"อนุทิน" ยึดคติ "ช้าๆ ได้พร้าเล่มงาม" ไม่รีบเปิดแคนดิเดตนายกฯ

"อนุทิน" ยึดคติ "ช้าๆ ได้พร้าเล่มงาม" ไม่รีบเปิดแคนดิเดตนายกฯ เผยอยากได้ 500 เสียงแต่ให้ประชาชนตัดสิน ลั่นไม่เอาอธิปไตย-ชีวิตทหารแลกคะแนนเสียง

(16 ธ.ค. 2568) เวลา 13.40 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ถึงความพร้อมในการเปิดตัวแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทย ว่า ยังมีเวลาอยู่

ส่วนที่วันนี้พรรคเพื่อไทยชิงเปิดตัวไปแล้ว นางศุภจี ได้ตอบรับหรือยัง นายอนุทิน ระบุว่า ยังคุยกันอยู่ โดยตอนนี้มีผู้ที่ตอบรับคนเดียว

เมื่อถามถึงกรณีที่มีรายงานว่าพรรคภูมิใจไทยจะกวาดเรียบ 200 ที่นั่ง นายอนุทิน กล่าวว่า รายงานจากใคร ไม่ใช่ตน

เมื่อถามต่อว่าตัว นายอนุทิน เองอยากได้กี่ที่นั่ง นายอนุทิน กล่าวว่า เราก็ทำดีที่สุด เท่าไหร่ก็เท่านั้น ให้ประชาชนตัดสิน เราก็ต้องเลือกคนที่ดีที่สุด คนที่เหมาะสม คนที่มีความสามารถ ถามตนมา 6 ปี คำตอบก็เหมือนเดิม

เมื่อถามต่อว่าอยากได้ สส. บัญชีรายชื่อในรอบนี้เท่าไหร่ นายอนุทิน กล่าวว่า ถ้าถามว่าอยากได้เท่าไหร่ ตนก็อยากได้ 500 แต่ทำได้เท่าไหร่ก็อีกเรื่องหนึ่ง อยู่ที่ประชาชน ความอยากก็อยากได้เยอะ แต่ความเป็นจริงก็ต้องทำการบ้านของเราให้ดี เลือกคนให้ดี ทำนโยบายให้ดี สร้างความเชื่อมั่นให้ดี แล้วประชาชนจะเป็นคนตัดสินใจ ตนก็เป็นแบบนี้

เมื่อถามว่ามั่นใจหรือไม่ว่าจะทำให้พรรคภูมิใจไทยใหญ่ขึ้นในการเลือกตั้งครั้งนี้ นายอนุทิน เผยว่า ก็ดูๆ แล้วการเตรียมการการเลือกตั้งในครั้งหน้านี้ องค์ประกอบต่างๆ ก็ค่อนข้างที่จะเป็นไปในแนวโน้มที่พรรคน่าจะใหญ่ขึ้น แต่อย่างไรก็ตามอยู่ที่ประชาชนจะเลือกหรือไม่เลือก

ส่วนจุดขายของพรรคภูมิใจไทยจะเป็นอะไรในการเลือกตั้งที่จะถึงนี้นั้น นายอนุทิน กล่าวว่า จุดขายของพรรคคือทำงานตอบสนองคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดียิ่งขึ้น เน้นเรื่องของความมั่นคงทางเศรษฐกิจ การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ การที่เราจะต้องเปิดกว้างให้มีที่ยืนในนานาชาติ สร้างความมั่นใจให้กับผู้ที่คิดว่าประเทศไทยสามารถที่จะเป็นที่ที่เขาจะมาลงทุน มาสร้างรายได้ และมาท่องเที่ยวได้ ทำให้ประเทศไทยมีโอกาสในหลายด้าน

เมื่อถามถึงตอนเป็นรัฐบาลได้วางกลไกอะไรไว้หลายๆ อย่าง สิ่งที่เราวางไว้และมีโอกาสได้กลับมาทำต่อคิดว่าจะดีขึ้นใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เราก็ได้ทำในสิ่งที่ได้พูดไว้ ซึ่งก็ติดปากไปแล้วว่า "พูดแล้วทำ" ก็ยังไม่มีตรงไหนที่ค้างคาอยู่

เมื่อถามว่ารอบนี้คาดหวังเก้าอี้ สส.กทม. บ้างหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เราก็ส่งลงในพื้นที่ กทม. การเป็นพรรคการเมืองแบบเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลด้วยก็ต้องส่งให้ครบทุกเขต หากคนแพ้ก็ยังหวังว่าจะได้พรรคบ้าง

เมื่อถามว่าในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีการรายงานเรื่องโครงการคนละครึ่งหรือไม่ ว่าทำได้หรือไม่ได้ นายอนุทิน เปิดเผยว่า ตนคิดว่าเราทำตามกติกา ถือว่าตอนนี้เรายุบสภาไปแล้ว และไม่สามารถที่จะนำงบกลางมาใช้ได้ ก็ต้องรอให้ สภาพรัฐบาลกลับมาเป็นรัฐบาลปกติก่อน

เมื่อถามถึงกระแสข่าวที่ว่าหากพรรคภูมิใจไทยได้เป็นอันดับสอง ก็จะชิงจัดตั้งรัฐบาลนั้น นายอนุทิน กล่าวว่า อุ้ย อย่าเพิ่งคิดยาว ยังไม่สมัคร สส. เลย

เมื่อถามถึงกรณีที่ หลายคนตั้งให้พรรคภูมิใจไทยเป็นพักอันดับ 1 พอจะบอกได้หรือไม่ ว่าทำไมประชาชนถึงต้องเลือก นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่มีคำว่าประชาชนต้องเลือก ตนก็พยายาม ทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ให้ประชาชนมั่นใจว่าตนทำงานเข้ากับทุกท่านได้ ภายใต้สถานการณ์บ้านเมืองแบบนี้ การได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่การได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ซึ่งส่วนนี้ตนก็มีความดีใจและภูมิใจอยู่เงียบๆ ว่า ใครที่เข้ามาทำงานของตนทุกคนรู้วันมาและวันไปอย่างชัดเจน และทุกฝ่ายทางข้าราชการประจำ กองทัพ ภาคเอกชน องค์กรอิสระต่างๆ ก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ไม่ได้รู้สึกเลยว่าไม่ได้รับความร่วมมือจากใคร การขับเคลื่อนประเทศถึงแม้ว่ามีระยะเวลาเพียง 3-4 เดือน ก็สามารถขับเคลื่อนประเทศไปได้มากพอสมควร ทั้งเรื่องของระยะยาว การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า เรื่องการปกป้องอธิปไตยของประเทศ เราก็ทำด้วยความร่วมมือของทุกฝ่าย

เมื่อถามว่าทำไมประชาชนต้องเลือกพรรคภูมิใจไทย นายอนุทิน ตอบว่า มันไม่มีคำว่าประชาชนต้องเลือกหรอกครับ ตนพยายามทำหน้าที่ให้ดีที่สุด เพื่อให้ประชาชนมั่นใจว่า ตนทำงานให้พวกท่านได้ หากมั่นใจว่าตนทำงานให้ได้ภายใต้สถานการณ์บ้านเมืองแบบนี้ การได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ซึ่งเป็นสิ่งที่ตนดีใจภูมิใจอย่างเงียบๆ ว่าการเข้ามาทำงานของตน ทุกคนรู้วันมาและวันไป และทุกฝ่ายทั้งข้าราชการประจำ ฝ่ายกองทัพ เอกชน องค์กรอิสระก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ไม่ได้รู้สึกว่าไม่ได้รับความร่วมมือจากใคร ตนมองว่าการขับเคลื่อนประเทศถึงแม้ว่าจะมีระยะเวลาเพียงแค่ 3-4 เดือน ก็สามารถขับเคลื่อนประเทศ ไปได้มากพอสมควร ทั้งเรื่องระยะยาวและการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า เรื่องการปกป้องอธิปไตยของประเทศ เราก็ทำด้วยความร่วมมือของทุกฝ่าย

เมื่อถามต่อว่าพรรคภูมิใจไทย อาศัยช่วงจังหวะสงครามในการสร้างกระแสชาตินิยมและคะแนนให้ตัวเองหรือไม่ นายอนุทิน เผยว่า "อย่ามองโลกในแง่ร้ายขนาดนั้น ตนไม่กล้าพอที่จะเอาอธิปไตยของบ้านเมือง ชีวิตของพี่น้องทหาร และประชาชน เพื่อให้ตนเองได้คะแนนเสียงหรือได้ประโยชน์ใดๆ ตนคิดว่าการคิดแบบนี้ก็คงไม่ถูก"

ส่วนกรณีที่ขณะนี้ปัญหาชายแดนยังไม่จบ ได้มีการพูดคุยเรื่องการเลือกตั้งแล้วหรือยัง นายอนุทิน เผยว่า ทุกอย่างเป็นไปตามที่เราเสนอ และขอให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ส่วนการตัดสินใจเป็นเรื่องของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ส่วนสถานะที่ตนเป็นรัฐบาลรักษาการ หากกกต. ประสานมาให้ทำสิ่งใด เพื่อให้การเลือกตั้งเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ รัฐบาลก็ต้องสนับสนุนด้วยทุกเรื่อง

เมื่อถามว่าหากพรรคภูมิใจไทยได้เป็นรัฐบาลในครั้งหน้า ปัญหาชายแดนไทยจะจบลงอย่างสิ้นเชิงหรือไม่ นายอนุทิน ตอบว่าตนพยายามทำให้จบเร็วที่สุด จากนั้นผู้สื่อข่าวถามต่อว่า กรณีที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ บอกว่าหากนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ได้เป็นนายกรัฐมนตรี จะไม่มีปัญหาเรื่องของชายแดน นายกหัวเราะร่วน และตอบว่า "ลองเปิดไปตรงคอมเม้นต์ดู"

ถามต่ออีกว่า มีความกังวลหรือไม่ที่ตอนนี้กำลังจะมีการเลือกตั้ง นายอนุทิน เผยว่า ตนกังวลเรื่องชายแดน และจะทำอย่างไรให้หาดใหญ่ฟื้นฟู แม้ว่าในตอนนี้เมืองจะสะอาดแล้ว คนเริ่มกลับเข้าบ้าน แต่ในส่วนของธุรกิจก็ต้องเร่งฟื้นฟูกลับมา ซึ่งที่ผ่านมาตนเพิ่งเร่งให้นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ทำเรื่องซอฟต์โลน (Soft Loan) โดยอย่างน้อยก็ต้องมีเรื่องเงินกู้ปลอดดอกเบี้ย หลังคาเรือนละ 100,000 บาท เป็นค่าฟื้นฟูและเป็นค่าซ่อมแซมทั้งบ้านเรือนและทรัพย์สินที่เสียหาย ซึ่งต้องเร่งดำเนินการทั้งหมดไม่ใช่แค่ 9,000 บาท ที่ได้รับการเยียวยาไม่พอ

เมื่อถามว่าตอนนี้ค่าเงินบาทแข็งตัวขึ้นใน รอบ 4 ปี จะมีนโยบายอย่างไร เพราะกระทบต่อการส่งออก และการท่องเที่ยว นายอนุทิน เผยว่า ตนได้มีการพูดคุยกับนางศุภจี สุธรรมพันธ์ และนายเอกนิติ ให้พยายามหารือกับแบงค์ชาติ

วันนี้มีการประชุม ครม. หลังจากยุบสภาได้มีการกำชับเรื่องไหนเป็นพิเศษหรือไม่ นายอนุทิน ตอบว่า ตนได้กำชับให้ทุกคนขยันทำงาน เรื่องหาเสียงก็ให้หาเสียงไป แต่ต้องไม่ใช้เวลาราชการ และสภาพความเป็นรัฐมนตรีก็ยังมีอยู่จนกว่าคณะรัฐมนตรีชุดใหม่จะเข้าเฝ้าถวายสัตย์ ดังนั้นต้องอยู่กันอีกหลายสัปดาห์ ซึ่งการทำงานบริหารราชการแผ่นดินจะต้องไม่มีการชะงัก และต้องทำงานอย่างเต็มที่ ไม่ใช่คิดแต่เรื่องการหาเสียง เพราะนั่นเป็นเรื่องของตัวเอง ต้องคิดเรื่องของบ้านเมืองและภาพรวมเป็นหลักไว้ก่อน

เมื่อถามว่าในวันนี้พรรคเพื่อไทยได้มีการเปิดตัว 3 แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี นายอนุทินเผยว่าตนขอแสดงความยินดีกับทั้ง 3 ท่านด้วย เมื่อถามต่อว่าตื่นเต้นหรือน่ากลัวสำหรับพรรคภูมิใจไทยหรือไม่ นายอนุทิน เผยว่า ตนก็รู้จักทั้ง 3 ท่าน โดยเฉพาะทางด้านของ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ตนก็รู้จัก เพราะตนเคยหารือ และปรึกษาในสมัยที่อยู่กระทรวงสาธารณสุข ก็ถือว่าเป็นคนที่มีความรู้ความสามารถสูงมาก

เมื่อถามต่อว่าพรรคภูมิใจไทยยังไม่ได้มีการเปิดตัวแคนดิเดตอย่างเป็นทางการจะถือว่าช้าไปหรือไม่ นายอนุทิน บอกว่า ตนยึดถือคติ ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะยืนนึกอยู่พักใหญ่ แล้วมีสื่อมวลชนพูดขึ้นมาว่า "ช้าๆ ได้พร้าเล่มงาม" นายกรัฐมนตรี จึงพูดว่า สื่อตอบแทนตนแล้ว เมื่อถามว่ามีแคนดิเดตคนไหนน่ากลัวสำหรับพรรคภูมิใจไทยหรือไม่ นายกรัฐมนตรียืนคิดแล้วคิ้วขมวด ก่อนพูดว่า ถามแล้วตอบยาก กลัวทุกคนแหละครับ /ถามย้ำว่ากลัวเด็กรุ่นใหม่หรือไม่ นายกรัฐมนตรีตอบว่ากลัวหมดแหละครับ

เมื่อถามว่าแคนดิเดตพรรคภูมิใจไทยจะมีถึง 5 คนหรือไม่ นายอนุทิน เผยว่า "เกิน 3 คนก็ผิดรัฐธรรมนูญสิครับลูกพี่" จากนั้นนายกรัฐมนตรีก็เดินออกจากวงให้สัมภาษณ์