
ที่พรรคเพื่อไทย นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวบนเวทีการเปิดตัวผู้ประสงค์ลงสมัคร สส. ทั้ง 500 คน ว่า ตนมั่นใจว่าพรรคเพื่อไทย เป็นพรรคการเมืองเดียวที่นำเสนอนโยบายเชิงโครงสร้างเพื่อพัฒนาประเทศ แก้ไขปัญหาให้ประชาชน และผลักดันให้ประเทศไปข้างหน้า เราจะต่อสู้กับพลังที่ฉุดรั้งประเทศให้ถดถอย เช่น เรื่องความขัดแย้งทางการเมือง ความไม่มีเสถียรภาพของรัฐบาล และเรื่องปัญหานิติรัฐนิติธรรม เพื่อก้าวข้ามสิ่งเหล่านี้ พรรคเพื่อไทยขอเสนอตัวเป็นพลัง ร่วมกับประชาชนในการขับเคลื่อนประเทศไปข้างหน้าผ่าน 3 เสาหลัก คือเสาเศรษฐกิจ ความมั่นคง และนิติรัฐนิติธรรม
เสาแรกเศรษฐกิจ เราต้องตั้งเข็มทิศให้กับประเทศไทยให้แม่นยำและชัดเจน พรรคเพื่อไทยวางเป้าหมายว่าภายในระยะเวลา 4 ปี เราจะขับเคลื่อนให้ประเทศมีความเจริญเติบโตของจีดีพีไม่น้อยกว่า 5% ตั้งเป้าในการแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำ ต้องมียุทธศาสตร์ GO to Economic ผ่านนโยบายการค้าและนโยบายการคลัง เราจะยกระดับประเทศไทยให้เป็นประเทศรายได้สูงผ่านเทคโนโลยีสูง และนวัตกรรม
เสาที่สองความมั่นคง เพื่อไทยให้คงามสำคัญความมั่นคงทางด้านการทหาร ทางไซเบอร์ และความมั่นคงทางด้านสิ่งแวดล้อม ส่วนเสาที่สามคือนิติรัฐ นิติธรรม ซึ่งตระหนักถึงความสำคัญด้านการยุติธรรม การทำลงไว้ซึ่งหลักการประชาธิปไตย จะเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างความเชื่อมั่นให้กับประเทศไทย ในกรยอมรับของประชาคมโลก ซึ่งด้วย 3 เสาหลักนี้ ตั้งแต่ปี 2541 พรรคไทยรักไทย ถูกก่อตั้งโดยนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เรายังเป็นพรรคการเมืองที่ทำนโยบายที่ตอบโจทย์ประชาชน เรายังยืนอยู่ประชาชนเสมอมา พรรคเพื่อไทยเป็นสถาบันการเมืองที่มุ่งมั่นทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน เพื่อสร้างวันพรุ่งนี้ที่ดีกว่าให้กับประชาชน
ทั้งนี้วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2569 เป็นการเลือกตั้งที่ประเทศไทยรุมล้อมโดยวิกฤติหลายด้าน ทั้งด้านการเมือง รัฐธรรมนูญ ความแตกแยกในสังคมปัญหาชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน Geo-politic และด้านเศรษฐกิจปากท้องคุณภาพชีวิตของประชาชน การเลือกตั้งครั้งนี้จึงมีความสำคัญมาก ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของประเทศไทย เราไม่ได้มาอยู่ตรงนี้เพื่อเปิดตัวผู้สมัคร แต่เรามาประกาศความพร้อมของพรรคเพื่อไทยว่าพรรคเพื่อไทยพร้อมแล้ว ประเทศไทยพร้อมแล้ว การเปลี่ยนแปลงจะเริ่มตั้งแต่นาทีนี้เป็นต้นไป โอกาสและความหวังของประชาชนเริ่มที่พรรคเพื่อไทยทำได้ประเทศไทยก็ทำได้
ตั้งแต่รัฐบาลนายทักษิณ รัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายเศรษฐา ทวีสิน และนางสาวแพทองธาร ชินวัตร พิสูจน์เป็นที่ประจักษ์ว่าสามารถแก้ปัญหาให้ประชาชนเราเป็นพรรคการเมืองเดียวที่ขับเคลื่อนให้เศรษฐกิจเติบโตอย่างมีนัยยะ เป็นพรรคการเมืองเดียวที่นำเสนอสวัสดิการโดยรัฐสำเร็จผ่าน โครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า หรือการปฏิรูประบบราชการจนแล้วเสร็จ ซึ่งผลงานพรรคเพื่อไทยเป็นที่ประจักษ์สร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับประเทศอย่างมีนัยยะสำคัญ ซึ่งเป็นสิ่งที่สมมติว่าประเทศไทยเราสามารถยกเครื่องได้ และเมื่อพรรคเพื่อไทยกลับมาเป็นรัฐบาล นี่คือสิ่งที่เราจะทำ ประการแรก พรรคเพื่อไทยไม่เคยละทิ้งพี่น้องเกษตรกร จึงนำเสนอนโยบายประกันกำไรสินค้าเกษตร 30% พร้อมด้วยนโยบายพักหนี้เกษตรกรและการตั้งเป้าหมายราคาสินค้าเกษตรหลัก เช่นข้าวหอมมะลิ 15,000 บาทต่อตัน ข้าวเปลือก 10,000 บาท/ตัน ยางพารา 70 บาท/กิโลกรัม ข้าวโพด 7.25 บาท/กิโลกรัม และมันสำปะหลัง 3 บาท/กิโลกรัม ซึ่งจากนโยบายนี้เชื่อว่าชีวิตของเกษตรกรจะไม่ต้องแบกรับต่อความผันผวนของราคา ไม่ห่วงพะวงกับต้นทุนการผลิตที่เพิ่มมากขึ้นอย่างควบคุมไม่ได้ ซึ่งพรรคเพื่อไทยจะสร้างความมั่นคงให้กับเกษตรกร จะทำให้อยู่ในภาคการเกษตรด้วยความภาคภูมิใจ
พรรคเพื่อไทยเชื่อว่าเป็นหน้าที่รัฐบาล ในการทำประชาชนเข้าถึงสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานในราคาเหมาะสม เพราะไฟฟ้าไม่ใช่แค่พลังงาน แต่เป็นเครื่องมือในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ต้นทุนอุตสาหกรรมแห่งอนาคต และเป็นโอกาสทางเศรษฐกิจของประชาชน เป็นเครื่องชี้วัดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ โดยนโยบายไฟฟ้าเพื่อคนไทย เรายืนยันว่าค่าไฟต้องไม่เกิน 3.70 สตางค์ต่อหน่วย ซึ่งพรรคเพื่อไทยทำได้แน่นอน และอีกมาตรการคือการแก้ไขปัญหายาเสพติดให้เด็ดขาดและครบวงจร ซึ่งประชาชนสะท้อนว่าเป็นเครื่องบ่อนทำลายเยาวชนของชาติ บ่อนทำลายครอบครัวชุมชน เราจะปราบผู้ค้ายาอย่างเด็ดขาด และสานต่อนโยบาย Seal Stop Safe และใช้มาตรการลดความรุนแรงอันตรายจากการใช้ยาเสพติด นโยบายหนึ่งจังหวัดหนึ่งศูนย์บำบัด จะนำภาระในการดูแลผู้ติดยาเสพติดให้พ้นภาระครอบครัวมาอยู่ในการดูแลของรัฐ ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยปลอดภัยจากยาเสพติดและชุมชนต้องอุ่นใจลูกหลานไทยต้องมีอนาคต
และสุดท้ายพรรคเพื่อไทยจะยกระดับความมั่นคงในทุกมิติ ทั้งความมั่นคงทางทหารไซเบอร์เพื่อแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์และอาชญากรข้ามชาติสแกมเมอร์ ทั้งยกปัญหาความปลอดภัยของธุรกรรมออนไลน์โดยให้ธนาคารและผู้ประกอบการโทรคมนาคมร่วมมีส่วนต้องรับผิดชอบ ตั้งกองทุนคืนเงินให้ผู้ถูกหลอกจากมิจฉาชีพทุกประเภท ขึ้นบัญชีดำอาชญากรข้ามชาติ และแสวงหาความร่วมมือจากนานาชาติเพื่อปราบปรามเรื่องนี้ไม่ใช่เพื่อความปลอดภัยของประชาชนคนไทยแต่ประเทศไทยต้องมีมีบทบาทนำในการปราบอาชญากรรมข้ามชาติและสแกม้มอร์ ซึ่งถือเป็นการแก้ไขปัญหาทุนเทาอย่างเป็นรูปธรรม
สิ่งที่พรรคเพื่อไทยเสนอวันนี้ ไม่ใช่คำสัญญาแต่คือความพร้อมของพวกเราในการลงมือทำ พรรคเพื่อไทยมีทั้งคนรุ่นเก๋า คนรุ่นใหม่ เราผ่านบทเรียนที่เจ็บปวด และความภาคภูมิใจ เรามีความหลากหลาย แต่จิตวิญญาณของเรามีเป้าหมายเดียวกัน มีแต่พวกเราเท่านั้นที่จะนำพาประเทศให้หลุดพ้นจากความยากจน หลายคนพยายามวาดปีศาจให้คนกลัว แต่เราจะไม่ละเลยปัญหาโครงสร้างละเลยการแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนจงอย่ากลัวการพัฒนามี แต่พวกเราที่จะพาประเทศไทยไปข้างหน้าพวกเราคือ พรรคเพื่อไทยซึ่งมีแต่พรรคเพื่อไทยที่ทำได้
Advertisement