ผู้การฯปากน้ำโพ สั่งย้าย ผบ.หมู่สืบสวน สภ.ตาคลี ส่งคนทำร้ายสาวร้านเค้ก
ผู้การฯปากน้ำโพ สั่งย้าย สิบตำรวจ ผบ.หมู่สืบสวน สภ.ตาคลี กรณีส่งคนไปทำร้ายสาวใหญ่ร้านเค็กบาดเจ็บ กำชับพนักงานสอบสวนให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
จากกรณีที่ น.ส.พรพิมล (สงวนนามสกุล) อายุ 29 ปี เป็นเจ้าของร้านเค้กแห่งหนึ่งย่าน วงเวียนตาคลี อ.ตาคลี จังหวัดนครสวรรค์ โพสต์ร้องเรียนผ่านเฟซบุ๊กเพราะว่ามีลูกน้องคนสนิทตำรวจ ในจังหวัดนครสวรรค์จำนวน 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์มาทำร้ายร่างกายจนศรีษะแตกเย็บ 8 เข็ม สภาพสาหัสเจ้าตัวอยู่ในสภาพมีผ้าพันแผลที่ศีรษะ เนื่องจากถูกคนร้ายใช้ของแข็งหรือของมีคมตีเข้าที่ศีรษะจนเป็นแผลฉกรรณ์แตกทางยาว และผู้เสียหายได้นำภาพจากกล้องวงจรปิดขึ้นโรงพัก สภ.ตาคลี เพื่อแจ้งความดำเนินคดีแล้ว
เรื่องราวดังกล่าวกำลังเป็นที่สนใจของประชาชนทั่วประเทศ เนื่องจากผู้ที่ทำร้ายสาวใหญ่รายนี้ เป็นลูกน้องคนสนิทของตำรวจในจังหวัดนครสวรรค์ที่รับราชการในพื้นที่ สภ.ตาคลีด้วย และขณะทำร้ายประกาศให้ชาวบ้านรู้เสียงดังว่า “มาสั่งสอนคนที่พูดไม่ดีกับ นายตั้ม” ล่าสุดเมื่อ เวลา 22.00 น.เมื่อคืนนี้ (15 ต.ค.65) นาย ทศพล โพธิ์กัน หรือเหี่ยว และนายนิพนธ์ โพธิ์กัน หรือแชมป์ สองพี่น้องผู้ต้องหาในคดีนี้ มามอบตัวกับ พ.ต.ต.อาทิตย์ แย้มกลิ่น สารวัตร สส. สภ.ตาคลีและยังถูกสอบสวนขยายผลอยู่นั้น
ล่าสุด วันที่ 16 ตุลาคม 2565 เมื่อเช้าที่ผ่านมา พ.ต.อ อิทธิเดช อิ่มภูมี ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรอำเภอตาคลี เปิดเผยว่า เรื่องดังกล่าวตำรวจไม่นิ่งนอนใจจะให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่ายอย่างดี โดยเบื้องต้น หลังเกิดเหตุผู้บังคับการตำรวจภูธรนครสวรรค์ได้สั่งการแล้ว ล่าสุด พล.ต.ต.ชาญวิทย์ กนกนาก ผบก.ภ.นครสวรรค์ ได้ลงนามหนังสือคำสั่ง ตำรวจภูธรนครสวรรค์ที่ 687/2565 เรื่องให้ราชการตำรวจปฎิบัติราชการ โดยให้ ส.ต.อ.อนุรักษ์ ด้วยสั้น ผบ.หมู่ ทำหน้าที่สืบสวน สภ.ตาคลี ถูกกล่าวหาฐานความผิดพยายามฆ่าและทำร้ายผู้อื่นเหตุเกิดเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2565 หากให้ปฏิบัติหน้าที่ในสังกัดสถานีตำรวจภูธรตาคลีต่อไป อาจเกิดความเสียหายอาจเป็นอุปสรรคต่อการสืบสวนหรือแสวงหาข้อเท็จจริงพร้อมกับพยานหลักฐานเพื่อประกอบการดำเนินการทางวินัย
เพื่อให้การดำเนินการสอบสวนทางอาญาและทางวินัยเป็นไปด้วยความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 15 แห่งพระรำชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 และระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่าด้วยการสั่งให้ข้าราชการตำรวจไปปฏิบัติราชการภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2563 ข้อ 6 (2) และ ข้อ 8 (3) จึงให้ สิบตำรวจเอก อนุรักษ์ ด้วงสั้น ปฏิบัติราชการ ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรจังหวัดนครสวรรค์ ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 16 ตุลาคม พ.ศ.2565 จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง ลงวันที่ 15 ตุลาคม พ.ศ.2565
เมื่อถามถึง เรื่องดำเนินคดีกับนายแชมป์ และนายเหี่ยว ได้แจ้งไป 3 ข้อหา คือ พยายามฆ่าา บุกรุก และใช้กำลังประทุษร้าย ซึ่งผู้ต้องหาทั้งสองยอมรับว่า บุกรุกแล้วเข้าไปทำร้ายจริง แต่ไม่ยอมรับเรื่องเจตนาฆ่า ส่วน ส.ต.อ.อนุรักษ์ ด้วยสั้น แม้จะถูกสั่งย้ายให้ไปช่วยราชการแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหา เพราะต้องรอการตรวจสอบก่อน ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องมากแค่ไหน รวมถึงต้องตรวจสอบพยานหลักฐานด้วยเช่นกัน ยืนยันว่าตำรวจ สภ.ตาคลีให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย และตอนนี้ก็ได้สั่งการให้ตำรวจสายตรวจคอยไปตรวจตราร้านขายเค้ก และบ้านของผู้บาดเจ็บแล้วด้วย หากคดีนี้ตำรวจของ สภ.ตาคลี มีส่วนผิดจริง จะฟันผิดทั้งวินัย และคดีอย่างเด็ดขาดแน่นอน ไม่เอาไว้ให้หม่นหมองอยู่ในโรงพักของเรา
“เมื่อคืนนี้ ผมได้เข้าไปสอบปากคำกับนายแชมป์และนายเหี่ยวด้วยตัวเอง โดยทั้งคู่ ยอมรับว่า เข้าไปทำร้ายจริง แต่ก็ให้การว่าเป็นปมเหตุที่เกิดจากการที่ฝ่ายผู้ต้องหาเที่ยวไปพูดถึงฝ่ายของผู้ถูกทำร้ายว่าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด และเคยต้องคดีมา จึงทำให้ผูกใจเจ็บ และมีโอกาสได้เจอตัวผู้ถูกทำร้ายที่ร้าน จึงได้มีการพูดเคลียร์ใจกัน แต่กลายเป็นการตัดสินปัญหาด้วยการทะเลาะวิวาททำร้ายร่างกายถึงขั้นผู้บาดเจ็บต้องมาแจ้งความว่าเป็นการพยายามฆ่า และผมขอยืนยันว่า นายแชมป์และนายเหี่ยวที่มามอบตัวเมื่อคืน คือผู้ต้องหาตัวจริง ไม่ได้มีการจัดฉากตามที่โซเชียลได้ตั้งข้อสังเกตไว้แต่อย่างใด” พ.ต.อ อิทธิเดช ระบุ
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า นายแชมป์ และนายเหี่ยว ยังถูกคุมขังอยู่ที่ สภ.ตาคลี และวันนี้ ได้มีการนำตัวมาสอบปากคำเพิ่มเติม จึงได้สอบถามถึงวันก่อนเห็นที่ผู้บาดเจ็บ ได้บอกว่ามีการอ้างถึงชื่อพี่ตั้ม ซึ่งทั้งคู่ต่างพูดประสานเสียงว่าพี่ตั้ม ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง และไม่เคยรู้จักและเกี่ยวข้องกัน ยืนยันว่า วันที่ไปก่อเหตุมีเพียงแค่ความคับแค้นในใจ ไม่เคยมีการเอ่ยถึงชื่อพี่ตั้มเลย
Advertisement
