เจ้าหน้าที่วัด เชื่อ “เจ้าคุณอาชว์” หนีไปตั้งหลักสู้คดี
เจ้าหน้าที่วัด เผย “เจ้าคุณอาชว์” เป็นพระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบนักพัฒนา ยอมรับช็อก ไม่คาดคิดว่าจะสึกกะทันหัน เชื่อคงไปตั้งหลัก เพื่อเตรียมหลักฐานสู้คดี
วันที่ 30 มิ.ย.2568 กรณีการลาสิกขาของ พระเทพวชิรปาโมกข์ (อาชว์ อาชฺชวปเสฏฺโฐ) หรือ “เจ้าคุณอาชว์” อดีตเจ้าอาวาสวัดตรีทศเทพ และอดีตเจ้าคณะภาค 14-15 (ธรรมยุต) ที่ได้ทำการสึกด้วยความสมัครใจ ที่วัดจันทร์สามัคคี จ.หนองคาย เมื่อวันที่ 29 มิ.ย.ที่ผ่านมา หลังจากนั้นมีรายงานว่าได้ข้ามไปที่ สปป.ลาวทันที ซึ่งยังคงเป็นปริศนา เนื่องจาก “เจ้าคุณอาชว์” ถือเป็นพระสงฆ์สายธรรมยุตที่อนาคตไกล ได้รับความไว้วางใจจากพระเถระชั้นผู้ใหญ่ให้ดำรงตำแหน่งสำคัญของคณะสงฆ์ธรรมยุตมาโดยตลอด และยังได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดตรีทศเทพได้เพียง 3 ปีเท่านั้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ก่อนที่ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจบก.ปปป. ,ปปท. ลงพื้นที่วัดตรีทศเทพ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร เพื่อขอพบพระชั้นผู้ใหญ่และเจ้าหน้าที่ เพื่อตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายของวัด
ขณะที่ทีมข่าวเดินสำรวจบริเวณโดยรอบวัดจนได้พบกับลุงวุฒิ (นามสมมุติ) ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่วัดที่อยู่วัดมานานกว่า 30 ปี เล่าว่า ที่ผ่านมาเจ้าคุณอาชว์ ถือเป็นพระปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ เป็นพระนักพัฒนา สามารถบริหารจัดการให้วัดเป็นระเบียบมากขึ้น
ส่วนกรณีที่มีข้อมูลว่าทาง เจ้าคุณอาชว์ ไม่ให้เจ้าหน้าที่คนเก่าอาศัยอยู่ในวัด ลุงวุฒิ เล่าว่า ภายในวัดตรีทศเทพ แบ่งพื้นที่ดูแลเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกเป็นของฌาปนสถานตำรวจ ที่มีทั้งหมด 7 ศาลา ที่ใช้สำหรับทำพิธีสวดพระอภิธรรมศพ อีกส่วนเป็นของภายในวัดดูแลที่ประมาณ 2-3 ศาลา ส่วนการจัดการให้เจ้าหน้าที่เก่าของวัดไปอยู่ที่อื่น เป็นทางฝั่งการจัดการของฌาปนสถานตำรวจ ไม่เกี่ยวกับเจ้าคุณอาชว์
ส่วนกรณีเรื่องที่พัวพันเงินวัดและสีกา ทางลุงวุฒิ บอกว่า อาจมีการกลั่นแกล้งกันเกิดขึ้นหรือไม่ เพราะทุกที่ไม่ว่าองค์กรใด ก็มีการไม่ชอบคอหรือกลั่นแกล้งกันเกิดขึ้น และมองว่าการโกงเงินบริจาคของวัดเป็นเรื่องยาก เนื่องจากจะต้องมีกรรมการวัดรวมถึงพระภายในวัดเซ็นรับรอง ถึงจะสามารถเบิกเงินได้
ยอมรับว่า รู้สึกตกใจ หลังทราบข่าวเจ้าคุณอาชว์สึก จึงเชื่อว่าตอนนี้เจ้าคุณอาชน์ คงออกไปตั้งหลักเพื่อหาพยานหลักฐาน กลับมาสู้คดี
Advertisement
