บอล ภราดร ย้อนช่วงพีค แค่ติดสปอนเซอร์บนเสื้อ รับทรัพย์เฉียด 200 ล้าน!
บอล ภราดร ศรีชาพันธุ์ อดีตนักเทนนิสมือวางอันดับ 9 ของโลก ย้อนช่วงพีค แค่ติดสปอนเซอร์บนเสื้อ รับทรัพย์เฉียด 200 ล้าน!
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
บอล ภราดร ศรีชาพันธุ์ อดีตนักเทนนิสมือวางอันดับ 9 ของโลก ให้สัมภาษณ์ถึงชีวิตในช่วงที่เป็นนักกีฬาอาชีพ ในช่วงพีค แค่ติดสปอนเซอร์บนเสื้อ รับทรัพย์เฉียด 200 ล้านบาท! ชุดนักกีฬาส่วนไหนแพงสุด และถ้าย้อนไปได้จะไม่เล่นแมตช์นี้ ผ่านช่อง BenzKhomKorr โดยเผยว่า
บอล ภราดร เผยว่าไอดอลในการเริ่มเล่นเทนนิสของตนคือ "ไมเคิล ชาง" ซึ่งเป็นนักเทนนิสชาวจีนสัญชาติอเมริกัน ซึ่งตอนนั้นรู้สึกเท่ ที่เห็นคนเอเชียตัวเล็กๆ สามารถได้เป็นแชมป์เฟรนช์ โอเพ่น ซึ่งเป็นรายการแกรนด์สแลมในวัยแค่ 17 ปี ตนจึงมุ่งมั่นฝึกซ้อม ลงแข่งขันจนติดทีมชาติไทยตั้งแต่อายุ 14 ปี แมตช์ประทับใจที่สุดคือ เทนนิสชายคู่ เอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 13 ที่ประเทศไทย แมตช์นั้นลงแข่งคู่กับพี่ชาย ก่อนจะได้เหรียญทองมาครองสมใจ ส่วนเทนนิสอาชีพเริ่มตั้งแต่อายุ 19 ปี แล้วขึ้นจุดสูงสุดของการเป็นนักเทนนิสอาชีพด้วยการขึ้นเป็นมือวางอันดับ 9 ของโลก ในวัย 23 ปี
ในช่วงที่ติดท็อปเท็นของโลก จะมีสปอนเซอร์เข้ามาให้การสนับสนุน โดยช่วงนั้นสปอนเซอร์ตัวนึงจะตกอยู่ที่ 30-40 ล้านบาท โชคดีที่ช่วงนั้นตนเป็นนักเทนนิสเอเชียเพียงคนเดียวที่โดดเด่นจึงได้รับการสนับสนุนจากแบรนด์ต่างๆ ซึ่งจะการติดโลโก้ที่เสื้อในขณะลงแข่ง ซึ่งส่วนที่แพงที่สุดบนร่างกายคือบริเวณ "หน้าอก" ตนได้รับค่าเหนื่อยถึง 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 175 ล้านบาท ยังไม่รวมในส่วนอื่นๆ บนเสื้ออีก ซึ่งกีฬาเทนนิสสามารถติดโลโก้ได้ 3 จุด ถือว่าน้อยเมื่อเทียบกับกีฬากอล์ฟที่ติดได้หลายจุด ซึ่งในช่วงเวลาที่ตนกำลังรุ่งสุดขีดมีรายได้เฉลี่ยปีละหลายร้อยล้านบาท
ส่วนแมตช์ที่ย้อนไปได้จะไม่ลงเล่นคือ ในเดือนพฤศจิกายน ปี 2006 ตนลงแข่งกับ โรเจอร์ เฟเดอร์เรอร์ ที่สวิตเซอร์แลนด์ซึ่งตนแพ้อย่างสูสี ซึ่งหลังจากนั้นเป็นช่วงที่ตนต้องการพักฟื้นร่างกายเพราะเทนนิสอยู่ในชวงพักเบรกก่อนปีใหม่ แต่ในระหว่างนั้นมีการแข่งขันเอเชียนเกมส์ที่กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ ซึ่งตนเป็นแชมป์เก่าเหรียญทอง แต่ตอนนั้นไม่อยากลงแข่งเพราะเริ่มมีอาการบาดเจ็บ จึงขอถอนตัวจากทีมชาติ แต่ด้วยอะไรหลายๆ อย่างทำให้ต้องไปลงแข่ง
จากการที่ฝืนสภาพร่างกายทำให้เกิดอาการบาดเจ็บเส้นเอ็นที่ข้อมือฉีกขาดทั้งหมด รู้ตัวตอนนั้นเลยว่าร่างกายจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป จนต้องถอนตัวจากการแข่งขันกลางคัน และได้เดินทางไปผ่าตัดรักษาตัวที่เยอรมนีรักษาตัวอยู่เป็นปีกว่าจะดีขึ้น แล้วมาเจ็บซ้ำที่เดิม กระดูกด้านล่างใกล้กับนิ้วก้อยมีรอยแตกเพิ่มขึ้นมาอีก จึงรู้สึกว่าเรื่องนี้ยังติดอยู่ในใจว่า หากย้อนไปได้จะใจแข็ง ปฏิเสธไม่ลงเล่นเอเชียนเกมส์ครั้งนั้น เพราะหากได้พักคงได้เล่นเทนนิสอาชีพต่อ ไม่ต้องประกาศแขวนแร็กเกต
Advertisement
