มาดามแป้ง นายกสมาคมฟุตบอลฯ ตอบปมปลด มาซาทาดะ อิชิอิ พันตำแหน่ง พร้อมร่ายยาว ก่อนประกาศตั้ง กุนซือคนใหม่คุมทัพช้างศึก
หลังสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ประกาศแยกทางกับ มาซาทาดะ อิชิอิ กุนซือชาวญี่ปุ่น ปิกฉากตำแหน่งหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย รวมระยะเวลาทำทีม 1 ปี 10 เดือน
ล่าสุด มาดามแป้ง มาดามแป้ง นวลพรรณ ล่ําซํา นายกสมาคมฟุตบอลไทย กล่าวผ่านเพจ Madam Pang - มาดามแป้ง - นวลพรรณ ล่ำซำ ระบุว่า
วันนี้แป้งอยากจะออกมาพูดถึงเหตุการณ์การยกเลิกสัญญา (อย่างถูกต้องตามสิทธิ์ของผู้ว่าจ้าง และสามารถกระทำได้ตามกฎหมาย) กับโค้ช มาซาทาดะ อิชิอิ หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย ชุดใหญ่
การตัดสินใจของสมาคมฯ ในเรื่องนี้ ได้ผ่านการประเมินผลการทำงาน และข้อเสนอแนะตามหลักวิชาการโดยใช้สถิติ ของฝ่ายเทคนิคมาอย่างละเอียดรอบคอบ ในความจริงแล้ว เรื่องการเปลี่ยนหัวหน้าผู้ฝึกสอนนั้น เป็นเรื่องธรรมดาของวงการฟุตบอลทั่วโลก ผลงานในการแข่งขันและความสำเร็จของทีมชาติไทย เป็นส่วนสำคัญที่สุดส่วนหนึ่งของความสำเร็จของสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ โดยเฉพาะทีมชาติไทยชายชุดใหญ่ ซึ่งเป็นชุดที่ได้รับความสนใจ และเป็นความคาดหวังที่สูงสุดของแฟนบอลชาวไทย
ตลอดเส้นทางในวงการฟุตบอล 19 ปี แป้งเคยดำรงตำแหน่งที่เกี่ยวข้องกับฟุตบอลทีมชาติไทยมาหลายตำแหน่งอย่างยาวนาน แป้งเคยได้รับเกียรติให้เป็นผู้จัดการฟุตบอลทีมชาติไทย ชุดใหญ่ ทั้งชายและหญิง รวมถึงทีมชาติไทยชายชุด U23
ก่อนแป้งเข้ามาดำรงตำแหน่งนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ จนบัดนี้ แป้งมีแต่ความรัก ความตั้งใจจริง ความทุ่มเท และความศรัทธา ที่จะพัฒนาฟุตบอลไทยอย่างแท้จริง
ผลงานของฟุตบอลชายทีมชาติไทย ชุดใหญ่ ที่แป้งเป็นผู้จัดการทีมที่น่าจะทำให้เป็นที่จดจำได้ ก็คือการได้แชมป์ฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน 2 สมัยซ้อน ในปี 2020 ที่ประเทศสิงคโปร์ และในปี 2022 ที่ประเทศไทย
ซึ่งขณะนั้น แป้งได้รับโอกาสจากอดีตนายกสมาคมฯ พลตำรวจเอก ดร.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ให้แป้งเลือกโค้ช ตามที่คิดว่าเหมาะสม ซึ่งแป้งก็ได้เลือก “มาโน่ โพลกิ้ง” เนื่องจากเป็นโค้ชที่ทำงานอยู่ในประเทศไทยมาอย่างยาวนาน รู้จักระบบและข้อดีข้อเสียของนักฟุตบอลไทยเป็นอย่างดี
ถ้าพูดถึงสิ่งที่เป็นวิทยาศาสตร์ ในโลกฟุตบอลมักจะใช้ข้อมูลสถิติ และ/หรือ Winning ratio เป็นตัวชี้วัดความสำเร็จของทีมฟุตบอล ซึ่งในยุคของ มาโน่ นั้น ตัวเลขอยู่ที่ คือ 56%
การที่ มาโน่ ต้องพ้นหน้าที่โดยถูกยกเลิกสัญญานั้น ก็เป็นเพราะเราตั้งความหวังในการที่จะพาฟุตบอลทีมชาติไทย ผ่านเข้ารอบฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก ให้ลึกมากที่สุด และต้องการจะพาทีมเข้าไปในรอบที่ 3 ซึ่งในการเข้ารอบ 3 นั้น เป็นสิ่งที่สำคัญมาก ที่ผ่านมามีโค้ชเพียง 2 คน ที่เคยพาฟุตบอลทีมชาติไทยเข้าไปสู่ฟุตบอลโลกรอบที่ 3 ได้ นั่นคือ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง หรือ โค้ชซิโก้ ซึ่งเป็นขวัญใจของคนไทยมาโดยตลอด Winning ratio ของโค้ชซิโก้ในขณะนั้น อยู่ที่ 50% แต่สามารถทำผลงานได้ยอดเยี่ยมมากมาย ส่วนอีกท่านที่นำทีมเข้าสู่รอบ 3 ได้ ก็คือ ปีเตอร์ วิธ ในปี 2002
ย้อนกลับไปวันที่ 16 พฤศจิกายน 2566 มาโน่ คุมทีมชาติไทย แพ้จีน 1-2 ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน จึงมีความกดดันที่ว่าจะต้องหาโค้ชที่ดีกว่ามาโน่ เพื่อนำพาทีมชาติไทยไปสู่รอบที่ 3 ให้ได้ จึงเป็นที่มาของการแต่งตั้ง อิชิอิ ซึ่งในขณะนั้น นั่งเป็น ผู้อำนวยการทีมชาติไทย
โดยทางฝ่ายเทคนิค สมาคมฯ ได้ตัดสินใจเปลี่ยนโค้ชมาโน่ ด้วยการให้ โค้ชอิชิอิ มาทำทีมชาติไทย พร้อมมีการพูดคุยอย่างชัดเจนอย่างตรงไปตรงมาของการทำทีม คือ เป้าหมายของการทำทีม คือการพาทีมชาติไทยผ่านเข้าสู่ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก รอบ 3 ให้ได้ ตามมาตรฐานที่ทีมชาติไทยเคยทำได้
ตั้งแต่วันแรกที่ โค้ชอิชิอิ เข้ามาคุมทีมชาติไทย แป้ง ในฐานะนายกสมาคมฯ และฝ่ายเทคนิค ได้สนับสนุนและให้อิสระในการทำงานอย่างเต็มที่ แต่สิ่งที่กระทบกระเทือนหัวใจ แป้ง และสมาคมฯ รวมถึงเชื่อว่าแฟนบอลชาวไทยมากที่สุด เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2567 ทีมชาติไทย เอาชนะ สิงคโปร์ ได้เพียง 3-1 ขาดไปเพียงลูกเดียว ที่แป้งพูดเสมอว่า “ลูกเดียววันนั้นหมายถึงอีก 4 ปี ที่ทีมชาติไทย ต้องรอคอยโอกาสในการลุ้นไปฟุตบอลโลก ครั้งต่อไป”
นอกจากนั้น ทีมชาติไทย ยังพลาดการคว้าแชมป์ฟุตบอลอาเซียนในปี 2024 ทำให้น่าเสียใจอย่างยิ่งที่ไม่สามารถรักษาแชมป์ 2 สมัยเอาไว้ได้
อย่างไรก็ตาม ผลงานของ อิชิอิ ผลงานหนึ่งที่ทำสำเร็จคือ การคว้าแชมป์คิงส์คัพที่ จ.สงขลา ซึ่งต่อมาในปีนี้ อิชิอิ ก็ไม่สามารถรักษาแชมป์ที่ จ.กาญจนบุรี ได้ตามเป้าหมาย
ขณะนี้ เราแทบจะไม่มีอะไรเหลือให้ลุ้นอีกต่อไป สำหรับทีมชาติไทยชายชุดใหญ่ เหลือเพียงทัวร์นาเมนท์เดียว คือ เอเชียนคัพ 2027 แน่นอนว่าเราต้องการเข้าไปเล่นรอบสุดท้าย ที่ซาอุดิอาระเบีย
ในวันนั้น ฝ่ายเทคนิคได้ขอเข้ามาประชุมกับแป้ง ว่าต้องการเปลี่ยนโค้ช ตั้งแต่หลังจบเกมแพ้ เติร์กมินิสถาน 3-1 แต่ขณะนั้นเหลือเวลากระชั้นชิดมากที่จะถึงเวลาการแข่งขัน และเรายังไม่สามารถตัดสินใจได้ว่าจะใช้โค้ชคนไหน อิชิอิ จึงยังคงทำหน้าที่โค้ชต่อไป
เมื่อวานนี้ วันที่ 21 ตุลาคม 2568 ฝ่ายเทคนิคสมาคมฯ โดย ดร.ชาญวิทย์ ผลชีวิน ผู้ที่เคยนำทีมชาติไทยชนะซีเกมส์ 4 สมัย และเป็นคนไทยคนเดียวที่ได้โค้ชยอดเยี่ยมแห่งเอเซีย และ นาวาอากาศเอก ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน นักเตะไทยคนแรกในประวัติศาสตร์ที่คว้าแชมป์เคลีก เกาหลีใต้ และเป็นดาวซัลโวเคลีก ในปี 1985 ซึ่งเป็นเกียรติประวัติของนักเตะไทยคนหนึ่งที่ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ
พร้อมด้วยผู้บริหารสมาคมฯ ได้เชิญ อิชิอิ เข้ามาพูดคุย และได้ชี้แจงถึงผลงาน และขอยกเลิกสัญญาให้พ้นจากตำแหน่ง โดยสมาคมฯ ได้ปฏิบัติต่อ อิชิอิ อย่างสุภาพ และเป็นไปตามสัญญาอันชอบธรรมที่โค้ชมีไว้กับสมาคมฯ โดยสมาคมฯ ต้องจ่ายเงินชดเชยให้ อิชิอิ เป็นมูลค่าครึ่งหนึ่งของเงินเดือนที่จะได้รับทั้งหมดจนสิ้นสุดสัญญา
หลังจากการแยกทาง สมาคมฯ โดยฝ่ายเทคนิคและแป้ง ได้รับฟังเสียงวิพากษ์วิจารณ์มาตลอดทั้งวัน ซึ่งแป้งมิได้เคยนิ่งดูดายกับทุกปัญหาที่เข้ามา ดังที่แป้งเคยพิสูจน์ให้ทราบมาแล้วโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นปัญหาวิกฤตทางการเงินที่เกิดขึ้นกับสมาคมฯ หรือ ปัญหาเกี่ยวกับลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด ซึ่งในที่สุดการเลือกที่จะเงียบในการทำงาน บางครั้งก็มักจะถูกวิพากษ์วิจารณ์เสมอ
ในขณะนี้ แป้ง และ ฝ่ายเทคนิค พิจารณาร่วมกันแล้วว่า ในช่วงเวลาสำคัญและกระชั้นชิดแบบนี้ จึงตัดสินใจแต่งตั้ง “แอนโธนี ฮัตสัน” ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาเทคนิคของสมาคมฯ เข้ามาทำหน้าที่แทนโดยทันที เพราะที่ผ่านมา แอนโธนี ฮัตสัน เปรียบเสมือนคนที่อยู่กับฟุตบอลไทยมาในทุกระดับ ทั้งประสบการณ์คุมทีมสโมสร และในฐานะผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาเทคนิค ที่สำคัญ ยังมีประสบการณ์ในระดับนานาชาติ ทั้งการเป็นอดีตหัวหน้าผู้ฝึกสอนของ 3 ประเทศ อย่าง ทีมชาติสหรัฐอเมริกา , ทีมชาตินิวซีแลนด์ และ ทีมชาติบาห์เรน โดยเชื่อว่าเป็นคนที่เหมาะสมมากที่สุดในเวลานี้
สมาคมฯ มีปัญหามากมายที่แป้งเข้ามาแก้ไข ดังที่ทุกท่านทราบกันดีอยู่แล้ว ในหลากหลายวิกฤตด้วยกัน แป้งไม่เคยดราม่า หรือ ตำหนิผู้ใด มีแต่พยายามแก้ไขต่อไปอย่างดีที่สุดท่ามกลางความยากลำบาก
ในวงการฟุตบอล การปลดโค้ชเป็นเรื่องธรรมดา และ “ฟุตบอลระดับทีมชาติ ไม่ใช่ห้องทดลอง เรามีเกมให้เล่นเพียงแค่ครั้งเดียวใน 90 นาทีเท่านั้น แพ้ ชนะ เสมอ มีผลต่อความรู้สึกของแฟนบอล และมีผลต่อความสำเร็จของสมาคมฯ ซึ่งมีนายกสมาคมฯ รับผิดชอบอยู่
ดังนั้น ไม่ว่าจะเทคนิคอะไรก็ตาม ทุกเกมมีความสำคัญ และเราใช้ตัวเลขที่เป็นวิทยาศาสตร์เป็นสิ่งชี้วัด ไม่มีอคติใดๆ แป้งเป็นคนเคารพในความเป็นมืออาชีพของโค้ชทุกคน เคยร่วมงานกับโค้ชมากมาย การปลดโค้ชเป็นสิ่งธรรมดาที่เกิดขึ้นในโลกฟุตบอล ถ้าผลงานไม่เป็นที่ประจักษ์หรือไม่สมกับความคาดหวัง อย่าลืมว่าทีมชาติไทยคือหน้าตาของประเทศไทย ที่ต้องแข่งขันเพื่อผลลัพธ์ในสนาม และความเชื่อมั่นของแฟนบอล เพราะสุดท้ายแล้ว ผลการแข่งขันของทีมชาติไทย คือสิ่งที่สะท้อนศักยภาพของฟุตบอลไทยในระดับนานาชาติ
มีกระแสมากมายที่เราปั้นดาวรุ่งแน่นอน เราทำคู่ขนาน รวมทั้งนักเตะที่ขึ้นมาเป็นระดับซุปเปอร์สตาร์ อย่างเช่น นักเตะยอดเยี่ยมของสมาคมฯ ปีที่แล้ว นิโคลัส มิเกลสัน ซึ่งได้รับการติดต่อจากแป้ง ตั้งแต่สมัยที่แป้งยังดำรงตำแหน่งเป็นผู้จัดการทีมชาติไทย และมีอีกหลากหลายท่าน ไม่ว่าจะเป็น เบนจามิน เดวิส , ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร หรือนักเตะดาวรุ่งอีกมากมาย
แป้งในฐานะนายกสมาคมฯ ออกมาแถลงการณ์นี้ เพื่อที่จะปกป้องศักดิ์ศรีของสมาคมฯ ฝ่ายเทคนิค และสภากรรมการ โดยสภากรรมการชุดนี้ตั้งใจเข้ามาทำงาน ซึ่งแป้งต้องขอขอบคุณที่เราเข้ามารวมน้ำใจกันด้วยการไม่รับเงินเดือนแม้แต่คนเดียว
อย่างไรก็ตาม แป้งขอกราบขอบพระคุณ และน้อมรับในทุกคอมเม้นท์ รวมถึงข้อเสนอแนะจากแฟนบอล แป้งเคารพผู้เล่นคนที่ 12 เสมอ
แป้งขอให้คำมั่นอีกว่า แป้งจะนำพาฟุตบอลไทยไปให้เจริญรุ่งเรืองให้ได้ ขอกราบแฟนบอลไทยให้โอกาสแป้ง และสภากรรมการชุดนี้ด้วย
ในฐานะนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ผู้หญิงคนแรกของประเทศไทย และคนแรกของเอเชีย แป้งรู้สึกเป็นเกียรติที่ทำหน้าที่นี้ เส้นทางนี้มีทั้งดอกไม้และก้อนหิน จิตใจของลูกผู้หญิงอย่างแป้งขอน้อมรับทุกคำติชม ด้วยความเคารพ
กราบจากใจ
“มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ
นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์
Advertisement