วันที่ 14 พ.ค. 68 ที่กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข แพทย์หญิงจุไร วงศ์สวัสดิ์ โฆษกกรมควบคุมโรค แถลงถึงสถานการณ์ของโรคแอนแทรกซ์ , โรคไข้หวัดใหญ่ และโรคโควิด19 ที่กำลังระบายในปัจจุบันว่า
สถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่ ในปี 2568 มียอดผู้ป่วยสูง เมื่อเทียบกับปี 2566 และ 5 ปีย้อนหลัง ตั้งแต่ 1 ม.ค. - 14 พ.ค. 2568 มียอดผู้ป่วยสูงถึง 328,103 ราย เสียชีวิต 33 ราย ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเด็กอายุ 5-9 ปี และผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัว สายพันธุ์ที่แพร่ระบาดในตอนนี้ คือ สายพันธุ์เอ H1N1 และสายพันธุ์บี รายที่เสียชีวิตเป็นคนอายุ 60 ปี ที่มีโรคประจำตัวร่วมด้วย เช่น โรคไต หลอดเลือดหัวใจ หรือ ปอด และไม่มีประวัติการรับวัคซีนไข้หวัดใหญ่
ก่อนเทศกาลสงกรานต์ยอดผู้ติดเชื้อลดลงเล็กน้อย หลังเทศกาลก็เพิ่มขึ้นเล็กน้อย และมีแนวโน้มลดลงเรื่อยๆ เพราะคนส่วนมากมีภูมิคุ้มกันในโรคนี้แล้ว การป่วยตายมีเพียงร้อยละ 0.01 ผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงได้แก่คนที่มีโรคประจำตัว, หญิงตั้งครรภ์ หรือเด็กอายุที่ต่ำกว่า 3 ปี สามารถเข้ารับวัคซีนได้ในเดือน พ.ค.-ส.ค. ตามสถานพยาบาลของรัฐใกล้บ้าน
ส่วนโรคโควิด 19 ตอนนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. - 14 พ.ค. 68 มีผู้ป่วย 71,067 ราย เสียชีวิต 19 ราย น้อยกว่าปี 66-67 ร้อยละ 40 หลังเทศกาลสงกรานต์มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นจำนวนหลายหมื่นคน ผู้ป่วยและเสียชีวิตเป็นผู้ที่มีโรคประจำตัว ร้อยละ 84 เป็นผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ถ้าเปรียบเทียบดู อัตราการป่วยตายไม่ได้เพิ่มขึ้น ยังเท่าเดิม สายพันธุ์ที่ระบาดล่าสุดคือ XEC จะแพร่กระจายได้ดีกว่าสายพันธุ์เดิม การป่วยและเสียชีวิตสูงกว่าไข้หวัดใหญ่ร้อยละ 0.03 ซึ่งต้องเฝ้าระวัง แต่ไม่ว่าจะเป็นเชื้ออะไร สายพันธุ์ไหน ก็ต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยและล้างมือบ่อยๆ จากการคาดการณ์ขณะนี้ คาดว่ามีแนวโน้มเพิ่มขึ้นได้อีก เพราะช่วงนี้เป็นฤดูฝน คนส่วนมากมีปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจเยอะ โควิดสายพันธุ์นี้แพร่กระจายเร็วแต่ไม่รุนแรงขึ้น
Advertisement