ศาลจระเข้หิน ตำนานกำเนิดหมู่บ้านสมหวังทุกสิ่งที่ปรารถนา
ศาลจระเข้หิน ตำนานกำเนิดหมู่บ้านดังโคราช บันดาลโชค คุ้มภัยดลให้สมหวังทุกสิ่งที่ปรารถนา
นครราชสีมา – วันที่ 18 ก.พ.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านจระเข้หิน หมู่ที่ 1 ต.จระเข้หิน อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา นำไก่ต้มและเครื่องดื่ม พร้อมเครื่องพานจานยาสูบ ไปเซ่นถวายศาลเจ้าพ่อบุญคง และศาลจระเข้หิน ซึ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านมานานหลายร้อยปีตั้งอยู่ริมคลองจระเข้หิน ตามความเชื่อที่ว่าจะช่วยดูแลคุ้มครองและดลบันดาลให้ชาวบ้านอยู่เย็นเป็นสุข สุขภาพร่างกายแข็งแรงมีโชคมีลาภ ซึ่งก็มีชาวบ้านบางรายได้รางวัลเลขท้ายจากการเสี่ยงโชคในงวดที่ผ่านมารวมอยู่ด้วย และในวันนี้ชาวบ้านก็ไม่พลาดที่จะทำการจุดธูปตัวเลขเสี่ยงทายขอโชคลาภในงวดถัดไปทันที ซึ่งก็ได้เลขนำโชคคือ 331 โดยที่ศาลแห่งนี้จะมีความพิเศษซึ่งเป็นที่เลื่องลือกันก็คือ จะมีศาลเจ้าพ่อจระเข้หิน ซึ่งจะมีจระเข้หินแกะสลักยาวประมาณ 2 เมตรเศษมาตั้งไว้เป็นรูปเคารพบูชา โดยชาวบ้านบอกว่ามีคนนำมาตั้งถวายเอาไว้ตามตำนานของหมู่บ้านมานานกว่า 30 ปีแล้ว
นายภัทร ระวังครบุรี นายกเทศบาลตำบลจระเข้หิน เล่าให้ฟังว่า ศาลเจ้าพ่อขุนคงและศาลจระเข้หิน นั้นก่อตั้งมา ณ ที่แห่งนี้นานหลายร้อยปีแล้ว เพื่อเป็นสิ่งศักดิ์ยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวบ้านในชุมชน เชื่อว่าจะดูแลคุ้มภัยดลบันดาลให้ชีวิตสุขสมหวังดังใจปรารถนาเหมือนเช่นทุกๆหมู่บ้านที่ก็จะมีประจำอยู่ทุกที่ และการที่มีศาลจะเข้หินตั้งร่วมอยู่ด้วยนั้น ก็เนื่องจากมีตำนานเล่าขานกันว่า เมื่อประมาณ 500 ปีก่อน ในคลองจระเข้หินแห่งนี้ มีพญาจระเข้ยักษ์ที่มีตาเป็นเพชรสุกสกาวอาศัยอยู่ในลำน้ำ มีอิทธิฤทธิ์มากมายจนไม่มีใครสามารถทำร้ายได้ เมื่อคำร่ำลือทราบไปถึงพรานล่าจระเข้ชาวแกวจึงอยากจะได้เพชรนัยน์ตาจระเข้ตัวนี้ และพาผู้มีวิชาคาถาอาคม ลงมาปราบซึ่งต้องใช้เวลานานนับปี จึงจะสามารถปราบและควักเอานัยน์ตาเพชรจระเข้ไปได้ ก่อนที่จะทิ้งร่างไร้วิญญาณที่กลายเป็นหินหลังจากถูกควักนัยน์ตา เอาไว้ให้จมลงในท้องน้ำ ซึ่งหลังจากที่จระเข้ยักษ์ตัวนี้ได้ตายลงไป ก็เกิดภัยพิบัติฝนฟ้าไม่ตกต้องตามฤดูกาล ทำให้เกิดความแห้งแล้งทุกหย่อมหญ้า รวมทั้งยังโรคระบาดขึ้นในชุมชน จนชาวบ้านต้องอพยพออกจากพื้นที่ไปอาศัยอยู่ที่อื่น กระทั่งล่วงเลยผ่านไปนับร้อยๆปีกว่าที่จะมีชาวบ้านอพยพกลับมาอาศัยอยู่อีกครั้ง และพยายามที่จะงมและขุดหาซากจระเข้เพื่อนำขึ้นมาจากลำคลองเพื่อจะนำมาตั้งสักการะไม่ให้เกิดภัยพิบัติต่างๆขึ้นมาในชุมชนอีก แต่ขุดเท่าไรก็ไม่พบ จากลำคลองเล็กๆจนกลายเป็นคลองน้ำขนาดใหญ่กว้างกว่า 20 เมตรในปัจจุบัน จนท้ายที่สุดก็ต้องมีการแกะสลักหินเป็นรูปจระเข้มาตั้งเอาไว้ แทนจระเข้ยักษ์ที่ถูกควักนัยน์ตาและตายไป เพื่อให้ชาวบ้านได้สักการบูชา จนกลายเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองแจะเป็นชื่อเรียกหมู่บ้านมาจนถึงทุกวันนี้
ซึ่งศาลเจ้าพ่อบุญคงและศาลจระเข้หินนั้น เชื่อกันว่าจะช่วยดูแลปกปักรักษาคนในชุมชนให้อยู่เย็นเป็นสุข ดลบันดาลให้ฝนฟ้าตกต้องตามฤดูกาลไร้ภัยพิบัติ หากใครมาขอพรโชคลาภจากศาลแห่งนี้ก็จะได้สมดั่งใจปรารถนาและหากใครสมหวังก็มักจะนำเอารูปปั้นจระเข้มาตั้งไว้เพิ่มเติมด้วย จนกลายเป็นสิ่งศักดิ์ที่สิทธิ์ชาวบ้านในพื้นที่เคารพนับถือเป็นอย่างมากมาตราบจนทุกวันนี้.
Advertisement
