ไทยผ่านวาระแรก! เปิดรายชื่อประเทศที่ให้สิทธิลาปวดประจำเดือนแก่ผู้หญิง

ไทยผ่านแล้ววาระแรก! เปิดรายชื่อประเทศที่มีกฎหมายรองรับให้สิทธิลาปวดประจำเดือน หรือ Menstrual Leave แก่ลูกจ้างผู้หญิง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

มติเอกฉันท์! สภาฯรับหลักการเพิ่มวันพักร้อน-ลาปวดประจำเดือนได้

รถขนแรงงานต่างด้าว ชนแท่นแบริเออร์ตกร่องกลางถนน ดับ 2 ราย เจ็บ 7 ราย

รวบ 13 แรงงานกัมพูชา เผย "ไร้วุฒิ-ไร้เส้นสาย" หางานในประเทศไม่ได้

จากกรณีที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีมติรับหลักการร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน 2 ฉบับ ที่เสนอโดยนายจรัส คุ้มไข่น้ำ สส.ชลบุรี พรรคประชาชน และ น.ส.วรรณวิภา ไม้สน สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ร่าง พ.ร.บ. คุ้มครองแรงงาน ฉบับใหม่มีการเสนอดังนี้ เวลาทำงานไม่เกิน 40 ชั่วโมง/สัปดาห์, วันหยุดประจำสัปดาห์ 2 วัน, ลาพักร้อน 10 วัน หลังทำงานครบ 120 วัน, สิทธิลาไปดูแลครอบครัว 15 วัน/ปี, มีสถานที่และเวลาให้ให้นมบุตรในที่ทำงาน และให้สิทธิพิเศษลูกจ้างหญิงมีประจำเดือน สามารถหยุดได้โดยไม่ให้ถือเป็นวันลาป่วย ซึ่งทั้งหมดจะต้องรอพิจารณาอีก 2 วาระก่อนที่จะมีผลบังคับใช้

ทั้งนี้ การให้สิทธิพิเศษลูกจ้างหญิงมีประจำเดือน สามารถหยุดได้โดยไม่ให้ถือเป็นวันลาป่วย หรือ Menstrual Leave ได้รับความสนใจจากประชาชนจำนวนมาก เนื่องจากเป็นสิทธิและสวัสดิการใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน แต่สำหรับบางประเทศนี่ไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะมีกฎหมายบังคับใช้เรียบร้อยแล้ว เช่น

• ญี่ปุ่น มีการให้สิทธินี้มาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1947 โดยกฎหมายระบุว่านายจ้างไม่สามารถบังคับให้ผู้หญิงมาทำงานในวันที่เธอเผชิญกับความยากลำบากจากประจำเดือน

• อินโดนีเซีย อนุญาตให้พนักงานหญิงลาหยุดได้ 2 วันแรกของการมีประจำเดือน

• เกาหลีใต้ มีกฎหมายที่อนุญาตให้ผู้หญิงลาได้ 1 วันต่อเดือนโดยไม่ต้องยื่นใบรับรองแพทย์ ตั้งแต่ปี 2001

• ไต้หวัน อนุญาตให้ผู้หญิงลาได้เดือนละ 1 วัน โดยวันนั้นบริษัทจะจ่ายให้ครึ่งหนึ่งของเงินเดือน แต่หากลามากกว่า 3 วัน วันลาดังกล่าวจะถูกนำไปรวมกับสิทธิลาป่วยของบริษัท

• เวียดนาม อนุญาตให้พนักงานผู้หญิงพักเพิ่ม 30 นาทีในช่วงที่เป็นประจำเดือน และอนุญาตให้ผู้หญิงลาได้ 3 วันต่อปี โดยมีเงื่อนไขว่า หากพนักงานคนไหนไม่ใช้สิทธินี้ จะได้รับค่าจ้างมากขึ้น

• สเปน เป็นประเทศในยุโรปประเทศแรกที่มีการบังคับใช้กฎหมายนี้ในปี 2023 โดยอนุญาตให้ผู้หญิงสามารถลาระหว่างมีประจำเดือนได้ 3 วันต่อเดือน และสามารถลาเพิ่มเป็น 5 วันได้ หากมีอาการรุนแรง

• แซมเบีย อนุญาตให้พนักงานหญิงลาได้ 1 วันต่อเดือน และมีการดำเนินคดีและลงโทษสำหรับนายจ้างที่ปฏิเสธ

สำหรับ การปวดประจำเดือน หรือที่เรียกว่า Dysmenorrhea เป็นอาการปวดที่พบได้บ่อยมากในผู้หญิงที่อยู่ในวัยเจริญพันธุ์ โดยทั่วไประยะเวลาเฉลี่ยของประจำเดือนประมาณ 5-7 วัน โดยอาการปวดส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นบริเวณท้องน้อย อาจปวดหน่วง ปวดเกร็ง หรือปวดร้าวไปถึงหลังและต้นขาได้

อาการปวดประจำเดือนสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักตามสาเหตุ ได้แก่

1.ปวดประจำเดือนปฐมภูมิ (Primary Dysmenorrhea) เป็นอาการปวดที่ไม่พบความผิดปกติของอวัยวะในอุ้งเชิงกราน มักเกิดจาก สารโพรสตาแกลนดิน (Prostaglandins) เป็นสารที่สร้างขึ้นที่เยื่อบุโพรงมดลูกในช่วงมีประจำเดือน สารนี้จะไปกระตุ้นให้กล้ามเนื้อมดลูกบีบตัวและหดเกร็ง เพื่อขับเยื่อบุโพรงมดลูกออกมา ทำให้เกิดอาการปวด โดยทั่วไปอาการปวดชนิดนี้มักจะดีขึ้นเมื่ออายุมากขึ้นหรือหลังการคลอดบุตร

2.ปวดประจำเดือนทุติยภูมิ (Secondary Dysmenorrhea) เป็นอาการปวดประจำเดือนที่เกิดจากความผิดปกติหรือโรคของอวัยวะในอุ้งเชิงกราน มักเกิดในผู้หญิงที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไป หรือเพิ่งเริ่มมีอาการปวดรุนแรงในภายหลัง สาเหตุที่พบบ่อย ได้แก่ เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ (Endometriosis) ภาวะที่เยื่อบุโพรงมดลูกไปเจริญเติบโตนอกมดลูก เช่น ที่รังไข่ หรือท่อนำไข่ เนื้องอกในมดลูก (Uterine Fibroids) มีเนื้อเยื่อที่เจริญเติบโตในผนังมดลูก และ อุ้งเชิงกรานอักเสบ (Pelvic Inflammatory Disease - PID) เป็นการติดเชื้อแบคทีเรียในระบบอวัยวะสืบพันธุ์

การปวดประจำเดือนของผู้หญิงจึงเป็นสิ่งที่ต้องเจอซ้ำๆ ทุกเดือน บางคนปวดมาก บางคนปวดน้อย บางคนทนได้ บางคนทนไม่ได้จนต้องนอนซม การที่ประเทศไทยพยายามผลักดันกฎหมายให้สิทธิพิเศษลูกจ้างหญิงมีประจำเดือน สามารถหยุดได้โดยไม่ให้ถือเป็นวันลาป่วย จึงถือเป็นอีกหนึ่งความก้าวหน้าและเห็นถึงความสำคัญของความเจ็บปวดของการมีประจำเดือนที่ส่วนใหญ่ถูกมองข้ามไป

คอนเทนต์แนะนำ

ย้อนรอยเหตุการณ์ "หลุมยุบ" ขนาดใหญ่ใจกลางเมืองฟุกุโอกะ ซ่อม 7 วันเสร็จ

ทำความเข้าใจ ยาแก้ปวดแต่ละประเภท คนท้องกินอย่างไรปลอดภัย

ถ้าไม่กินนอนไม่หลับ? เป็นบ่อยแค่ไหนเข้าข่าย โรคกินดึก รู้ทันก่อนโรครุม