
วันนี้ (27 ตุลาคม 2568) ชาวบ้านห้วยทราย ม.4 ต.หนองบัวน้อย อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ได้รวมตัวกันมาที่วัดห้วยทราย เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงกรณีเจ้าอาวาสวัดไปเบิกเงินที่ได้จากการจัดงานบุญกฐินมาใช้อย่างไม่โปร่งใส โดยมีพระครูปทุมสราภิบาล เจ้าคณะตำบลหนองบัวน้อย อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา มาเป็นประธานรับฟังปัญหาที่เกิดขึ้น
นายอารีย์ เปียนขุนทด อายุ 68 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านที่เป็นกรรมการวัดและเป็นไวยาวัจกรของวัดดังกล่าว เปิดเผยว่า “พระอธิการดอกรัก เจ้าอาวาสวัดห้วยทราย ได้ขอเบิกเงินมาไว้จ่ายค่าน้ำค่าไฟ ครั้งแรกเบิกมา 35,000 บาท หลังจากนั้น ประมาณ 14 วัน ก็มาเบิกออกไปอีก จำนวน 65,000 บาท โดยครั้งที่ 2 นี้ เจ้าอาวาสได้ให้กรรมการวัดอีกชุด เป็นคนเซ็นเบิกให้ ซึ่งตนไม่ว่ามีการเบิกเงินออกมาอีกและกรรมการอีกชุดก็ไม่มาแจ้งให้ทราบในตอนนั้น ซึ่งยอดเงินที่บวก 2 ครั้ง รวมกันทั้งหมด 100,000 บาท แต่ไม่มีสลิปการใช้เงินมาชี้แจงให้ชาวบ้านได้รู้ และเงินทั้งหมดตอนนี้อยู่ที่ไหน เหลือเท่าไร ไม่มีใครทราบ จึงอยากให้เจ้าอาวาสออกมาชี้แจงกรณีที่เกิดขึ้น ซึ่งตอนที่เจ้าอาวาสเบิกเงินก้อนแรก ตนเพียงแค่เซ็นรับรองเบิกเท่านั้น และรู้แค่ว่า เจ้าอาวาสจะเบิกไปจ่ายค่าไฟฟ้า ค่าน้ำ จำนวน 35,000 บาท
ส่วนการเบิกรอบ 2 จำนวน 65,000 บาท มีนางกุสมา อายุ 64 ปี อดีตผู้ใหญ่บ้าน และเป็นกรรมการวัด เป็นคนเซ็นเบิกรับรอง ซึ่งเงินก้อนที่ 2 นี้ นางกุสมา ฯ ได้ออกมาชี้แจงว่า เจ้าอาวาสเบิกออกไปให้ช่างทาสีหอระฆังและกำแพงวัดใหม่ ส่วนเงินที่เหลือเจ้าอาวาสไม่ได้แจ้งว่าเอาไปทำอะไร ซึ่งนางกุสุมาฯ ได้มอบเงินให้กับเจ้าอาวาสไปหมดแล้ว เพราะเจ้าอาวาส บอกว่าจะเอาไว้เตรียมงานต่างๆ
นอกจากนี้ ยังมีชาวบ้านมาแจ้งเรื่องเจ้าอาวาสมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม อาทิ มีชาวบ้านเห็นเจ้าอาวาสใช้เด็กวัดออกไปซื้อเหล้ามากินด้วย
ขณะที่พระอธิการดอกรัก เจ้าอาวาสวัดห้วยทราย ได้ชี้แจงกรณีต่างๆ ที่เกิดขึ้น ว่า “จำพรรษาที่วัดนี้มานาน 28 พรรษาแล้ว อยู่กับพระลูกวัดอีกรูปหนึ่ง ซึ่งการเบิกเงินวัดออกมาแต่ละครั้ง จะต้องให้กรรมการวัดอย่างน้อย 2 ใน 3 เซ็นรับรู้อนุญาตทุกครั้ง และยอดเงินที่เบิกออกมา 2 ครั้ง รวมยอด 100,000 บาทนั้น เอามาใช้จ่ายภายในวัดจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นค่าไฟ ค่าน้ำ และใช้จ่ายของต่างๆ ภายในวัดทั้งนั้น ไม่มีเจตนาจะนำเงินมาใช้ส่วนตัวเลย ซึ่งรายละเอียดการเบิกจ่ายที่ชาวบ้านมาขอดู ก็ส่งมอบรายการใช้จ่ายไปให้ดูหมดแล้ว
ส่วนกรณีที่มีชาวบ้าน บอกว่า ตนเคยใช้เด็กวัดออกไปซื้อเหล้ามากินนั้น ขอชี้แจงว่า ตนซื้อมาถวายให้เจ้าแม่ตะเคียน ที่เหลือก็แบ่งให้คนงานที่มาทำงานภายในวัดไปกินกัน ไม่ได้เอามากินเอง”
ซึ่งหลังจากถูกชาวบ้านซักไซ้ไต่ถามอย่างดุเดือดในที่ประชุมรวมตัวครั้งนี้ เจ้าอาวาสฯ ได้ยอมรับสารภาพว่า เบิกเงินออกมาและเงินบางส่วนไปรักษาพ่อที่อยู่ป่วย ซึ่งทำให้ชาวบ้านรู้สึกไม่พอใจมากยิ่งขึ้น จึงตัดสินขอให้เจ้าอาวาสย้ายออกไปจำพรรษาที่วัดอื่นโดยเร็ว เพราะไม่มีความโปร่งใสและประพฤติตัวไม่เหมาะสมหลายอย่าง ทำให้ชาวบ้านหมดความศรัทธา ซึ่งเจ้าคณะตำบลจะได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างละเอียดสำหรับทุกๆ กรณีที่เกิดขึ้น และพิจารณาบทลงโทษ เพื่อยุติปัญหาและไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ขึ้นซ้ำ
Advertisement