"ลุงสมหมาย" รับทราบข้อหาทำร้ายทหารเขมร วอนกองทัพเรียกตัว
"ทนายโนบิ" พา"ลุงสมหมาย" รับทราบข้อกล่าวหาทำร้ายทหารเขมร พร้อมเเจ้งความเอาผิด ป้าโมนิกา ยุยงปลุกปั่น วอนกองทัพเรียกตัวเข้าประจำการ
เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา (19 ก.ค.68) นาย สมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพรานค่ายปักธงชัย ได้เดินทางไปที่ สภ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาในคดีทำร้ายร่างกายทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เมื่อวันที่ 13 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยเดินทางมาพร้อมกับ นายกฤษฎา โลหิตดี หรือ ทนายโนบิ ซึ่งรับเป็นทนายความของนายสมหมาย เเละนายภาณุมาศ จิตรวศินกุล เจ้าของเพจ "เฮียเปี๊ยกช่วยด้วย" ร่วมเดินทางมาด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
นายกฤษฎา โลหิตดี หรือ ทนายโนบิ เปิดเผยว่า ตนเองได้รับมอบหมายจาก "กัน จอมพลัง" ให้เข้ามาดูแลนายสมหมายในส่วนของคดีความ วันนี้จึงพานายสมหมายมารับทราบข้อกล่าวหา เพื่อแสดงให้เห็นว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นเกิดอยู่บนแผ่นดินไทย การบังคับใช้กฎหมายเป็นไปตามกระบวนการของประเทศไทย ซึ่งตัวของนายสมหมายไม่ได้หลบหนี และพร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
นอกจากพานายสมหมายมารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว ภารกิจของตนในวันนี้ คือเข้ามาแจ้งความเอาผิดกับหญิงกัมพูชา ชื่อ "แพน โมนิกา" ที่เข้ามาก่อความวุ่นวายในพื้นที่ประเทศไทยด้วย ดังนั้นก็จะแจ้งข้อกล่าวหาตามมาตรา 116 ในความผิดฐาน "ยุยงปลุกปั่น" ซึ่งวันนี้ลุงสมหมายมาเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายเเล้ว แต่ชาวกัมพูชารายดังกล่าว จะกล้ามารับผิดในสิ่งที่ทำหรือไม่
ซึ่งนักท่องเที่ยวทั่วไปหากจะมาเที่ยวชมความสวยงามของปราสาท ตนเองเข้าใจได้ แต่ในส่วนของบุคคลบางกลุ่มที่ไม่ใช่นักท่องเที่ยว แล้วตั้งใจจะมาก่อความวุ่นวาย เป็นพฤติกรรมที่ไม่สมควรกระทำ เรียกร้องให้ "แพน โมนิกา"มาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมในประเทศไทย
ด้าน นายสมหมาย กล่าวด้วยน้ำตาที่คลอเบ้าว่า ตนเองยอมรับผิดทุกอย่างในสิ่งที่ทำลงไป ตนเป็นลูกผู้ชายกล้าทำย่อมกล้ารับ ในเรื่องเหตุการณ์ทำร้ายร่างกายนั้น ยอมรับว่าตนผิด แต่หากจะกล่าวถึงในฐานะประชาชนคนไทยคนหนึ่ง ที่หวงแหนแผ่นดิน และปกป้องอธิปไตยของชาติ ตนไม่ผิด ตนยอมรับไม่ได้ ที่เห็นต่างชาติล่วงล้ำอธิปไตยของไทย เป็นดินแดนที่ตนหวงแหน และเสียสละปกป้องมาตลอด ในฐานะนักรบชุดดำ ทหารพรานค่ายปักธงชัย ตนยอมไม่ได้ ซึ่งจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนเองพร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ยืนยันว่าจะไม่หลบหนี เพราะนี่คือแผ่นดินของตน นอกจากนี้ตนเองขอเรียกร้องไปยังกองทัพ ขอให้เรียกตนมาประจำการ ถึงแม้ว่าตนจะอายุ 60 ปีแล้ว แต่ตนก็พร้อมที่จะรบเพื่อชาติ
จากนั้น นายสมหมาย ได้เข้ารับทราบข้อกล่าวหาในความผิดฐาน "ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่น" โดย พ.ต.อ.นพดล พินิจอักษร ผู้กำกับการ สภ.พนมดงรัก เป็นผู้แจ้งข้อกล่าวหาด้วยตัวเอง และผู้กำกับฯ ได้อธิบายข้อกฎหมาย ถึงแม้เหตุการณ์นี้จะยังไม่มีเจ้าทุกข์มาแจ้งความ เเต่พฤติการณ์ดังกล่าว เป็นความผิดอาญาแผ่นดิน และเหตุการณ์เกิดขึ้นภายในพื้นที่ของประเทศไทย ดังนั้น ทางตำรวจจึงมีอำนาจในการดำเนินคดีตามกฎหมาย หลังจากนี้ทางพนักงานสอบสวนก็จะส่งเรื่องฟ้องศาลต่อไป
ซึ่งนายสมหมายก็รับฟัง และยอมรับผิดในสิ่งที่ตนได้กระทำ และพยายามบอกตำรวจว่าสิ่งที่ทำลงไปก็ด้วยความรักชาติ ทางผู้กำกับฯ ก็บอกว่าทราบดีในเกียรติประวัติ และคุณูปการของทหารพราน ที่เคยทำเพื่อชาติ ซึ่งคดีดังกล่าวก็ต้องว่ากันไปตามกระบวนการ แต่จากพยานหลักฐานแล้ว เป็นเพียงความผิดลหุโทษ
Advertisement
