ญี่ปุ่นปรับแผนรับมือ เฝ้าระวังจับตาใกล้ชิด "ร่องลึกนันไก" ซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงเกิดอภิมหาแผ่นดินไหว (Megaquake) หลังมีมังงะเคยเขียนเรื่องนี้เอาไว้ จนชาวญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยวหวาดหวั่น
จากกรณีเกิดแผ่นดินไหวแบบกลุ่มบริเวณหมู่เกาะโทการะในรอบ 12 วัน หรือตั้งแต่ 21 มิถุนายน ที่ผ่านมา เกือบ 900 ครั้ง โดยวานนี้ (2 ก.ค.68) เกิดแผ่นดินไหวขนาด 5.5 ลึก 10 กิโลเมตร สร้างความกังวลต่อสถานการณ์ต่อเนื่อง ขณะที่รัฐบาลญี่ปุ่นได้ปรับแผนและมาตรการรับมือจากแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ หรือ อภิมหาแผ่นดินไหว บริเวณ "ร่องลึกนันไก" เพื่อลดความสูญเสีย
"ร่องลึกนันไก" (Nankai Trough) เป็นประเด็นที่ญี่ปุ่นให้ความสำคัญและเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดมาโดยตลอด เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงมากที่จะเกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ หรือ "อภิมหาแผ่นดินไหว" (Megaquake) และสึนามิที่รุนแรงในอนาคต
ร่องลึกนันไกเป็น ร่องน้ำลึกใต้ทะเล ที่มีความยาวประมาณ 700-800 กิโลเมตร ทอดขนานไปกับแนวชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกทางตอนกลางและตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศญี่ปุ่น ตั้งแต่อ่าวซูรูงะ (จังหวัดชิซูโอกะ) ไปจนถึงทะเลฮิวงานาดะ (นอกชายฝั่งคิวชู) เป็นบริเวณที่แผ่นเปลือกโลกฟิลิปปินส์ (Philippine Sea Plate) กำลังมุดตัวเข้าไปใต้แผ่นเปลือกโลกยูเรเชีย (Eurasian Plate) ซึ่งเป็นแผ่นดินที่หมู่เกาะญี่ปุ่นตั้งอยู่ การมุดตัวนี้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องที่ความเร็วประมาณ 3-5 เซนติเมตรต่อปี และเป็นลักษณะของ รอยเลื่อนย้อนมุมต่ำ (Thrust Fault) ซึ่งเป็นรอยเลื่อนอันตรายที่สามารถก่อให้เกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่กว่า 8.0 ขึ้นไป และตามมาด้วยคลื่นสึนามิขนาดใหญ่
จากบันทึกทางประวัติศาสตร์ ร่องลึกนันไกมีประวัติการเกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ระดับ 8 หรือมากกว่า มาแล้วหลายครั้งในช่วง 1,400 ปีที่ผ่านมา โดยมีวงรอบประมาณ 100-200 ปีต่อครั้ง แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ล่าสุดเกิดขึ้นในปี 1946 หรือ ปี พ.ศ. 2489 (โชวะ-นันไก แผ่นดินไหว) ซึ่งผ่านมาประมาณ 79 ปีแล้ว
ปัจจุบัน คณะผู้เชี่ยวชาญของรัฐบาลญี่ปุ่นได้ประเมินความน่าจะเป็นที่จะเกิดแผ่นดินไหวขนาด 8 หรือ 9 ในร่องลึกนันไกภายใน 30 ปีข้างหน้า สูงถึง 82% โดยศูนย์กลางของแผ่นดินไหวอยู่ใกล้กับแนวชายฝั่งอย่างมาก ทำให้สึนามิอาจเข้าถึงชายฝั่งได้ในเวลาอันสั้น บางพื้นที่อาจมีเวลาเตรียมตัวอพยพเพียง 2-3 นาทีเท่านั้น
รายงานล่าสุดในเดือนมีนาคม 2568 ประเมินว่า หากเกิดแผ่นดินไหวขนาด 9 ในร่องลึกนันไกอาจมีผู้เสียชีวิตสูงถึง 298,000 คน (ส่วนใหญ่เกิดจากสึนามิและการถล่มของอาคาร) และสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจมหาศาลถึง 2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 73 ล้านล้านบาท) อาคารบ้านเรือนอาจถูกทำลายถึง 2.35 ล้านหลังคาเรือน
ด้วยความกังวลที่เพิ่มขึ้น รัฐบาลญี่ปุ่นได้ปรับปรุงแผนและมาตรการรับมือแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ โดยตั้งเป้าหมายที่จะลดจำนวนผู้เสียชีวิตที่อาจเกิดขึ้นจากแผ่นดินไหวร่องลึกนันไกให้ได้ถึง 80% ภายใน 10 ปีข้างหน้า และลดความเสียหายของอาคารลง 50%
แผนรับมือที่ปรับปรุงใหม่นี้รวมถึงการเร่งก่อสร้างเขื่อนกั้นคลื่นสึนามิ อาคารอพยพที่ทนทานต่อสึนามิ การฝึกซ้อมอพยพทั่วประเทศที่บ่อยขึ้น การสำรองเสบียงที่จำเป็น และการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานให้ทนทานต่อแผ่นดินไหว อย่างไรก็ตาม แม้มีเป้าหมายที่สูง แต่เจ้าหน้าที่ยอมรับว่ามาตรการที่มีอยู่ในปัจจุบันอาจช่วยลดจำนวนผู้เสียชีวิตได้เพียง 20% เท่านั้น ทำให้ต้องเร่งดำเนินการมากขึ้น
ข่าวการเตรียมความพร้อมของรัฐบาลและการคาดการณ์ทางวิทยาศาสตร์นี้ ประกอบกับกระแสข่าวลือจากการ์ตูนเรื่อง "อนาคตที่ฉันเห็น" ของ เรียว ทัตสึกิ ที่ทำนายว่าจะเกิดภัยพิบัติใหญ่ในวันที่ 5 กรกฎาคม 2568 (แม้จะไม่มีพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์) ได้สร้างความกังวลในหมู่ประชาชนและนักท่องเที่ยวบางส่วน มีรายงานว่านักท่องเที่ยวต่างชาติบางรายได้เลื่อนการเดินทางไปญี่ปุ่นออกไปเนื่องจากความกังวลเหล่านี้
ร่องลึกนันไก นับเป็นภัยคุกคามทางธรรมชาติที่ญี่ปุ่นให้ความสำคัญอย่างจริงจัง รัฐบาลกำลังเร่งดำเนินการเพื่อเตรียมพร้อมรับมือ "อภิมหาแผ่นดินไหว" ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ โดยมีเป้าหมายหลักคือการลดการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินให้ได้มากที่สุด แม้ว่าจะยังไม่มีใครสามารถทำนายเวลาที่แน่นอนของการเกิดแผ่นดินไหวได้ แต่การเตรียมพร้อมคือสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับประเทศที่ตั้งอยู่บน "วงแหวนแห่งไฟ" อย่างญี่ปุ่น
Advertisement