิ่งฟิต กล้ามเนื้อเราแข็งแรง กล้ามเนื้อเราโต เราต้องมีไกลโคเจนสะสมในกล้ามเนื้อได้มากกว่าปกติ จึงจะสามารถวิ่งได้ระยะไกลมากขึ้น โดยส่วนใหญ่ไกลโคเจนจะอยู่ในแป้งจากพืช น้ำตาลทราย น้ำผึ้ง ข้าวโอ๊ต ข้าวกล้อง มันฝรั่ง เส้นพาสต้า หรือมักกะโรนี ขนมปังโฮลวีต รวมถึงผลไม้ต่าง ๆ เช่น แอปเปิล กล้วย องุ่น สับปะรด สาลี่ เป็นต้น และหากเป็นการวิ่งในระยะยาวอาจจะเน้นเมนูที่เป็น Antioxidant ที่ช่วยลดอาการบาดเจ็บเพิ่มเติมไปด้วย เช่น ผลไม้ตระกูลเบอร์รีต่าง ๆ มะม่วงสุก มะละกอสุก องุ่น แอปเปิล ชาเขียว แตงโม เป็นต้น”
การเตรียมตัวประมาณหนึ่งสัปดาห์ก่อนวิ่ง ควรทานอาหารที่คุ้นเคย เพิ่มคาร์โบไฮเตรตให้สูงขึ้น ให้สอดคล้องกับการแข่งขัน โดยปกติแนะนำให้ทานคาร์โบไฮเดรต ประมาณ 2 gm/kg ต่อระยะเวลาที่ใช้วิ่ง เช่น วางแผนจะวิ่งโดยใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง อาจต้องทาน คาร์โบไฮเดรต อย่างน้อย 8 gm/kg/Day เพื่อเตรียมพลังงานสำรองให้กล้ามเนื้อ ห้ามทานอาหาร ที่ไม่คุ้นเคย อาหาร รสจัด ซึ่งอาจทำให้ปวดท้องและท้องเสียขณะวิ่งได้ รวมถึงการงดดื่มสุรา และบุหรี่ เพื่อให้ร่างกาย มีความพร้อมต่อการวิ่ง
หลายคนอาจไม่รู้ว่า ภายในศูนย์ฯ มี “โซนรีเทล” ที่รวมร้านอาหาร เครื่องดื่ม และคาเฟ่ที่มีเมนูเหมาะกับสายวิ่ง สายรักสุขภาพไว้เพียบ กินได้ไม่ต้องรู้สึกผิด วิ่งเสร็จแล้วเดินเชื่อมเข้ามาที่ศูนย์ฯ สิริกิติ์แวะพักเติมพลังกันได้เลย
เมนูอาหาร และเครื่องดื่ม
1.ร้าน Cafe Chilli เสิร์ฟความแซ่บสไตล์เฮลตี้ กับ 2 เมนู เน้นความจัดจ้านแต่ยังดีต่อสุขภาพ มีโปรตีนสูง สมุนไพรแน่น และเหมาะเป็นมื้อฟื้นฟูหลังวิ่งหรือออกกำลังกาย
-ต้มยำไก่กะละมังใบส้มป่อย
ถ้วยนี้ใช้ไก่สับทั้งตัว นำไปรวนเล็กน้อย ก่อนต้มใส่เครื่องในสูตรออริจินอลตามแบบฉบับอีสาน โรยด้วยใบมะขามที่มีรสชาติเปรี้ยวเป็นเอกลักษณ์
-ส้มตำนัตตี้อโวคาโด้
ผสมผสานความลงตัวระหว่าง “รสแซ่บแบบไทย” ของน้ำส้มตำ กับ ความหอมมันของอโวคาโด ที่เป็น “วัตถุดิบสายคลีน” พร้อมด้วยความกรุบกรอบของเม็ดมะม่วงหิมพานต์ ให้ทั้งพลังงานดี ไขมันดี และความอร่อยแบบไม่รู้สึกผิดได้ลองแล้วจะติดใจ
เปิดบริการ : 09.00 - 21.00 น.
พิกัด : Gallery Walk, ชั้น LG
2. อร่อยเบา ๆ สไตล์สุขภาพ กับ 2 เมนูแนะนำจากร้าน On the Table
-สลัดไก่ย่างอโวคาโด
เบา แต่อิ่มจริง! สลัดเพื่อสุขภาพที่อัดแน่นด้วย อกไก่ย่างนุ่ม โปรตีนสูง อะโวคาโดไขมันดี และผักสดหลากชนิด มาพร้อมน้ำสลัดะน้ำสลัดฮันนี่มัสตาร์ดสูตรพิเศษไขมันต่ำ ที่เหมาะสำหรับคนที่ได้มื้อเบาที่ให้พลังงานคุณภาพ
-สุกี้ยากี้ญี่ปุ่นหมู
เสิร์ฟพร้อมน้ำซุปหอมกลมกล่อมแบบญี่ปุ่น พร้อมหมูสไลซ์คุณภาพ ผักสด เต้าหู้ และวุ้นเส้นญี่ปุ่น รสชาติกลมกล่อม อิ่มนาน อุ่นท้อง อร่อยสบาย เหมาะมากสำหรับมื้อเย็นหลังออกกำลังกาย ที่ยังอยากได้สารอาหารครบถ้วน ให้พลังงานแบบพอดี ๆ ไม่หนักเกินไป ดีต่อใจสุด ๆ
เปิดบริการ : 09.00 - 21.00 น.
พิกัด : ชั้น LG
3. เติมพลังนักวิ่ง ด้วย 2 เมนูสุขภาพ จากร้าน S&P
-แซนวิชไข่-ไข่กุ้ง
ส่วนประกอบ ขนมปังขาว + ไข่ต้ม +ไข่กุ้ง ให้โปรตีนและคาร์โบไฮเดรตในสัดส่วนเหมาะสม
เหมาะกับวัยที่ต้องการพลังงานสูง เสริมสร้างกล้ามเนื้อ และฟื้นฟูร่างกายหลังออกกำลังกายแถมอร่อยทานง่าย พกพาสะดวก
-สลัดแซลมอนย่าง
ผักออร์แกนิคสดกรอบ ทั้งเบบี้คอส / กรีนโอ๊ค / เรดโอ๊ค พร้อมเรดิช หอมใหญ่ และมะเขือเทศเชอรี่ เสิร์ฟคู่กับ แซลมอนย่างเนื้อนุ่ม เต็มคำ น้ำสลัด.....ได้ทั้งที่สามารถเลือกได้ทั้งน้ำสลัดใส หรือ สลัดครีมพริกไทยดำ อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ได้โปรตีนคุณภาพสูง และกรดไขมันดีอย่างโอเมก้า-3 ที่ช่วยฟื้นฟูกล้ามเนื้อหลังวิ่งหนัก
เปิดบริการ : 09.00 - 21.00 น.
พิกัด : ชั้น LG
4. สดชื่นกับ 2 เมนูเครื่องดื่มที่สายวิ่งดื่มได้แบบไม่รู้สึกผิด ที่ร้าน Kan Vela
- Iced Dark Chocolate
เมนูช็อกโกแลตเย็นเข้มข้นจากดาร์คช็อกโกแลต 70% ผสมนมอย่างลงตัว พร้อมเสิร์ฟคู่บงบงรสละออมะลิ และบงบงรสกะทิรัญจวน หอมละมุน และละลายในปาก ให้พลังงานแบบดีต่อใจ
- cacao husk tea sparkling
หลังออกกำลังกาย เพิ่มความสดชื่นให้กับร่างกายด้วยชาโกโก้ ผสมไซรัปผลไม้ นอกจากไม่มีคาเฟอีน ยังมี สารต้านอนุมูลอิสระ (antioxidant) ช่วยชะลอวัยและฟื้นฟูร่างกาย แถมยังช่วยให้ผ่อนคลาย ช่วยให้ร่างกายได้พัก ฟื้นฟูได้เร็วหลังออกกำลังกาย สดชื่นแบบสายคลีน 100%
เปิดบริการ : 07.00 - 21.00 น.
พิกัด : Gallery Walk, ชั้น LG
5.เมนูสายสุขภาพ...ที่พรีเมียมในทุกคำ จากร้าน Red Lobster
-สลัดซีฟู้ดรวม
เติมโปรตีนคุณภาพให้ร่างกายด้วย อาหารทะเลที่คัดสรรวัตถุดิบสดจากทะเล เสิร์ฟพร้อมผักออร์แกนิก และน้ำสลัดสูตรเฉพาะ ไขมันต่ำ น้ำตาลน้อย อร่อยเบา ๆ แต่ให้พลังงานที่เพียงพอหลังออกกำลังกาย
เปิดบริการ : 11.00 - 22.00 น.
พิกัด : ชั้น G
6. อร่อยแบบสุขภาพดีที่ร้าน Viet Cuisine
- บาแกตเวียดนามหน้าแหนมเนือง
ขนมปังฝรั่งเศสนำมาประยุกต์ใส่หน้าแหนมเนือง และผักสด ปรุงรสด้วยสลัดครีมผสมกับน้ำจิ้มแหนมเนืองรสเด็ด ทานคู่กับเครื่องดื่มสมุนไพร น้ำตะไคร้ต้มสดผสมน้ำมะนาว หอมหวานเปรี้ยวอุดมด้วยน้ำมันหอมระเหย และวิตามินซี มื้อเบา ๆ ที่มีทั้งไฟเบอร์ โปรตีน และคาร์บคุณภาพ
เปิดบริการ : 09.00 - 21.00 น.
พิกัด : ชั้น LG
7.อิ่มเบา อร่อยแบบคลีนๆ กับ 2 เมนู ที่ HOU YUU
- GOZEN GINDARA SAIKYO YAKI ชุดเซ็ตโกเซ็นพรีเมียม เสิร์ฟด้วยปลากินดาระ เนื้อแน่น หอมละมุน เสริมรสชาติด้วยซอสไซเกียว ที่หมักอย่างพิถีพิถัน ก่อนนำไปย่างบนเตาถ่าน ความร้อนสม่ำเสมอ ให้สุกกำลังดี ได้กลิ่นหอม และรสชาติที่แสนพิเศษกว่าใคร เสิร์ฟพร้อม saba misoni (ซาบะต้มมิโซะ) , Futomaki (ฟูโตมากิ), Horensou no gomae (ปวยเล้งซอสงา), chawanmushi(ไข่ตุ๋นญี่ปุ่น), wafu dressing salad (สลัดผักรวมน้ำสลัดสไตล์ญี่ปุ่น), Miso Soup, ข้าวหน้าอิคุระโรยสาหร่ายอาโอโมริ ตบท้ายด้วยของหวาน เมลอนญี่ปุ่นเยลลี่ยูซุน้ำผึ้ง โปรตีนสูง ไขมันต่ำ อุดมด้วยโอเมก้า 3 ช่วยลดอาการอักเสบจากการวิ่งระยะไกลได้ดี
- caterpillar Roll
ซูชิโรลสุดพิถีพิถันที่ผสานรสชาติอย่างลงตัว ด้านบนเป็นอะโวดาโดเนื้อนุ่มละมุนพร้อมปลาไหลย่างเตาถ่าน ด้านในกุ้งเทมปุระกรอบสอดไส้ด้านใน โรยหน้าด้วยกากเทมปุระกรุบกรอบ ราดซอสสูตร แหล่งโปรตีนและโอเมก้า 3 ชั้นเยี่ยม กับ “อะโวคาโด” ไขมันดีต่อใจ ทั้งอิ่มเบา และยังช่วยฟื้นฟูร่างกายจากการออกกำลังกายแบบไม่รู้สึกผิด
8.เติมพลังก่อนหรือหลังวิ่ง ด้วยขนมปังโฮมเบคดี ๆ จากร้าน Homebake by MX
- ขนมปังโฮมเบคควินัว ลูกฟิกและวอลนัท
ขนมปังควินัวผสมลูกฟิก และวอลนัท ให้โปรตีนจากพืช คาร์โบไฮเดรตดี ไฟเบอร์สูง และไขมันดีจากธรรมชาติ เหมาะกับคนที่ต้องการพลังงานแบบไม่หนักท้อง
เปิดบริการ : 07.00 - 20.00 น.
พิกัด : ชั้น LG
เติมพลังทั้งกายใจและอิ่มท้องกับร้านเด็ดหลากสไตล์ ที่คัดมาเพื่อสายเฮลตี้ ที่ศูนย์ฯ สิริกิติ์ แล้วพบกันหลังเส้นชัย!
Advertisement