ความคืบหน้ากรณีที่ผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียนแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ ได้เข้าไปสอบถามข้อเท็จจริงและเรียกร้องความเป็นธรรมที่โรงเรียน หลังได้รับแจ้งว่าลูกหลาน ซึ่งเรียนอยู่ชั้น ม.2 จำนวน 2 คน เป็นนักเรียนชาย 1 คน นักเรียนหญิง 1 คน ถูกครูผู้หญิงคนหนึ่งชื่อครูเอ (นามสมมติ) ใช้เท้าเตะนักเรียนทั้ง 2 คน ขณะเข้าแถวหน้าเสาธงต่อหน้านักเรียนที่กำลังเข้าแถวหลายคน สาเหตุเนื่องจากนักเรียนทั้ง 2 คนยืนเท้าไม่ชิดกันขณะเข้าแถว ทำให้ครูเอ ไม่พอใจ โดยขณะครูเอ ใช้เท้าเตะที่ต้นขาของนักเรียนชาย รองเท้าของครูก็หลุดกระเด็นออกจากเท้า
ซึ่งผู้ปกครองบอกว่าแม้เด็กนักเรียนที่ถูกเตะทั้ง 2 สอง จะไม่ถึงขั้นเลือดตกยางออก แต่การใช้เท้าเตะเป็นวิธีการที่ไม่เหมาะสม น่าจะมีวิธีการลงโทษที่ดีกว่านี้ เพราะเด็กแค่ยืนเท้าไม่ชิดไม่ได้ทำผิดร้ายแรง
และยิ่งได้รับทราบข้อมูลจากเด็กนักเรียนหลายคน ยังให้ข้อมูลว่าครูคนดังกล่าวมีพฤติกรรมชอบใช้อารมณ์ดุด่าด้วยอารมณ์รุนแรง บางครั้งใช้คำพูดที่หยาบคาย และล่าสุดก็ใช้วิธีทำโทษที่เกินกว่าเหตุ ผู้ปกครองจึงเรียกร้องให้ทางโรงเรียนหรือต้นสังกัดย้ายครูคนดังกล่าวออกจากพื้นที่ หากปล่อยให้สอนต่ออาจจะกระทำซ้ำอีก ซึ่งหากไม่ย้ายครูออกผู้ปกครองก็อาจจะย้ายลูก หลาน ของตัวเองไปเรียนที่อื่น เพราะไม่อยากให้เจอกับเหตุการณ์แบบนี้
ล่าสุดวันนี้ (12 ก.ย.68) ผู้ปกครองได้มีการเผยคลิปหลักฐาน ขณะที่ครูสาวคนดังกล่าว ใช้อารมณ์ตะโกนต่อว่าทั้งเพื่อนครูด้วยกัน และนักเรียนที่เข้าแถวหน้าเสาธง ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ครูเดินไปเตะต้นขาของนักเรียน 2 คน เพราะยืนเท้าไม่ชิดกัน แต่จังหวะที่ครูใช้เท้าเตะเด็กนักเรียนไม่สามารถบันทึกได้ แต่ผู้ปกครองก็เตรียมที่จะทำหนังสือขอดูกล้องวงจรปิดของโรงเรียนว่าสามารถบันทึกภาพขณะที่ครูเตะนักเรียนที่เป็นบุตรหลานของตัวเองได้หรือไม่เพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐาน
ขณะที่ ผอ.เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์ เขต 1 ได้มีคำสั่งให้ครูสาว คนดังกล่าวไปช่วยราชการที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์ เขต 1 โดยมีผลทันทีวันนี้ ซึ่งภายหลังออกคำสั่งครูที่ถูกกล่าวหา ก็ได้เดินทางมาช่วยราชการที่เขตแล้ว ทั้งนี้จากการสอบถามจากเจ้าหน้าที่ที่เขต ทราบว่าครูมีสีหน้ากังวล และเครียดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งการออกคำสั่งให้ครูที่ถูกร้องเรียนกล่าวหามาช่วยราชการ เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาในเบื้องต้น ลดความขัดแย้งระหว่างผู้ปกครองและครู ทั้งเพื่อความสบายใจของเด็กนักเรียน หลังจากนี้ก็จะพิจารณาดำเนินการตามระเบียบขั้นตอน ซึ่งการพิจารณาจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
Advertisement