
วันที่ 23 ตุลาคม 2568 เมื่อเวลา 14.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีชาวบ้านในพื้นที่เกาะสีชัง ต.ท่าเทววงษ์ อ.เกาะสีชัง จ.ชลบุรี ร้องเรียนให้พระครูสาธิตกิตติญาณเจ้าอาวาสวัดราษฎร์นิยมธรรมศรีราชา ในฐานะเจ้าคณะอำเภอเกาะสีชัง ตรวจสอบถึงการกระทำของ พระอาจารย์ขาว เจ้าอาวาสวัดจุฑาทิศธรรมสภาราม และยังเป็นเจ้าคณะตำบลท่าเทววงษ์ว่ามีการยักยอกนำเงินจากการทอดกฐินของทางวัดตั้งแต่ปี2564 ไปใช้ส่วนตัว รวมมูลค่ากว่า 11 ล้านบาท
นอกจากนี้ยังมีบรรดาญาติพี่น้องของเจ้าอาวาส ยึดครองการทำหน้าที่ต่างๆภายในวัดและศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่อีกด้วย
ต่อมาพระครูสาธิตกิตติญาณ เจ้าอาวาสวัดราษฎร์นิยมธรรมศรีราชา ในฐานะเจ้าคณะอำเภอเกาะสีชัง ได้ส่งเรื่องให้ทางสำนักพระพุทธศาสนาจังหวัดชลบุรี ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมด
และจากการตรวจสอบพบพฤติกรรมไม่โปร่งใสของพระอาจารย์ขาว เจ้าอาวาสวัดจุฑาทิศธรรมสภาราม ไม่ได้นำเงินจากงานทอดกฐินสามัคคีที่ประชาชนร่วมบริจาคบูรณะอุโบสถเข้าบัญชีทางวัด แต่เก็บเป็นเงินสดและบางส่วนถูกนำเข้าบัญชีตัวเอง
โดยทางสำนักพระพุทธศาสนาจังหวัดชลบุรี ตรวจสอบพบว่าเงินจากงานทอดกฐินสามัคคีตั้งแต่ 2564 จนถึงปัจจุบัน ไม่ได้ถูกโอนเข้าบัญชีวัดประกอบด้วยงานทอดกฐินสามัคคีปี 2565 จำนวนเงิน 6 ล้านบาท ปี 2566 จำนวนเงิน 2.1 ล้านบาท ปี2567 จำนวนเงิน 2.9 ล้านบาท และล่าสุดปี2568 งานทอดกฐินพระราชทาน ซึ่งมีนายธวัชชัย ศรีทอง อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี และเป็นคนเกาะสีชังโดยกำเนิด เป็นประธานในพิธีได้เงินจำนวน 3 ล้านบาท แต่โชคยังดีเงินทอดกฐินพระราชทานถูกควบคุมดูแลโดยสำนักพระพุทธศาสนาจังหวัดชลบุรีไว้แล้ว จึงไม่สามารถนำไปได้
ล่าสุดเมื่อเร็วๆนี้พระวชิราลังการ(อาจารย์ขาว)เจ้าอาวาสวัดจุฑาทิศธรรมสภาราม ได้เดินทางเข้าพบพระเทพวชิรปัญญาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดพระรามหลวงวัดชัยมงคลรักษาการแทนเจ้าคณะจังหวัดชลบุรี เพื่อทำการลาสิกขา ก่อนเดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหากับพ.ต.ต.ณัฐพงษ์ สุทธิพัฒนกูล สว.เวรสอบสวนเจhาของคดีที่สภ.เกาะสีชัง จ.ชลบุรี
จากการสอบสวน อ้างว่าถูกหญิงสาวรายหนึ่งเข้ามาตีสนิทเป็นเวลานานจนกระทั่งในปี 2565 เริ่มมีการชวนลงทุนหลากหลายชนิด จนกระทั่งติดต่อหญิงรายดังกล่าวไม่ได้แล้ว
อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจากพบพฤติกรรมโอนเงินจำนวนหลักแสนหลายครั้ งโดยโอนให้หญิงสาวที่กล่าวอ้าวรวมถึงญาติพี่น้อง อาทิน้องชาย น้องเขย ที่ทำหน้าที่ไวยาวัจกรวัด และพี่สาวที่ทำหน้าที่ดูแลอาศรม รวมถึงนำไปซื้อรถกระบะในชื่อตัวเองจำนวน 1 คัน
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้แจ้งข้อหายักยอกทรัพย์ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบและรวบรวมหลักฐานทั้งหมด เพื่อส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
Advertisement