รวบ บอส อดีตตำรวจร่วมอุ้ม 5 ชาวจีน รีดเงิน 2.5 ล้านบาท
รวบแล้ว บอส อดีตตำรวจ ร่วมกันอุ้มชาวจีน 5 ราย จากโรงแรมในซอยประชาสงเคราะห์ 2 ไปรีดไถเงิน 2.5 ล้านบาท
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
จากกรณีกลุ่มคนร้าย อ้างตัวเป็นตำรวจ บุกโรงแรมกลางกรุง จับ 5 ชาวจีน อุ้มรีดเงิน 2.5 ล้านบาท
วันนี้ (4 พ.ค.) ที่ สน.ดินแดง เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนนครบาล และ สน.ดินแดง ได้ควบคุมตัว นายอรรถวุฒิ สุมนรัตนกุล หรือ นายบอส อดีตตำรวจยศ ด.ต.ตำแหน่ง ผบ.หมู่งานสืบสวน สน.คันนายาว เพิ่งถูกออกจากราชการเมื่อปีที่แล้ว ผู้ต้องหาตามหมายจับความผิดฐาน "ร่วมกันกรรโซกทรัพย์, ร่วมกันแสดงตนเป็นเจ้าพนักงานและกระทำการเป็นเจ้าพนักงาน โดยตนเองมิได้เป็นเจ้าพนักงานที่มีอำนาจนั้น ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่นหรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย" ในคดีร่วมกันอุ้มชาวจีน 5 ราย จากโรงแรมในซอยประชาสงเคราะห์ 2 ไปรีดไถเงิน 2.5 ล้านบาท ไปดำเนินการสืบสวนสอบสวนที่ห้องสืบสวน สน.ดินแดง
โดยนายบอส สวมหมวกและแมสก์ปกปิดใบหน้า ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนสั้น ๆ ยืนยันว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่ได้ร่วมขบวนการแก๊งรีดซับนักธุรกิจชาวจีน ไม่ได้รู้จักกับนักธุรกิจชาวจีนผู้เสียหาย และที่สำคัญตนไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุด้วย
ผู้สื่อข่าวก็พยายามสอบถามว่า แล้วในวันเกิดเหตุนายบอสไปอยู่ที่ไหนมา นายบอส ตอบเพียงว่า ขอไปให้การในชั้นศาลเท่านั้น ผู้สื่อข่าวยังได้สอบถามอีกว่า นายบอส เคยรับราชการเป็นตำรวจจริงหรือไม่ นายบอสไม่ได้ตอบแต่อย่างใด ก่อนที่จะถูกคุมตัวเข้าไปในห้องสืบสวน สน.ดินแดง
ทั้งนี้ นายบอสเป็นหนึ่งในผู้ต้องหาตามหมายจับ 3 ราย ซึ่งตามพฤติการณ์แล้วไม่ได้เดินทางไปที่โรงแรม จึงไม่ปรากฏภาพนายบอสที่โรงแรมตามที่รายงานข่าวไป แต่แนวทางสืบสวนพบว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุควบคุมตัวชาวจีนทั้ง 5 รายไปพบนายบอส ก่อนจะดำเนินการรีดไถเงิน 2.5 ล้านบาท
ทั้งนี้ตำรวจสืบนครบาลได้สืบทราบว่า นายบอสมีบ้านอยู่ที่ย่านคู้บอน จึงได้นำกำลังไปวางแผนจับกุม กระทั่งพบตัวนายบอสเป็นบุคคลถูกต้องตามหมายจับจึงเข้าไปแสดงหมายจับพร้อมเข้าควบคุมตัว ซึ่งนายบอสยอมให้จับกุมแต่โดยดี พร้อมทั้งพาไปตรวจสอบที่บ้านพักก็พบรถเบนซ์สีดำ ที่ใช้ในการก่อเหตุ จึงทำการยึดอายัดมาพร้อมกันเพื่อทำการตรวจสอบ
ขณะเดียวกัน มีรายงานข่าวว่า ในเวลา 17.00 ของวันนี้ ชุดสืบสวนคลี่คลายคดี ทั้ง สน.ดินแดง สืบสวนนครบาล 1 และสืบสวนนครบาล จะประชุมเพื่อติดตามแนวทางการดำเนินคดีอีกครั้ง โดยมีผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกองบัญชาการตำรวจนครบาลร่วมประชุม.
Advertisement
