สอบ ”นางสาวพร“ ยังไม่เจอหลักฐานเชื่อมโยงสังหารสามี
ตำรวจสอบปากคำนางสาวพร ภรรยาหนุ่มโรงงานหาความเชื่อมโยง อยู่เบื้องหลังสังหารสามีหรือไม่ เบื้องต้นยังไม่พบความเกี่ยวข้อง หลังสอบปากคำนานกว่า 6 ชั่วโมงสุดท้าย นางสาววรรณพร หนีสื่อ ตำรวจพาออกประตูหลัง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เมื่อวานนี้ (5 ก.พ. 67) พล.ต.ต.นเรวิช สุคนธวิช ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา เปิดเผยว่า วันนี้ได้เรียกน.ส.วรรณพร หลักแหลม หรือ นางสาวพร อายุ 33 ปี ภรรยาของผู้เสียชีวิตมาสอบปากคำเพิ่มเติม เพื่อนำคำให้การมาประกอบกับหลักฐานจากกล้องวงจรปิด รวมทั้งตรวจสอบข้อมูลแชตข้อความ ระหว่าง วรรณพร กับ ช่างกิต ที่บ่งชี้ว่าทั้ง 2 คน คบหากันจริง โดยในบทสนทนาวรรณพร ตั้งคำถามกับ ช่างกิต ว่า “ใครเป็นคนร้ายในคดี” และ การวิจารณ์ประนามถึงพฤติกรรมการก่อเหตุของคนร้าย ตลอดจนการปรับทุกข์ของพร ที่รู้สึกท้อแท้ โดยช่างกิต ได้ส่งข้อความให้กำลังใจ ในการสู้และอยู่ต่อไป จึงทำให้เห็นว่า ช่างกิต ก่อเหตุโดยที่วรรณพร ไม่มีส่วนรู้เห็น
แต่ทั้งนี้ วรรณพร ได้แสดงความบริสุทธิ์ใจกับทางตำรวจในการให้โทรศัพท์มือถือไปตรวจสอบข้อมูลทั้งหมด ซึ่งในส่วนนี้หากวรรณพร มีการปกปิดข้อมูล ก็สามารถกู้มาตรวจสอบได้ หากพบว่าเกี่ยวข้องจะดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาในภายหลัง
ส่วนข้อมูลเรื่องของคีย์การ์ดนั้น ได้สอบปากคำ กิต ด้วยตัวเอง พบว่า กิต เป็นคนขโมยไปและตัววรรณพร เพิ่งมารู้ว่าถูกขโมยคีย์การ์ดไป แต่ตำรวจยังต้องตรวจสอบช่วงเวลาในการใช้คีย์การ์ดนั้น มีส่วนสนับสนุนทำให้เกิดการฆ่าหรือไม่ ซึ่งในแชตสนทนา ไม่พบพูดคุยเรื่องคีย์การ์ด
ส่วนข้อมูลการค้นหาโทรศัพท์มือถือของผู้เสียชีวิต แน่นอนว่า ช่างกิต ปกปิดข้อมูลนี้ตั้งแต่ต้น ทำให้ยังหาโทรศัพท์มือถือของผู้เสียชีวิตไม่พบ ประกอบกับปืนที่ ช่างกิต ใช้ก่อเหตุ นายกิตอ้างว่าเอาไปทิ้งนั้น ตอนนี้ยังหาไม่พบ หลังจากนี้คงจะต้องเข้าไปสอบปากคำ ช่างกิต ในเรือนจำ เพิ่มเติม
ส่วนตัวของนางสาววรรณพร ที่เข้ามาให้ปากคำที่ สภ.บางปะกง ผู้สื่อข่าวไม่เห็นความเคลื่อนไหวใด ๆ หลังจากที่เข้าไปในห้องสืบสวนตั้งแต่เวลาประมาณ 10.00 น. ผู้สื่อข่าวก็เฝ้ารอและสลับกันสอบถามตำรวจชุดสืบสวนหลายครั้งจนถึงช่วงเย็น ถามแต่ละครั้งตำรวจก็ตอบว่ายังอยู่ด้านในห้อง
จนกระทั่งเวลาประมาณ 16.20 น. มีตำรวจชุดสืบสวนนายหนึ่งเดินมาบอกกลุ่มสื่อว่านางสาววรรณพร ออกจากโรงพักไปได้พักหนึ่งแล้ว พร้อมให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปดูด้านในห้องสืบสวนแต่ไม่อนุญาตให้บันทึกภาพ พบว่านางสาววรรณพร ไม่อยู่ในห้องแล้วจริง ๆ โดยตำรวจบอกว่าได้พาออกไปทางประตูข้างซึ่งเชื่อมต่อกับห้องสืบสวนโดยตรง
โดยมีรายงานการสอบปากคำนางสาววรรณพร วานนี้มาให้ปากคำในฐานะพยาน โดยตำรวจได้ตรวจสอบข้อมูลโทรศัพท์มือถือแล้ว ยังไม่พบความเชื่อมโยงว่ามีส่วนร่วมกับ ”ช่างกิต“ ในการวางแผนอุ้มฆ่านายธนาสันต์
โดยเมื่อวานนี้ ร.ต.อ.ณรงค์ศักดิ์ ลิ้นทอง รอง สว.(สอบสวน) สภ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ยังได้นัดผู้ต้องหาในคดีอุ้มฆ่า นายธนาสันต์ เตอั้น หรือใหม่ อายุ 33 ปี แล้วนำมาทิ้งไว้ข้างทาง บริเวณถนนเลียบมอเตอร์เวย์ กม.41+100 ขาเข้า กทม. หมู่ 10 ต.บางวัว อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา เมื่อวันที่ 29 ม.ค. 67 โดยทั้ง 4 คน ได้เดินทางรับทราบข้อกล่าวหาปล้นทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ได้แก่ นายกิตติโชติ แพไพรมูล (กิต) อายุ 37 ปี นายนันทพัทธ์ พุทธ (โอ๊ต) อายุ 23 ปี นายปานเทพ บุหรี่ทอง (แทป) อายุ 29 ปี น.ส.อภิสรา ผ่องจำปา (นิว) อายุ 22 ปี นายสุขสงกรานต์ จันแดง (กาน) อายุ 24 ปี ทั้งหมดให้การปฏิเสธ
นายโอ๊ต เผยว่าตนไม่น่าไปกับนายกิต และไม่คิดว่าเรื่องราวจะเป็นแบบนี้ หลังจากนั้นได้นำตัวออกจากห้องสอบสวน สภ.บางปะกง ขึ้นไปสอบสวนต่อที่ห้องสืบสวน เพราะมีประเด็นที่ทางตำรวจสงสัย โดย พล.ต.ต.นเรวิช สุคนธวิท ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา ได้ร่วมสอบปากคำด้วย หลังจากนั้นได้เพิ่มข้อกล่าว 1 ข้อหา กลายเป็น 3 ข้อหา ได้แก่ ปล้นทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย โดยมีหรือใช้อาวุธปืน โดยใช้ยานพาหนะ, ข่มขืนใจผู้อื่นโดยมีอาวุธหรือโดยร่วมกันกระทำความผิดตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป, หน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นเป็นเหตุให้ผู้ถูกหน่วงเหนี่ยวกักขังถึงแก่ความตาย พร้อมทั้งให้ทั้ง 4 คน พาไปที่รถเก๋งคันที่ก่อเหตุ พร้อมนำชี้จุดว่าคืนเกิดเหตุได้นั่งกันจุดไหนก่อนถ่ายรูปเป็นหลักฐาน ก่อนนำตัวไปฝากขังต่อศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา ในช่วงเวลา 14.00 น.
ขณะที่มีการคุมตัวทั้งหมดออกจากห้องมาขึ้นรถ ผู้สื่อข่าวพยายามถามว่า ทั้งหมดถูกหลอกขึ้นรถมากับช่างกิตจริงหรือไม่ ได้ร่วมมือกับช่างกิตในการอุ้มฆ่านายใหม่หรือไม่ รวมถึงถามนายโอ๊ต ว่าได้นำรถจักรยานยนต์ของนายใหม่ไปชำแหละหลังเกิดเหตุหรือไม่ ทั้งหมดปิดปากเงียบ ไม่ตอบคำถามใดๆ จนกระทั่งถูกเจ้าหน้าที่พาขึ้นรถไป
Advertisement
