Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
รัฐบาลนัดถกบอร์ดดิจิทัลวอลเล็ต ลุยกู้ 5 แสนล้าน

รัฐบาลนัดถกบอร์ดดิจิทัลวอลเล็ต ลุยกู้ 5 แสนล้าน

2 ก.พ. 67
21:28 น.
แชร์

พรหมินทร์ ยันเศรษฐกิจไทยวิกฤติ หลังเศรษฐกิจโตต่ำ ลงทุนหด สภาพคล่องหาย จำเป็นที่รัฐบาลต้องออกมาตราการแก้ไข ชี้ดิจิทัลวอลเล็ตสำคัญ 

วันที่ 2 ก.พ.2567 นายแพทย์พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ของรัฐบาลว่า นโยบายนี้ยังเป็นนโยบายที่รัฐบาลยังคงเดินหน้าต่อไป และยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงโครงการจากที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ได้เผยแถลงข่าวไป โดยรัฐบาลจะยังคงเดินหน้าออก พ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงิน 5 แสนล้านบาท เพื่อมาใช้ในการดำเนินโครงการดังกล่าว

ซึ่งขณะนี้รัฐบาลได้เตรียมคำชี้แจงและคำอธิบายข้อมูล และเหตุผลที่มีความจำเป็นที่จะออก พ.ร.บ.กู้เงินฯ เพื่อใช้ในโครงการนี้ โดยพร้อมที่จะนัดหมายการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet หลังจากที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ป.ป.ช.) ส่งความเห็นเรื่องนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตมายังรัฐบาล ซึ่งรัฐบาลพร้อมที่จะตอบคำถามทุกข้อโดยเฉพาะเรื่องของเศรษฐกิจว่าวิกฤติอย่างไร พร้อมจะผลักดันให้สามารถแจกเงินดิจิทัลโดยเร็วที่สุด

นพ.พรหมินทร์ กล่าวว่า ข้อมูลทางเศรษฐกิจที่เริ่มออกมาจากหน่วยงานเศรษฐกิจจะตอกย้ำภาวะเศรษฐกิจของประเทศที่วิกฤติ ซึ่งตอนนี้เห็นข้อมูลจากสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.)ที่บอกว่าจีดีพีไทยปี 2568 ขยายตัวได้แค่ 1.8% เท่านั้น ทั้งนี้ข้อมูลเศรษฐกิจที่ตอกย้ำว่าเกิดวิกฤติเศรษฐกิจแล้วได้แก่

1.เศรษฐกิจไทยส่งสัญญาณเติบโตลดลงเรื่อยๆ โดยอัตราเฉลี่ยการขยายตัวของเศรษฐกิจลดลงต่อเนื่อง จากในช่วงปี 2537-2539 ที่เศรษฐกิจขยายตัวได้เฉลี่ย 7.3% ลดลงเหลือเฉลี่ย 5.2% ในช่วงปี 2542 – 2550 และในช่วงก่อนเกิดสถานการณ์โควิด-19 เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้เฉลี่ยเพียง 3.6% ในช่วงปี 2553-2562

2.เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวช้ามาก โดยหลังจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ขณะที่หลายประเทศนั้นเศรษฐกิจฟื้นตัวได้มากแล้ว โดยในปี 2563 นั้นเศรษฐกิจไทยเคยติดลบถึง 6.1% ซึ่งหลังจากปี 2563 แม้ว่าเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวแต่เติบโตต่ำ เมื่อรวมกันแล้วหากเศรษฐกิจปีที่ผ่านมาโตได้แค่ 1.8% เท่ากับว่าเศรษฐกิจไทยยังไม่กลับไปได้ในระดับเดิม

3.การลงทุนของไทยอยู่ในระดับต่ำมาเป็นเวลานาน และต่ำกว่าหลายประเทศ ทั้งนี้เมื่อดูข้อมูลย้อนหลังตั้งแต่ปี 2553 – 2562 สัดส่วนการลงทุนต่อจีดีพีของไทยอยู่ที่ 23.6% เท่านั้น ต่ำกว่าหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็น อินโดนิเซียที่อยู่ที่ 32.5% เวียดนาม 30% เกาหลีใต้ 29.9% มาเลเซีย 24.9% และฟิลิปปินส์อยู่ที่ 24.7% ซึ่งการลงทุนที่อยู่ในระดับต่ำยาวนานสะท้อนปัญหาการใช้จ่ายในประเทศ ที่กำลังซื้อลดต่ำ ทำให้การผลิตสินค้าน้อย และตัวเลขการใช้กำลังการผลิตภาคอุตสาหกรรมต่ำลง

4.อัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่องจนเข้าสู่ภาวะเงินเฟ้อติดลบในช่วง 2 – 3 เดือนที่ผ่านมา ขณะที่อัตราดอกเบี้ยสูง ซึ่งภาวะแบบนี้ส่งผลกระทบต่อประชาชน เนื่องจากหนี้สินครัวเรือนอยู่ในระดับที่สูง โดยในช่วง10 ปีที่ผ่านมาเพิ่มจาก 70% ต่อจีดีพีมาอยู่ที่ 91.6% ต่อจีดีพีทำให้ประชาชนขาดกำลังซื้อและมีแรงกดดันเรื่องหนี้ครัวเรือนที่สูงมาก ทำให้รัฐบาลจำเป็นต้องมีการใช้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ

และ 5.วิกฤติในเรื่องของการขาดสภาพคล่อง (liquidity Crisis) ในตลาดเงิน และตลาดทุน เห็นได้จากการปล่อยกู้ของสถาบันการเงินลดลงต่อเนื่อง จากการที่สถาบันการเงินปฏิเสธการปล่อยกู้เนื่องจากกลัวการผิดชัดชำระหนี้ รวมทั้งการระดมทุนผ่านตลาดทุนก็ลดลงอย่างต่อเนื่องด้วยเช่นกัน ซึ่งสถานการณ์แบบนี้บ่งบอกได้ถึงสถานการณ์วิกฤติเศรษฐกิจที่รัฐบาลต้องเข้าไปแก้ไข

“ทั้งหมดนั้นอธิบายได้ว่าสถานการณ์เศรษฐกิจนั้นวิกฤติแล้ว ดิจิทัลวอลเล็ตจึงมีความจำเป็นมากขึ้นเรื่อยๆ คนที่ไม่เข้าใจว่าเกิดวิกฤติคือคนที่นั่งอยู่บนหอคอยสูง มีรายได้สูงมองไม่เห็นความลำบากของคนข้างล่าง เป็นคนที่อยู่รอดอยู่แล้ว”นพ.พรหมินทร์ กล่าว

เลขาธิการนายกฯกล่าวว่าจากปัจจัยบ่งบอกว่าเกิดวิกฤติเศรษฐกิจในขณะนี้มีความชัดเจน และรัฐบาลสามารถอธิบาย 4 เรื่องสำคัญ ที่เป็นประเด็นทางข้อกฎหมายในการออกพ.ร.บ.เงินกู้ฯ 5 แสนล้านบาท ซึ่งตามมาตรา 53 แห่ง พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง พ.ศ.2561 ได้แก่

1.มีความจำเป็นต่อเนื่องที่จะต้องกู้เงินเพื่อรองรับวิกฤติที่เกิดขึ้น ซึ่งเห็นได้จากการเติบโตของเศรษฐกิจไทยลดลงต่อเนื่อง
2.มีความจำเป็นเร่งด่วน เนื่องจากเศรษฐกิจไทยที่เติบโตต่ำมานาน กระทบกับกำลังการผลิตสินค้า และการส่งออกที่ติดลบ
3.มีความจำเป็นที่จะต้องกู้เงิน เพื่อแก้ไขภาวะวิกฤติที่เกิดขึ้นกับเศรษฐกิจของประเทศ
และ 4.การตั้งบประมาณปกติ ไม่สามารถตั้งได้ทันจึงต้องมีการกู้เงินเพิ่มเติม

“คำว่าวิกฤติไม่วิกฤตินั้นรัฐบาลจะเป็นคนตัดสินใจ ซึ่งเป็นหน้าที่ของรัฐบาลในการทำนโยบาย เพื่อแก้ไขความเดือดร้อนของประชาชน และรัฐบาลยึดสภาพความเป็นจริงจึงต้องมุ่งแก้ไขด้วยมาตรการดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งเป็นการปั๊มหัวใจให้ประชาชนที่ยากลำบากสามารถดำเนินชีวิตต่อได้ และเกิดการหมุนเวียนของเม็ดเงิน ทำให้ภาคส่วนอื่นๆของเศรษฐกิจดีขึ้นต่อเนื่อง เพราะหากไม่ทำอะไรเศรษฐกิจไทยก็เหมือนกับกบต้มที่รอวันตาย” นพ.พรหมินทร์ กล่าว

สำหรับข้อกังวลเรื่องวินัยการเงินการคลังว่านโยบายนี้อาจทำให้การคลังของประเทศมีความเสี่ยงเนื่องจากพื้นที่ทางการคลังของประเทศเหลือน้อยและหนี้สาธารณะใกล้แตะระดับ 70% ของจีดีพีแล้วนพ.พรหมินทร์ อธิบายว่ารัฐบาลทำนโยบายนี้โดยมีการวางแผนการใช้หนี้คืนครบเต็มจำนวนภายใน 3 ปี โดยการกู้เงิน 5 แสนล้านบาทนั้นจะตั้งงบประมาณปีละ 1.7 – 1.8 แสนล้านบาทใช้คืนหนี้ ทำให้ไม่กระทบกับหนี้สาธารณะต่อจีดีพี และเมื่อมีมาตรการนี้ก็จะทำให้จีดีพีขยายตัวด้วยจึงไม่น่ากังวลว่าจะทำให้หนี้สาธารณะพุ่งขึ้นเพราะปัจจุบันหนี้สาธารณะอยู่ที่ 62% ต่อจีดีพี แต่นโยบายดิจิทัลวอลเล็ตจะทำให้หนี้สาธารณะเพิ่มเป็น 64% ต่อจีดีพีเท่านั้น

เมื่อถามว่าข้อเสนอแนะโครงการดิจิทัลวอลเล็ต จาก ป.ป.ช.ที่มีการตั้งข้อสังเกตเรื่องกฎหมายว่าหากรัฐบาลเดินหน้าจะสุ่มเสี่ยงผิดกฎหมายนั้นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวว่าอำนาจในการบริหารประเทศ และการแก้ปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจนั้นเป็นอำนาจของรัฐบาล ก็ต้องถามกลับว่า ป.ป.ช.นั้นมีหน้าในการตรวจสอบ ไม่ใช่หน้าที่ในการบริหาร ซึ่ง ป.ป.ช.นั้นสามารถที่จะเสนอแนะความเห็นมาได้เราก็จะรับฟัง เช่น เดียวกับที่รับฟังความเห็นของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แต่การเดินหน้านโยบายนี้เป็นอำนาจของรัฐบาล และตอนนี้รัฐบาลใช้วิธีการออก พ.ร.บ.ซึ่งมีขั้นตอนในการที่ต้องผ่านความเห็นชอบของรัฐสภาฯ หากไม่ผ่านความเห็นชอบของสภาฯร่างกฎหมายก็จะตกไป ไม่มีใครที่ต้องรับผิดชอบทางการเมืองอะไร แต่ตนเองก็ไม่ได้คิดว่ากฎหมายฉบับนี้จะไม่ผ่านสภาฯ โดยรัฐบาลจะพยายามเดินหน้านโยบายนี้เต็มที่เพื่อให้สามารถแจกเงินดิจิทัลได้โดยเร็วที่สุด.

Advertisement

แชร์
รัฐบาลนัดถกบอร์ดดิจิทัลวอลเล็ต ลุยกู้ 5 แสนล้าน