หวิดเกิดอุบัติเหตุ สาววัย 26 ถูก"เชือกว่าว"บาดคอขณะขับรถกลับบ้าน
หวิดเกิดอุบัติเหตุร้ายแรง หลังสาววัย 26 ถูก"เชือกว่าว"บาดคอ นิ้วขณะขับรถกลับบ้าน ผู้ใหญ่บ้านเผยก่อนหน้านี้เคยเกิดเหตุลักษณะนี้มาแล้ว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
จากกรณีที่มีผู้ใช้เพสบุ๊คส่วนตัวรายหนึ่งได้โพสต์ภาพรอยแผลและข้อความในเฟซบุ๊กระบุว่า ตนได้รับบาดเจ็บจากการถูกเชือกขนาดเล็กบาดบริเวณลำคอ และนิ้วมือ ขณะขี่รถจยย.ผ่านสะพานห้วยวังหิน ก่อนถึงหมู่บ้านโพนทอง จ.อุดรธานี เหตุเกิดประมาณวันที่ 26 ต.ค. 65 เวลา 19:00 น. ที่ผ่านมา
ล่าสุดวันที่ 28 ตุลาคม 2565 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังบริเวณสะพานห้วยวังหิน ระหว่างบ้านอุ่มจาน-บ้านโพนทองหมู่ที่ 5 ต.อุ่มจาน อ.ประจักษ์ศิลปาคม จ.อุดธานี พบกับ น.ส.ปนัดดา พยัฆกาฬ อายุ 26 ปี ชาว ต.นาม่วง อ.ประจักษ์ศิลปาคม ผู้โพสต์นำตรวจสอบจุดที่ถูกเชือกเกี่ยวคอ ได้รับปาดเจ็บ เหตุเกิดบนถนนบริเวณคอสะพานโดยมีผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน และชาวบ้านมาร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุ
น.ส.ปนัดดาเล่าว่า ตนเรียนโรงเรียนบริบาลแห่งหนึ่งใน จ.อุดรธานี เมื่อช่วงเช้าวันที่ 26 ต.ค. ที่ผ่านมา ตนได้ขี่รถจักรยานยนต์ไปฝากจอดไว้ที่บ้านโนนสมบูรณ์ ต.ห้วยสามพาด อ.ประจักษ์ศิลปาคม เพื่อนั่งรถตู้โดยสารไปหาหมอที่โรงพยาบาลศรีนครินท์ จ.ขอนแก่น จากนั้นขากลับบ้านตนได้นั่งรถตู้โดยสารมาลงที่ปากทางเข้าหมู่บ้านโนนสมบูรณ์ แต่มีผู้หญิงและเด็กได้ลงรถที่เดียวกับตนและก็เป็นช่วงเย็นแล้วจึงไม่มีรถโดยสารหรือรถรับจ้างเข้าหมู่บ้าน ตนจึงได้สอบถามว่าอยู่บ้านไหนซึ่งพี่ผู้หญิงบอกตนว่าจะไปบ้านโพนทอง อ.ประจักษ์ศิลปาคม ซึ่งห่างจากบ้านของตนไปอีกประมาณ 10 กิโลเมตรตนเห็นว่าจะมืดค่ำแล้วจึงอาสาที่จะขี่รถจักรยานยนต์ไปส่งบ้าน
เมื่อขี่รถมาถึงบริเวณคอสะพานห้วยวังหิน ก่อนถึงหมู่บ้านโพนทองตนมีความรู้สึกว่ามีเชือกอะไรมารัดที่คอจึงได้ใช้มือจับ แล้วดึงขึ้นให้พ้นหัว แต่จังหวะนั้นเชือกได้บาดนิ้วมือและใบหูด้านขวาจึงรีบดึงเชือกให้พ้นตัวแต่เชือกไม่ได้ไปถูกสองแม่ลูกที่นั่งมาด้วย เพราะตนไม่ได้ขี่รถมาเร็วและโชคดีที่รถไม่ล้มไปส่งสองแม่ลูกที่กลางหมู่บ้านแล้วขี่รถกลับมาดูว่าเป็นเชือกอะไรแต่ก็ไม่เห็นเชือกแล้ว อีกทั้งบริเวณสะพานก็เปลี่ยวและมืดโดยตนคิดว่าจะเป็นเชือกธงทิวที่ทางวัดผูกประดับงานกฐินก่อนจะรู้สึกปวดแสบที่คอและนิ้วมือเพราะถูกเชือกบาดตนกลัวจึงรีบขี่รถกลับบ้าน
เมื่อมาถึงบ้านตนก็มาบอกแม่และทำการปฐมพยาบาลแผลจากนั้นแม่ได้โทรศัพท์ไปหาเพื่อนที่เป็นคนในหมู่บ้านโพนทอง และเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟังซึ่งทางเพื่อนของแม่จึงได้ไปบอกผู้ใหญ่บ้านพร้อมกับตำรวจสายตรวจได้ออกมาตรวจสอบ พบว่าเป็นเชือกว่าว
กระทั่งเช้าวันรุ่งขึ้น (27ต.ค.65) ผู้ใหญ่บ้านโพนทอง ได้เข้ามาเยี่ยมและสอบถามอาการพร้อมกับบอกตนว่าเชือกดังกล่าวเป็นเชือกไนล่อนสีเขียวขนาดเล็ก ที่ใช้สำหรับผูกเล่นว่าวซึ่งตนก็ไม่ได้ติดใจอะไรที่ตนโพสต์รูปและข้อความลงในเพสบุ๊คก็อยากจะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปตรวจสอบเพราะอาจจะเกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อนขึ้นมาอีก
”อยากจะฝากไปถึงคนที่เล่นว่าวถ้าจะเล่นเมื่อเล่นเสร็จแล้วควรเก็บว่าวและเชือกให้เรียบร้อยเป็นที่เป็นทาง ไม่ต้องผูกเชือกเอาไว้จนว่าวตกลงมาเอง หรือให้ไปเล่นในที่โร่งแจ้งไม่ใช่ริมถนนเพราะอาจเกิดอุบัติเหตุได้และถ้าเป็นคนแก่ที่มองไม่เห็นก็อาจจะเป็นอุบัติเหตุรายแรงมากกว่านี้”
นายจำรูญ จันทรเสนา อายุ 53 ปี ผู้ใหญ่บ้าน ม.5 บ้านโพนทอง ต.อุ่มจาน บอกว่าช่วงเวลาประมาณ 19.00 น. ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านได้มาแจ้งเรื่องคนถูกเชือกบาดคอที่บริเวณคอสะพานห้วยวังหิน ตนจึงได้ออกมาตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.ประจักษ์ศิลปาคมได้เดินตรวจสอบตามจุดต่างๆ จนไปพบว่า มีเชือกอยู่ตรงต้นไม้หน้าวัดพบว่าเป็นเชือกว่าวจึงได้เดินตามเชือกไปจนพบกับตัวว่าวติดอยู่บนต้นจามจุรี พอตอนเช้าตนได้ไปสอบถามคนในหมู่บ้านจึงทราบว่ามีคนมาเล่นว่าวที่บริเวณใกล้กับคอสะพานห้วยวังหินซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 แล้วที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้
ครั้งแรกช่วงเดือนที่ผ่านมาเวลา 05.00 น. มีชาวบ้านขี่รถจักรยานยนต์จะไปฟาร์มหมูและถูกเชือกว่าวบาดคอ ได้รับบาดเจ็บมากกว่าครั้งนี้เพราะเป็นเชือกเส้นใหญ่ก่อนมาเกิดขึ้นซ้ำอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เป็นเชือกเส้นเล็กที่แรกคิดว่าจะเป็นคนมือบอนเอาเชือกมาผูกดักรถ แต่เมื่อตรวจสอบดูแล้วไม่ใช่จึงได้ประกาศเสียงตามสายในเรื่องของการเล่นว่าวและฝากถึงคนที่เล่นว่าว ว่าถ้าเล่นเสร็จแล้วก็ให้เก็บ วันรุ่งขึ้นค่อยมาเล่นใหม่ไม่ควรผูกเชือกว่าวเอาไว้เพราะบางคนที่นำว่าวที่ติดธนูมาเล่น เมื่อขึ้นติดลมบนแล้วจะมีเสียงซึ่งบางคนก็ชอบบางคนก็ไม่ชอบและหากว่าช่วงจังหวะนั้นลมไม่มี ว่าวก็จะตกลงถ้าตกลงในที่นาหรือที่โล่งก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นแต่ถ้าตกลงขวางถนนก็จะเกิดอันตรายกับผู้สัญจรใช้รถใช้ถนนได้โดยเฉพาะรถจักรยานยนต์และแจ้งประกาศให้ทางลูกบ้านรับทราบแล้ว
Advertisement
