เมื่อเวลา 14.40 น. วันที่ 17 ตุลาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเกิดพายุฝนลมกระโชกแรงในหลายพื้นที่ของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ส่งผลให้เกิดความเสียหายหลายจุด โดยเฉพาะบริเวณโรงจอดรถตรงข้าม สภ.วังน้อย ต.ลำตาเสา อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา เกิดเหตุต้นจามจุรีขนาดใหญ่ อายุประมาณกว่า 50 ปี ถูกพายุพัดหักโค่นล้มทับโรงจอดรถ ส่งผลให้รถยนต์ได้รับความเสียหายจำนวน 12 คัน ส่วนใหญ่เป็นรถยนต์ของข้าราชการตำรวจและมีรถยนต์ของกลางในคดียาบ้า 2 ล้านเม็ด รวมอยู่ด้วย 1 คัน
หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลเมืองลำตาเสา ได้ประสานนำเครนเข้ายกหลังคาโรงจอดรถที่ถูกต้นไม้กดทับ พร้อมเร่งตัดกิ่งก้านต้นไม้เพื่อเปิดทางนำรถยนต์ออกและสำรวจความเสียหายเบื้องต้น
นางรัชนี บุญเอื้อ อายุ 43 ปี แม่ค้าขายน้ำบริเวณใกล้เคียงเล่าว่า ขณะเกิดเหตุมีฝนตกลงมาและลมแรงได้ยินเสียงสังกะสีของโรงจอดรถหมุนดังสนั่น ก่อนเห็นต้นจามจุรีโยกแรงและล้มทับโรงจอดรถทำให้รถที่จอดอยู่ภายในได้รับความเสียหายหลายคัน ตนตกใจมากจนรีบวิ่งเข้าไปหลบในร้าน และยอมรับว่ายังรู้สึกผวาเพราะไม่เคยเจอเหตุการณ์รุนแรงเช่นนี้มาก่อน
ด้านนายภัทรธรรม อาร้อน อายุ 31 ปี ซึ่งจอดรถไว้ในจุดเกิดเหตุเผยว่าก่อนเกิดเหตุอากาศยังมีแดดแรง จึงให้ลูกสาววัย 8 ขวบรออยู่ในรถระหว่างเข้าไปทำเรื่องเคลมประกันให้ลูกค้า แต่ไม่นานฝนก็ตกหนักและลมแรงจากนั้นได้ยินเสียงต้นไม้หักล้มทับหลังคาโรงจอดทุกคนต่างวิ่งหนีออกมาดูด้วยความตกใจ
“ตอนนั้นได้ยินเสียงชาวบ้านตะโกนว่ามีเด็กอยู่ในรถที่ถูกต้นไม้ทับ เพราะลูกสาวร้องเสียงดังมาก ผมรีบวิ่งไปอุ้มลูกออกจากรถทันที เหตุการณ์นี้ถือเป็นอุทาหรณ์ให้กับคนที่มักจอดรถใต้ต้นไม้ใหญ่ เพราะเราไม่รู้เลยว่าต้นไม้จะหักโค่นลงมาตอนไหน” นายภัทรธรรมกล่าว
เบื้องต้นทางกองช่างเทศบาลเมืองลำตาเสาได้ระดมคนงานเข้าตัดกิ่งก้านต้นจามจุรีออก เพื่อเคลียร์พื้นที่และตรวจสอบความเสียหายของรถยนต์ทั้งหมดอย่างละเอียด พร้อมเตรียมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าดำเนินการซ่อมแซมพื้นที่ในส่วนที่ได้รับผลกระทบต่อไป
Advertisement