พระสมเด็จ จากปากกูรูประกิต หลิมสกุล เปิดหมดเปลือกวิธีดูพระเก๊-พระจริง

รู้ให้ลึกเรื่องของ พระสมเด็จ เรื่องจริงจากกูรูผู้รู้ ประกิต หลิมสกุล เปิดหมดเปลือกวิธีดูพระเก๊-พระจริง ที่พาเซียนพระเสียศูนย์มานับไม่ถ้วน

ประกิต หลิมสกุล นักเขียนคอลัมน์มือฉกาจ ผู้ชื่นชมพระสมเด็จกับประสบการณ์ด้านพระเครื่องตั้งแต่อายุ 13 ปี ผ่านประสบการณ์มาแล้วกว่า 60 ปีจนได้ฉายากูรูพระสมเด็จ...คนนี้ของจริง พาไปรู้ลึกเรื่องราวเกี่ยวกับพระสมเด็จ พร้อมถอดรหัสคำทำนาย สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ครบรอบ 12 นักษัตร 144-150 ปี พระสมเด็จที่ท่านสร้างและอธิฐานจิตไว้ไม่ว่าอยู่ในครอบครองผู้ใด ตระกูลใด จะปรากฏขึ้นทั้งแผ่นดิน และเรื่องของการดูพระเก๊-พระจริง ที่พาเซียนพระเสียศูนย์มานับไม่ถ้วน การปลอมพระที่ภาษานักเลงพระเรียกผียัดกรุ

ถ้าคนที่เข้ามาอยู่ในแวดวงนี้ประการแรก เรื่องพระสมเด็จต้องหาตำราซึ่งเป็นความรู้จริงก่อน ทุกยุคที่มีหนังสือตั้งแต่เล่มแรกผมมีหมด เพราะชอบพระ รักพระ จึงต้องหาความรู้ให้ลึกให้แรงสุด

เมื่อปี 2504 สมัยนั้นแม็กกาซีนพระยังไม่มี หนังสือตำราพระเริ่มมีบางเล่มที่ ตรียัมปวาย เขียนแล้ว เริ่มมีความรู้เป็นเค้าโครง ตรียัมปวายตอนนั้นเป็นพันเอกชื่อ ประจณ กิตติประวัติ อยู่หลังวัดกัลยาณ์ ค้นหาข้อมูลที่ฟังได้เชื่อได้ หนังสือชื่อ ปริอรรถาธิบายแห่งพระเครื่อง เล่มพระสมเด็จ และตรียัมปวายคนเดียวกันนี้เล่นพระอย่างเป็นผู้รอบรู้ เป็นผู้ตั้งชุดเบญจภาคีให้เล่นกัน ที่มีพระสมเด็จ , พระนางพญา , พระรอด , พระผงสุพรรณ และ พระกำแพงซุ้มกอ นี่คือจอมยุทธตัวจริง ตรียัมปวายจะค้นคว้าอะไรจะค้นที่มาจากฟังมาน่าเชื่อถือได้ หรือไม่เชื่อได้ วิเคราะห์ เขียนอย่างปัญญาชน ถามอย่างปัญญาชน คนอ่านอย่างปัญญาชน

ท่านตายปี 2415 สมเด็จเชื่อกันว่าสร้างปี 2409 เล่มนี้เป็นเล่มที่เป็นหลักตั้งหนึ่งของคนที่รักพระเครื่อง ปี 2515 ครบ 100 ปี สมเด็จพระระฆังตาย วัดระฆังออกหนังสือเอง ได้ผู้รู้ซึ่งน่าเชื่อถือทีเดียวเพราะเวลาจะเล่นพระต้องนับหนึ่ง คือตั้งหนึ่งให้ถูก ผู้รู้ระดับอธิบดีกรมศิลป์ น่าจะมีคุณฉันทิชย์ กระแสสินธุ์ คนนี้รสนิยมเขาจะถึงกัน เขารวบรวมผู้ใหญ่ระดับ ผู้ใหญ่ คุณพระ พระยา ที่น่าเชื่อถือ เสี่ยหน่ำ จะเป็นคนหนึ่งที่เชื่อกันว่าศักดินาไม่เกี่ยว เซียนคนแรกติดตามเรื่องพระสมเด็จ รวบรวมพระสมเด็จลงเป็นพระสมเด็จแท้ 2515 ครบหนึ่งร้อยปีสมเด็จตาย วัดระฆังออกหนังสือ มีรูปพระสมเด็จองค์พระเอกที่สุดที่วงการวันนี้ยังเล่นกันอยู่ วันนี้เราเรียกว่าองค์เจ๊แจ๋ว

องค์เจ๊แจ๋ว พระสมเด็จพิมพ์ใหญ่ที่สวยที่สุดในประเทศไทย

ถ้าคนเล่นพระสมเด็จ เขาจะรู้จักกันทุกคน องค์เจ๊แจ๋วเนี่ยน่าจะจำชื่อได้ คุณสุกัญญา รู้กันว่าแกเป็นคนใกล้ชิดจอมพล ประภาส จารุเสถียร แกซื้อไปด้วยราคาแพงมากสมัยนั้น ปี พ.ศ. นั้นพระสมเด็จวัดระฆังราคาแค่หลักหมื่น แกซื้อแสน องค์เจ๊แจ๋ว เป็นองค์ที่ หนึ่งเป็นสมเด็จองค์เจดีย์ คำว่าองค์เจ๊แจ๋ว เขาจะหลับตาเห็นภาพ ท่านติดคมชัดมาก ที่อกมีสังฆาฏิพาดเป็นสองเส้น มีขอบจีวรเข้าจั๊กแร้คม องค์อื่นไม่ติด ที่เข้าแยกเป็นสองเส้น องค์นี้สวยที่สุด องค์เจ๊แจ๋วไม่เป็นตำนานชัดเจน อาจารย์รังสรรค์ ต่อสุวรรณ ซื้อต่อไป องค์เจ๊แจ๋วถ้าให้นึกภาพเปรียบเทียบองค์เจ๊แจ๋ว คืออาภัสรา หงสกุล หลับตาคือเห็นภาพเลยว่าความสวยระดับไหน สวยที่สุด ใช้คำว่าล้านบาทองค์แรกของประเทศ

อาจารย์รังสรรค์เป็นคนที่ได้ชื่อว่าดึงพระขึ้นแพงมาก สูงสุดของตลาดพระ เฮียหนึ่ง ปรีดา อภิปุญญา แกรวยมากซื้อพระดังไว้หมด สวยสุดในประเทศไทยอยู่กับแก พระชุดนี้จำนำขาดอยู่ในมือเฮียหนึ่ง องค์เจ๊แจ๋วเนี่ย 200 ล้าน

"ผียัดกรุ" สตอรี่ปลอมพระสมเด็จ

ราวๆ ปี พ.ศ. 2503-2504 เคยได้ยินชื่อ แม่น ชลานุเคราะห์ ไหม? คุณแม่นนี่คือผู้ประกาศข่าวเวลาปฏิวัติ ประกาศข่าวหวย ย้อนไปว่า 3 ทหารยังไม่ถูกยึดยังไม่เอากลับ ก็ออกปฏิทินมา ปฏิทินเล่มนั้นก็เอาสมเด็จพระระฆังพิมพ์ใหญ่แตกลายงา ของคุณแม่น ชลานุเคราะห์ออก ทุกคนตื่นเต้นฮือฮาได้เห็นสมเด็จพระระฆัง วงเล็บเฉพาะด้านหน้า พระที่แพงขนาดนี้ต้องดูหลังให้เป็นด้วย ด้านข้างก็มีความหมาย ตื่นเต้นกับปฏิทินปี 2503-0504 อยู่ดีๆ 2505 สามทหารออกมาใหม่ สมเด็จวัดระฆังพิมพ์ขาสิงห์ ของ จอมพลถนอม กิตติขจร นายกรัฐมนตรี ปรากฎว่าเป็นพระปลอม เมื่อจอมพลถนอมถือ คนก็เชื่อ สมัยนั้นการเล่นพระ พระคงกระพันเขาเรียกชุดยอดขุนพล พระร่วงหูยาน ท่ากระดาน มีคนถือพระยอดขุนพลเอาองค์แรก สมเด็จถ้ำเขากรวย พิมพ์เดียวกับที่จอมพลถนอมถือ คือถูกหลอกไปด้วยกระแสปฏิทิน ซึ่งการปลอมพระด้วยวิธีการทำนองนี้ในรูปแบบเหล่านี้ ภาษานักเลงพระเขาเรียกว่าผียัดกรุ

ชุดพระเก๊มีวิธีการมากมาย สมมติมีชุดหนึ่ง กรุถ้ำสิงโตทอง เอ่ยชื่อเขาหน่อย ไปโฆษณาหนังสือแล้วขายได้ ตลาดท่าพระจันทร์ซึ่งเป็นหมายเลขหนึ่งอันดับแรก ก็เห็นหนังสือพระเครื่องเล่มหนึ่งขายดูมีสมเด็จแท้มาตรฐาน ก็เอามาใส่ลงก็อปปี้เอามาพิมพ์ออกหนังสือทั้งเล่ม สร้างตำนานซ้อนว่าเป็นกรุพิเศษ เกิดที่ถ้ำสิงโต ทองทางสระบุรี ออกขายกันมีการเปลี่ยนมือ อาจจะมีการจัดประกวดก็ด้วย ต่อมาเขานำสืบค้นไปจับได้ทางฝั่งธนที่ราษฎร์บูรณะ พระกองเต็มไปหมดเลย ตำรวจจับด้วยหาว่าต้ม เรื่องอย่างนี้มันเกิดแล้วก็เกิดอีก มันเกิดมาร้อยครั้งได้

พระสมเด็จแท้ดูอย่างไร?

ตรียัมปวายเขียนไว้ว่าวัดระฆังแท้มี 5 มาตรฐาน พิมพ์ทรงใหญ่ อาจจะมี 6-7 แม่พิมพ์เขาเรียกบล็อกใหญ่ เจดีย์ อาจจะมี 4-5 แม่พิมพ์ มีฐานแซม เกศบัวตูม ปรกโพธิ์ นี่เป็นของวัดระฆัง

ทีนี้เกิดครั้งที่สองอีก สมเด็จระฆังสร้างไป 5 แม่พิมพ์แล้ว สร้างเรื่อยๆ ตามวิธีกดพิมพ์ที่วัดระฆัง สร้างง่ายๆ ตามอุตสาหกรรมในบ้าน เชื่อกันว่าช่วยกันโขลกช่วยกันตำต่อหน้าสมเด็จ ทำอารมณ์เย็นๆ พระจะออกมาแบบหนึ่ง 5 แม่พิมพ์มาตรฐาน ปี 2503 เสมียนตราด้วง เป็นผู้อุปถัมภ์วัดใหม่อมตรสหรือที่เราเรียกกันว่าวัดบางขุนพรหม เสมียนตราด้วงมีตังค์ อุปถัมภ์วัดบางขุนพรหม นิมนต์สมเด็จมาสร้างพระอีกชุดหนึ่ง

การสร้างพระชุดที่สอง มีผงวิเศษ มวลสารวัสดุมงคลต่างๆ คงเทียบกับที่วัดระฆังไม่ได้เพราะน้อยกว่า แล้วตั้งเป้าหมายเท่าที่เขียนไว้ 84,000 องค์ คราวนี้สร้างเป็นอุตสาหกรรม แม่พิมพ์ 5 แม่พิมพ์ อาจจะคูณแม่พิมพ์ละ 5 บล็อก ไม่พอ ช่างน่าจะมีฝีมือใช้ช่างหลวงชุดเดียวกันชื่อหลวงวิจารณ์เจียรนัย ก็มาช่วยแกะแม่พิมพ์ ขยายจาก 5 แม่พิมพ์มาตรฐานนั้น พิมพ์ใหญ่ช่างก็ประยุกต์ฝีมือขยายพิมพ์ให้เส้นบางลง กลายเป็นที่เขาเรียกว่าพิมพ์เส้นด้าย เส้นหนากลายเป็นบาง แล้วเส้นด้ายยังมีอีกสองถึงสามแม่พิมพ์ ทรงเจดีย์แกะเส้นบางๆ กลายเป็นพระพรหม เขาเรียกพิมพ์สังฆาฏิมีเพิ่มอีกสี่ถึงห้าแม่พิมพ์ พิมพ์ฐานแซมเส้นหนา 3 เส้น เส้นบาง 2 เส้น แกะบางมากเข้าเป็นฐานคู่ เพิ่มอีกเป็นพิมพ์ที่สี่ กลายเป็นว่าแม่พิมพ์บางขุนพรหมที่เพิ่มขึ้นอีก 4 รุ่น แต่ละแม่พิมพ์มีซ้ำอีกหลายๆ พิมพ์จำนวนร้อยแม่พิมพ์ เพื่อพิมพ์พระให้ได้มากเท่า 84,000 องค์ เป็นพระที่วัสดุมวลสารรีบเร่ง การพิมพ์เร่งหน่อย บิดเบี้ยวบ้าง สร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว บรรจุใส่เจดีย์ใหญ่หน้าโบสถ์วัดใหม่อมตรสไว้

วัดบางขุนพรหมสร้างเสร็จแล้ว เปิดกรุก็เป็นกรุที่สอง ส่วนวัดไชโยไม่มีประวัติชัดเจน ตรียัมปวายทุกคนเล่นกันเป็นพระแท้ เริ่มแรกเล่นกัน 3 พิมพ์ วัดไชโย จ.อ่างทอง ต่อมาก็มีพิมพ์พ่วงๆ ออกมา มีผู้รู้มาเพิ่มอีก 20-30 พิมพ์ ตรียัมปวายท่านเขียนในหนังสือเล่มพระสมเด็จฯ ว่าเป็นของเก๊ทั้งสิ้น วัดไชโย องค์สวยสุดซื้อกัน 10 ล้าน 5 ล้าน 10 ล้านไปแล้วนะ นี่คือตลาดพระ นี่ขนาดวัดเล็กๆ

สัมพันธ์อะไรกับวัดบางคราม?

สมเด็จโตท่านไปสร้างไว้ ในวัดสร้างก่อน แล้วเป็นวัดที่ไม่บอกปี พ.ศ. ที่สร้าง บังเอิญว่าสมเด็จพระพุฒาจารย์โต ท่านไปสร้างพระประธานไว้กลางแจ้งใหญ่โต แล้วท่านสร้างด้วยไม่มีวิชาวิศวกร ไม่มีโครงร่างที่ดี มันจึงล้ม ท่านสร้างใหญ่มากแล้วล้มถึง 3 ครั้ง รัชกาลที่ 5 หลังจากนั้นต้องให้มือจากกรุงเทพ พระองค์ท่านเสด็จไปซ่อมทำให้ วันนี้เป็นพระอยู่ในวิหารเรียกว่า พระมหาพุทธพิมพ์ อยู่ที่วัดไชโย จ.อ่างทอง นั่นเป็นพระที่สมเด็จโตสร้าง

แล้วยังมีวัดอื่นๆ ที่ในตำนานของตรียัมปวายเอ่ยถึงบ้างว่าสมเด็จท่านไปอยู่ เช่น วัดกลางคลองข่อย ที่โพธาราม วัดสะตือที่ท่านเคยไปแวะเวียนสมัยเป็นเด็ก เช่นเดียวกับวัดไชโย วัดเหล่านี้เกิดเถียงกันว่าแท้หรือไม่แท้

พระสมเด็จที่เชื่อถือได้ หนึ่งวัดระฆัง สองวัดบางขุนพรหม สามวัดไชโย พอนอกวัด ในเจดีย์ อันนี้เกินพิกัดคำว่าผียัดกรุ เป็นครั้งที่ร้อยแล้ว ไร้สาระที่จะฟัง สำหรับสายพระ ไม่ขอดูเพราะเหนื่อย ไอ้พวกบ้านเก่า เสาโย้ หีบเหล็กสนิมเขรอะ หมายความว่าคนขายพระ ทั่วไปเขามีสูตร จะต้องบอกคนหมูหน้าโง่ว่าบ้านเก่า คนแก่ หีบเหล็ก มีตำนานเดียวที่เพียนไปซ้ายไปขวา การปลอมพระระดับเช่ามีทุนเป็นร้อยล้าน เช่าโรงแรมชั้นหนึ่งโปรโมตเปิดข่าวมีสตอรี่มีเรื่องเล่า คนเป็นพระเขาไม่ฟังเรื่องเล่า เขาจะรำคาญ

พระปลอมสมัยนี้เนียบกริบ ทำเซียนเก่าหลงพระเก๊

วันนี้เทกนิกวิทยาศาสตร์มันก้าวหน้า การผสมเนื้อ การอบ การทำให้แห้งดีขึ้น พิมพ์มันทำเหมือนไป 95% พระ 160 ปีความเก่าทางธรรมชาติจะเปรียบเทียบให้เห็นภาพ กล้วยตากโบราณก็เอามาตากให้แห้ง 7วัน 5 วัน มันจะนิ่มตามธรรมชาติ อิ่มตัว แดงคล้ำๆ แตะลิ้นนี่รู้เลย นุ่มนวลกับความหวาน ความหดตัวตามธรรมชาติของแดดที่ตาก กับกล้วยตากสมัยใหม่ที่มันทำเป็นอุตสาหกรรม เอาเข้าตู้อบมันจะหด เหี่ยว พระปลอมกับพระแท้ก็คล้ายกัน สมเด็จเนี่ยท่านผ่านกาลเวลาข้างนอก ผ่านอากาศมา 160 ปี แต่สมเด็จปลอมทำเมื่อ 30 ปีที่แล้ว ใส่ตู้อบ ใช้เตานึ่ง ใช้ความร้อน มันสดกว่า แม้กระทั่งข้างใน สมัยก่อนมีวิธีแช่น้ำ ดูการระเหยจากน้ำว่าแห้งเร็วแห้งช้า เดี๋ยวนี้มันปลอมดีซะจนใช้ไม่ได้อีก คือกลายเป็นว่าถ้าไม่ตามพระ ที่บอกว่าหลวงพ่อหลวงแม่เซียนเก่าที่เอ่ยชื่อ ถ้าฟื้นมาวันนี้ดูพระปลอมเต็มถนนนี่แท้ทุกองค์ อันนี้เรียกจริง ภาษานักเลงพระเขาเรียกว่า ตากลับ ดูพระเก๊ดีๆ เป็นพระแท้ พิมพ์เป็นมาตรฐานในการดูว่าถูกต้อง แต่พิมพ์มันตามได้ 95% แล้ว เนื้อความเก่าเป็นธรรมชาติเขายังตามไม่ได้ เพราะฉะนั้นพรจึงมีหลากหลายสภาพให้ผู้ชำนาญการได้ดู ไม่รู้จริงก็ดูพระแท้เป็นพระเก๊ ดูพระเก๊เป็นแท้

พระปลอมพัฒนามาดีมาก จนคนที่เป็นเซียนพระรุ่นโบราณ ตื่นมาตามไม่ทันแล้ว วันนี้เซียนเก่าเสียคนไปนับไม่ถ้วน จนเกิดคำถามแล้วว่าตกลงพระแท้อยู่ที่ใคร กลุ่มที่วงการพระเขาซื้อขายกัน ขาย 10 ล้านแท้ใช่ไหม สองแสนที่เราพูดกันเองไม่ใช่ ร้อยบาทริมถนนคือไม่ใช่

แว่นส่องพระ-คาร์บอน 14 ดูพระแท้ พระปลอม ไม่ชัวร์?

เอาเรื่องคาร์บอน 14 ก่อน หลักคาร์บอน 14 ที่คนคิดได้รางวัลโนเบิ้ลไพรซ์ไปแล้ว เขาพิสูจน์ของเก่าได้ ความสามารถเมืองไทยยังทำไม่ได้ มันมีแค่คลาดเคลื่อนบวก +200,-200 หมายความว่าใน+200,-200 ของชิ้นนี้เช่น มัมมี่อียิปต์ ของอายุมากๆ +200,-200 มันเด็กๆ เอามาใช้กับพระสมเด็จ 160 ปีไม่ได้ เพราะมันอยู่ในเงาของคลาดเคลื่อน วันนี้มีกล้องบอกว่ารู้พระสมเด็จ วงการพระเครื่อง อย่าเอาศาสตราจารย์อย่าเอา ดร. สู้สามล้อที่เป็นมือเซียนพระขายไม่ได้ เขาจับมาเยอะ ปัญญามันเรียนตามกันทัน พระสมเด็จเป็นพระที่ปูนปั้น ทำด้วยมือ ปูนเปลือกหอย ผสมน้ำมันตังอิ๊ว มันมีคุณสมบัติซึ่งคนวันนี้ที่เห็นพระแห้งๆ ไม่รู้ตัว ท่านยุบมาก ผมพูดด้วยพระสบการณ์ว่าคงยุบราวๆ 15-20%

ความสามารถของพระปลอมใช้แว่น 20x ส่องเจาะเข้าไปปั๊บ เกรนเนื้อมันจะแตก เอาเป็นว่าพระปลอมปี 2510 แว่น 20x จับปั๊บ แว่น 10x ดูแล้วยังหวานอยู่หรือดูหวาน คำว่าหวานตอนนั้น ส้มหวานเยิ้ม เนื้อมีเงาสว่าง หนึบนุ่ม พอเอาแว่น20x เกรนมันแตก เก๊จริง แว่น 10x ยังหวาน มาปี พ.ศ. นี้ ความสามารถของแว่นความสามารถของการปลอมพระ มันปลอมเสียจนยิ่งส่องยิ่งหลง ไม่แตก หวานเท่ากับของแท้ กลายเป็นว่าใช้แว่นสูงยิ่งหลง ประสบการณ์ที่ดูพระมาเยอะๆ นานๆ ต้องดูให้เยอะ เขาบอกพิมพ์ต้องใช่ เนื้อต้องใช่ หยิบพระมองด้วยตาเปล่า ถ้าตายังคม ธรรมชาติของความเก่า 160 ปี ออกซิเจนมันเผาไหม้ มันเหลืองแค่นี้เหมือนไม้เก่ากับไม้ใหม่ พระปลอมเหมือนไม้ลงแล็กเกอร์ พระสมเด็จแท้เก่าเปรียบเทียบเหมือนบ้านเก่า ไม้ประดู่ที่มีลาย ยิ่งแว่นเยอะก็ยิ่งทำให้หลง

พระสมเด็จแท้อาจจะมีมากเป็นแสนองค์ แค่ยังไม่ถูกยอมรับ

พระสมเด็จเป็นวิญญาณปรารถนา เป็นวิญญาณศรัทธาของคนไทยทุกคนตรียัมปวายเขียนไว้ ประเด็นมีว่าพระสมเด็จตามมาตรฐานของวงการพระเครื่องแถวบนนั้น ที่ซื้อขายกันยังมีไม่เกิน 500 องค์เลย แต่อยู่ในคอคน บ้านคน หรืออยู่ในมือคนมากมาย ถ้าพูดกันว่า 84,000 ท่านสร้างจริงครั้งแรก บางขุนพรหมอีก 84,000 หนึ่งครั้ง วัดไชโยอีกที่ไม่พูดกันว่าเท่าไร วงการซื้อพระที่ซื้อขายเฉพาะในหนังสือ รวมๆ แล้วมีการหลุดปากว่าคงไม่เกิน 5,000 องค์ พระแท้สำหรับผู้รู้จริง รู้อย่างบริสุทธิ์ รู้อย่างลึกซึ้งมีอีกเยอะ

พระในสเป็กเซียนมันเล่นกันแบบผีถ้วยแก้ว พระที่เซียนซื้อขายกันไม่เกิน 5000 องค์ แท้จริงแล้วสมเด็จในประเทศนี้คงมีสักแสนองค์ แต่ยังไม่เป็นที่ยอมรับ เอ็งดูเป็นหรือเปล่า โปรดอย่าเห็นพระเครื่องเป็นสินค้า