
"โค้ชวัง" ธวัชชัย ดำรงอ่องตระกูล ชื่นชมแข้งเวียดนามนามพัฒนาการดี แต่เป้าหมายเดียวคือ ช้างศึก ต้องผ่านไปให้ได้ ตัดสินแชมป์ ซีเกมส์2025
ความเคลื่อนไหว ฟุตบอลชาย ในมหกรรมซีเกมส์2025 หรือ ซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ โดยรอบชิงชนะเลิศ หรือ ชิงเหรียญทอง เป็นการโคจรมาพบกันระหว่าง ทีมชาติไทย เจ้าภาพ พบกับ ทีมชาติเวียดนาม ในวันที่ 18 ธ.ค. 68 ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน เวลา 19.30 น.
โดย "โค้ชวัง" ธวัชชัย ดำรงอ่องตระกูล กุนซือช้างศึกU23 กล่าวว่า "ก็เป็นเป้าหมายอย่างหนึ่งที่เราตั้งไว้ ตอนนี้เราวางเป็นสเต็ป ก็คือเป็นที่ 1 ในรอบแรก และผ่านรอบรองชนะเลิศ และเข้ามาสู่รอบชิงชนะเลิศ เป้าหมายต่อไปก็คือเป็นแชมป์ เป็นเรื่องที่ดี ที่ครั้งนี้เราได้ชิงกับทีมชาติเวียดนาม ถือว่าเป็นทีมที่มีการพัฒนา และคุณภาพที่ดี และเป็นเรื่องดีที่ทีมชาติไทย เราได้เจอทีมที่ดี เบอร์ต้น ๆ ของอาเซียน ถ้าเราจะเป็นแชมป์ก็ต้องชนะทีมที่ดีให้ได้"
"ก็อย่างที่พูดตอนแรก เวียดนามมีพัฒนาการที่ดีขึ้นเยอะ จากที่เคยมีประสบการณ์สมัยเป็นผู้เล่นแล้วเจอกัน พอเป็นโค้ชก็ได้เห็นชุดใหญ่ในปัจจุบัน และในซีเกมส์ ก็มีการพัฒนาขึ้น และระบบการเล่น เป็นระบบที่ค่อนข้างมีความแข็งแกร่ง แต่ว่าผู้เล่นผมมองว่าเป็นระบบ ก็มีบางคนก็มองไว้ ไม่ว่าจะเป็น หมายเลข 7 เหงียน ดิ่งห์ บัค ที่มีความแข็งแกร่ง และมองในเรื่องของระบบมากกว่า สิ่งที่เราเตรียมมา เราก็จะเล่นกับทีมที่แข็งแกร่งและมีระบบแบบนี้"
"จุดเด่นของไทย เราก็เห็นแล้วว่าสภาพตัวผู้เล่น ตอนนี้เราได้ตัวผู้เล่นมาครบแล้ว และได้ฟื้นฟูร่างกายนักเตะกลับมาพร้อมกัน จุดเด่นผมมองในเรื่องของทีมสปิริตที่ดี แล้วก็ผมเข้ามา แคมป์นี้น่าจะเป็นแคมป์ที่ 5 ในการพัฒนาแต่ละแคมป์แน่นอนว่า เราเจอหลายทีมในอาเซียน และ เอเชีย และได้มาชิงกับเวียดนาม ก็เป็นความท้าทาย ที่เราอยากเจอทีมที่แข็งแกร่งของอาเซียน ถ้าเราต้องการจะเป็นแชมป์ในซีเกมส์ หรือขึ้นมาเป็นทีมที่ดีที่สุดในอาเซียนเราต้องผ่านเวียดนามให้ได้ครับ"
"วันนี้สื่อไทยอาจจะมาไม่เยอะ แต่ผมเชื่อว่าการกระจายข่าวน่าจะแพร่หลายทั่วถึง ทั้งประเทศ แต่ผมมองว่าเราทำตรงนี้ เราโฟกัสที่เกมพรุ่งนี้ เพราะว่าสุดท้าย เป้าหมายอีกขั้นเดียวคือการเป็นแชมป์ซีเกมส์ ครั้งนี้ เราโฟกัสตรงนี้มากกว่า"
"ผมพูดมาตั้งแต่รับงานแล้ว เรื่องที่สื่อถามมาตลอด หรือเคยถามว่าการเข้ามารับงานทีมชาติไทยชุดซีเกมส์กับความกดดัน และเป็นเจ้าภาพ จริง ๆ ผมได้คุยกับนักเตะทุกคนอยู่แล้ว ผมอยากให้เขามองความกดดันเป็นความภาคภูมิใจมากกว่า เก็บตรงนั้นมา ในเมื่อเราถูกเลือกมาเป็นตัวแทนของทีมชาติไทย ในครั้งนี้แล้ว เราอย่าไปมองว่าเป็นความกดดัน เรามองว่าเราภาคภูมิใจมากกว่า ผมเชื่อว่าน้องทุกคน ที่เข้ามาทำหน้าที่ รวมถึง เจ้าหน้าที่ทุกคน ผมในนามโค้ช หรือนักเตะทุกคน เชื่อว่าทุกคนมีความภาคภูมิใจในการรับใช้ชาติ และจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด"
"คิดว่าแมตช์พรุ่งนี้ เป็นเกมที่แฟนบอลชาวไทยรอคอย แล้วก็เป็นซีเกมส์ ในบ้านเราด้วยที่เราเป็นเจ้าภาพ ผมก็เชิญชวนแฟนบอลเข้ามาให้กำลังใจกับทีมงานนักเตะ และก็สตาฟทุกคน ก็เชิญชวนเข้ามาเชียร์กันเยอะ ๆ นะครับ"
ด้าน ชนภัช บัวพันธ์ กล่าวว่า "มันสำคัญกับพวกผมมาก เพราะเตะที่ประเทศไทยด้วย พวกผมก็จะพยายามทำผลงานให้เต็มที่ เพราะเกมที่แล้ว พวกผมอาจจะทำผลงานออกมาได้ไม่ดีมาก ก็กลับไปแก้ไข ปรับปรุง ปรับแทคติกมา ผมก็จะพยายามเก็บชัยชนะให้ได้ และคว้าแชมป์ให้ได้"
"ผู้เล่นเวียดนามชุดนี้ก็แข็งแกร่ง ทุกตำแหน่ง โดยเฉพาะกองหน้าของเขาที่ค่อนข้างจะมีประสิทธิภาพในการเข้าทำและการสร้างเกมรุก แต่ก็แน่นอน ในชิงแชมป์อาเซียน เราไม่ได้เข้าไปชิงกับเวียดนาม เราก็รู้สึกเสียดาย แต่พอมารอยนี้ ได้เจอรอบชิงก็ทำให้ ร้อยเปอร์เซ็นต์ ก็อยู่ที่แทคติก และการฉวยโอกาสระหว่างเกมครับ"
"พวกผมไม่มีอะไรต้องกลัว เพราะว่านี่คือประเทศไทย เราทำเพื่อคนทั้งชาติ เราจะมาเล่นแบบกล้าๆกลัวๆ มันไม่ใช่พวกผมครับ ถ้าเรายังไม่มั่นใจในตัวเอง ใครจะมามั่นใจในตัวเรา พรุ่งนี้เราจะชนะให้ได้ เก็บแชมป์ ไว้ที่บ้านเราให้ได้ อย่างที่โค้ชวังได้พูด ทุกคนมีความกดดัน แต่ก็เอาความกดดันมาเป็นความภาคภูมิใจกับตัวพวกผม เอามาเป็นแรงผลักดันเพื่อทำผลงานให้ออกมาดี เพื่อที่เราจะได้เก็บเหรียญทองได้ คว้าแชมป์ได้"
"อยากให้ทุกคนเข้ามาให้กำลังใจเยอะๆ ครับ พวกผมจะทำให้เต็มที่ ทำให้เกินร้อยเปอร์เซ็นต์ และจะพยายามทุ่มเทกับทุกจังหวะในสนาม ไม่ว่าสถานการณ์เกมจะเป็นอย่างไร พวกผมจะทำออกมาให้ดีที่สุด และเก็บแชมป์ไว้ที่บ้านของเราให้ได้"
สำหรับ ฟุตบอลทีมชาติไทย ได้แชมป์ซีเกมส์ สูงสุด 16 สมัย ซึ่งแชมป์หนล่าสุดต้องย้อนกลับไปเมื่อปี 2017 ที่มาเลเซีย หลังจาก เฉือนเอาชนะ มาเลเซีย เจ้าภาพ 1-0
Advertisement