ทนายเกิดผล ยกมือไหว้ ขอโทษกองทัพเรือ พลาดโพสต์เขต8 จับซีล
ทนายเกิดผล ยกมือไหว้ ขอโทษกองทัพเรือ ยอมรับผิดพลาด ไม่ตรวจสอบข้อมูลก่อน หลังโพสต์ เขต8 จับซีล ยืนยันหากมีการดำเนินคดีพร้อมรับผิด
จากกรณีที่นาย เกิดผล แก้วเกิด หรือ ทนายเกิดผล ทนายความ โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กพาดพิงถึงหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ กองทัพเรือ ระบุว่า “เขต 8 ห้าวสุดจับหน่วยซีลที่แฝงตัวเข้าไปไว้เป็นตัวประกันเรียกค่าไถ่ 40,000 บาท”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
หลังจากโพสต์ได้เพียงแค่ 2 ชั่วโมงในเวลาประมาณ 22.00 น. วันที่ 28 พ.ย. ที่ผ่านมา ได้มีการลบโพสต์ดังกล่าว ทำให้บนโลกโซเชียลตื่นตระหนกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ต่อมาวันที่ 29 พ.ย. 68 ทนายเกิดผลได้นัดสื่อมวลชนแถลงข่าว พร้อมยกมือไหว้ขอโทษกองทัพเรือ พร้อมระบุว่า ขอโทษคนที่เกี่ยวข้อง การที่โพสต์เมื่อคืนเกิดจากการเข้าใจผิดได้รับข้อมูลมาโดยที่ไม่ได้มีการตรวจสอบให้เรียบร้อย บื้องต้นทางโฆษกกองทัพเรือได้มีการโทรศัพท์เข้ามาหา และมีการพูดคุยปรับความเข้าใจกันแล้ว ทางกองทัพเรือบอกว่าไม่ได้ติดใจอะไร เพราะเข้าใจว่าเป็นเหตุการณ์ที่เข้าใจกันผิด แต่โพสต์ดังกล่าวทำให้ครอบครัวของเจ้าหน้าที่เกิดความกังวล เนื่องจากไม่สามารถติดต่อกับเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานภายในหน้างานได้
ส่วนเรื่องที่ตัวเองมีการโพสต์ข้อความไปนั้น ได้รับข้อมูลจากผู้สื่อข่าวช่องหนึ่งมาสัมภาษณ์เกี่ยวกับข้อกฎหมาย ในเหตุการณ์น้ำท่วมภายใน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยได้มีการให้ดูข้อความ ระบุว่า “หน่วยซีล เรียกตัวไปปฏิบัติงานในเขต 8 และถูกจับตัวเรียกค่าไถ่ 20,000-40,000 บาท” และถามว่ากรณีนี้แบบนี้มีมีความผิดทางด้านกฎหมายอย่างไรบ้าง ตัวเองจึงได้มีการอธิบายตามข้อกฎหมายไป หลังสัมภาษณ์เสร็จก็ได้มีการพูดคุยกับผู้สื่อข่าวคนดังกล่าวว่า เหตุการณ์มันรุนแรงขนาดนี้เลย กล้าที่จะมีการท้าทายอำนาจรัฐ ด้วยความเข้าใจของตัวเอง คนที่นำข้อความมาให้ดูเป็นถึงผู้สื่อข่าวช่องหลักจึงเข้าใจว่าข้อความดังกล่าวเป็นความจริงผ่านการกรองมาแล้ว จึงมีการโพสต์ข้อความดังกล่าว เพื่อต้องการให้สังคมจับตาหรือพิจารณาถึงกลุ่มบุคคลที่อยู่ภายในเขต 8 เป็นพิเศษ แต่ตัวเองไม่ได้คิด และลืมคิดไปถึงเรื่องความมั่นคง และกำลังใจของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง
หลังจากที่ตัวเองโพสต์ข้อความไปได้ไม่นาน ผู้สื่อข่าวในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ ได้โทรศัพท์มาหาตัวเอง พร้อมถามว่าข่าวดังกล่าวเป็นข่าวมาจากที่ไหน เพราะคนในพื้นที่ไม่ทราบข่าว ตนจึงโทรศัพท์กลับไปหาผู้สื่อข่าวคนแรกที่มาสัมภาษณ์ว่าข้อมูลดังกล่าวมาจากไหน ผู้สื่อข่าวคนนั้นแจ้งว่าเป็นคำสั่งจากกองบรรณาธิการที่แจ้งให้สัมภาษณ์ในประเด็นนี้ เพื่อไปหาในข้อกฎหมาย ส่วนตัวยอมรับว่าเป็นการสื่อสารที่ไม่ครบถ้วน เป็นการทำให้เกิดความเข้าใจผิดจนทำให้เกิดความวุ่นวายจนขอรับความผิดไว้แต่เพียงผู้เดียวที่ไม่ได้ไตร่ตรองก่อนโพสต์
พร้อมบอกว่า ตัวเองไม่ได้มีข้อมูลอะไรเป็นพิเศษเกี่ยวกับเขต 8 แต่เราทำงานมาไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ แน่นอนว่าในพื้นที่อุทกภัยจะมีในเรื่องของการลักเล็กขโมยน้อย แต่ถึงขึ้นปล้นสะดม หรือการขัดขวางการปฎิบัติงานของจิตอาสายังไม่เคยเจอเขต 8 เป็นที่แรกที่เคยเห็นรุนแรงถึงขั้นท้าทายอำนาจของกฎหมาย
ส่วนความผิดมองว่าขึ้นอยู่แต่ละการกระทำแต่ละกรรม เช่นการยิงปืน เป็นความผิดฐานข่มขู่ ปล้นสะดมลักทรัพย์ก็เกิดความผิดในฐานลักทรัพย์ ส่วนตัวเชื่อว่าน่าจะมีผู้ที่อยู่เบื้องหลังเป็นผู้ที่มีอิทธิพลคอยสั่งการ ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นก็จะเข้าข่ายความผิดซ่องโจร และเชื่อว่าหลังจากนี้ทางเจ้าหน้าที่จะต้องมีการกวาดล้างในพื้นที่เขต 8
เมื่อถามว่า เหตุการณ์ครั้งนี้ถือว่าเป็นบทเรียนหรือไม่ ทนายเกิดผล ระบุว่า คงไม่ใช่บทเรียนของตัวเองคนเดียว คงเป็นประสบการณ์ของทุกคนที่มีผลกระทบต่อทุกคนที่เกี่ยวข้อง จะต้องมีการตรวจสอบรายละเอียดให้มีความละเอียด และควรมีการตรวจสอบแหล่งข่าวให้ชัดเจนก่อนจะสื่อสารออกไป ก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ยังดีที่ว่ายังไม่เกิดเรื่องร้ายขึ้น พร้อมบอกว่าถ้าหากจะมีการดำเนินคดีอะไรกับตนเองก็พร้อมยอมรับทุกอย่าง เพราะตัวเองทำลงไปโดยไม่พิจารณาและไตร่ตรองให้ดี
ในส่วนความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์การนำเข้าสู่ข้อความอันเป็นเท็จเรื่องนี้ จะต้องมีความเสียหายเกิดขึ้น ส่วนตัวมองว่ายังไม่มีใครเสียหาย และยังไม่มีใครเข้ามาร้องทุกข์ดำเนินคดีกับตนเอง
Advertisement
