
วันที่ 1 ธ.ค. 68 ที่รัฐสภา พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภาคนที่หนึ่ง รับมอบเงิน และสิ่งของจากคณะอนุกรรมาธิการด้านการจัดหางาน และพัฒนาฝีมือแรงงาน ในคณะกรรมาธิการการแรงงาน วุฒิสภา นำโดย นายนิรุตติ สุทธินนท์ รองประธานคณะกรรมาธิการฯ และประธานคณะอนุกรรมาธิการฯ พร้อมทั้งคณะศิษย์เก่านักศึกษาหลักสูตร ปรม. รุ่นที่ 22 สถาบันพระปกเกล้า เพื่อส่งมอบให้กับสมาชิกวุฒิสภาภาคใต้นำไปช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้
ทั้งนี้ สิ่งของบริจาคประกอบไปด้วย อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่จําเป็น อาทิ พาวเวอร์แบงค์ ปลั๊กไฟ และอุปกรณ์ยังชีพที่จําเป็นอื่นๆ รวมมูลค่า 200,000 บาท เพื่อนําไปช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้
โดย นายนิรุตติ กล่าวว่า จากสถานการณ์อุทกภัยครั้งใหญ่ในหลายจังหวัดของภาคใต้ตอนล่าง โดยเฉพาะใน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา สร้างความเสียหายในวงกว้างต่อชีวิตและทรัพย์สินต่อประชาชน ตนในฐานะสมาชิกวุฒิสภาพร้อมทั้งคณะอนุกรรมาธิการฯ สถาบันพระปกเกล้าและภาคีเครือข่ายภาคประชาชนจึงได้ร่วมกันบริจาคเงินและสิ่งของที่จําเป็นต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นอาหารสําเร็จรูป พาวเวอร์แบงค์ ปลั๊กไฟ และอุปกรณ์ยังชีพที่จําเป็นอื่น ๆ เพื่อมอบให้กับทางวุฒิสภา ซึ่งจะได้นําสิ่งของเหล่านี้ส่งต่อไปไปยังสว.ในพื้นที่ในการเยียวยาและฟื้นฟูสภาพจิตใจรวมถึงที่อยู่อาศัย
ขณะเดียวกันตนจะนําประเด็นปัญหาและข้อเสนอจากพื้นที่ในการพิจาณา เพื่อผลักดันให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดดําเนินการฟื้นฟูบ้านเมืองอย่างรวดเร็ว ส่วนในระยะยาว วุฒิสภาจะติดตามการบริหารจัดการน้ำ การวางแผนล่วงหน้า การวางระบบป้องกันน้ำท่วมอย่างยั่งยืนเพื่อให้เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดความเสียหายน้อยที่สุด ทั้งนี้ ตนขอเป็นกําลังใจให้กับประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบและจะยืนอยู่เคียงข้างพี่น้องประชาชนจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย
ขณะที่ พล.อ.เกรียงไกร กล่าวว่า ตนขอขอบคุณคณะอนุกรรมาธิการฯและภาคีเครือข่ายที่ได้รวบรวมสิ่งของที่มีความจําเป็นยิ่งในการจัดส่งให้แก่ประชาชนที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ ถึงแม้ว่ารัฐบาลจะมีนโยบายตั้งแต่ต้นในการจัดตั้งศูนย์ช่วยเหลืออุทกภัยโดยปัจจุบันได้กําชับให้ฟื้นฟูเสร็จสิ้นภายใน 14 วัน ซึ่งทุกภาคส่วนได้ระดมสรรพกําลังเพื่อฟื้นฟูในพื้นที่ที่ประสบอุทกภัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน อ.หาดใหญ่ เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจของภาคใต้ตอนล่าง ในส่วนของสมาชิกวุฒิสภาได้เปิดศูนย์ประสานการช่วยเหลือประชาชน ซึ่งสมาชิกวุฒิสภาจะเป็นศูนย์กลางในการระดมสรรพกำลังและอุปกรณ์ที่จําเป็นเพื่อนําส่งให้กับประชาชนที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่ โดยมีนายประเทือง มนตรี เป็นหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการซึ่งจะคอยแยกแยะและแจกจ่ายสิ่งของไปยังพื้นที่ต่างๆ
ทั้งนี้วุฒิสภามีงบประมาณกว่า 400,000 บาทและได้รับความร่วมมือจากภาคีเครือข่าย รวมเป็น 600,000 บาท ซึ่งจะนำส่งให้กับวุฒิสภาในพื้นที่เพื่อจัดทำถุงยังชีพและซื้อสิ่งของต่าง ๆ ที่มีความจำเป็นในการแจกจ่ายให้กับประชาชน ทตนขอเป็นกำลังใจให้กับประชาชนทุกคนที่ประสบภัยพิบัติในครั้งนี้ ขอให้ทุกคนเข้มแข็ง ในส่วนของวุฒิสภาก็จะไม่ทอดทิ้งประชาชนและจะสู้ต่อไปเพื่อให้สถานการณ์กลับคืนสู่ปกติ รวมถึงขอเป็นกําลังใจให้กับนายกรัฐมนตรีและทุกกระทรวง ทบวง กรมที่เข้าไปช่วยเหลือประชาชน
“ต้องกราบขออภัย ไม่ได้ลงพื้นที่เอง เนื่องจากมีปัญหาด้านสุขภาพ จริงๆ แล้ว ผมต้องเป็นผู้ประสบภัยด้วย ในวันที่ 21 พ.ย. หมอนัดไปโรงพยาบาล มอ.หาดใหญ่ ขอบคุณทุกคนที่ช่วยกันส่งแรงใจไปให้ประชาชนภาคใต้ ให้เขามีจิตใจเข้มแข็ง ต้องเป็นกำลังใจให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐบาล ทุกกระทรวง ทบวง กรม ที่ลงไปช่วยเหลือพี่น้องประชาชน” พล.อ.เกรียงไกร กล่าว
เมื่อถามว่าจะมีการแบ่ง สว.ลงไปช่วยฟื้นฟูหรือไม่ พล.อ.เกรียงไกร กล่าวว่า ในระยะฟื้นฟู สว.เรามีโครงการวุฒิสภาพบประชาชนอยู่แล้ว จริงๆ แล้ว มีแผนงานในวันที่ 2-4 ธ.ค. สว.ในกลุ่มภาคใต้ตอนล่าง 7 จังหวัด มีแผนพบปะประชาชน แต่พอเกิดเหตุ จึงยกเลิกไป แล้วปรับมาเป็นตั้งศูนย์เพื่อรับบริจาคสิ่งของจากองค์กรต่างๆ เพื่อแจกจ่ายพี่น้องประชาชน อย่าง จ.นราธิวาส แม้เราไม่มี สว.ในจังหวัดนั้น แต่ก็มีเครือข่าย ในยะลา ปัตตานี ช่วยกัน มีการระดมสรรพกำลังไปช่วยหลายคันสิบล้อ
เมื่อถามว่า มีอะไรจะแนะนำรัฐบาลหรือไม่ พล.อ.เกรียงไกร กล่าวว่า ในแผนปฏิบัติมีขั้นตอนการฟื้นฟู ที่รัฐบาลกำลังทำนี้ ตนคิดว่าเป็นไปตามแผนงานการฟื้นฟู ทั้งกายภาพ เรื่องถนนหนทาง น้ำประปาไม่ไหล เก็บขยะต่างๆ ซึ่งหากฟื้นฟูทางกายภาพแล้ว ก็ต้องฟื้นฟูบ้านเรือนประชาชน เราต้องไปช่วย เขาทำเอง ไม่ทันท่วงที เพราะบางทีดินโคลนขึ้นมาเยอะ ก็เป็นสิ่งที่อยู่ในขั้นตอนการฟื้นฟู ซึ่งภาคเอกชน อาชีวะก็จัดนักศึกษาลงไป เพื่อจะซ่อมรถในขั้นต้น กรมการค้าภายในก็จัดธงฟ้าไปบริการ สุดท้ายจะไปในขั้นการฟื้นฟูเศรษฐกิจ กระตุ้นการค้าขายในพื้นที่ที่ประสบภัย เรื่องการช่วยเหลือเยียวยา เป็นเรื่องที่รัฐบาลมีนโยบาย มีแผนงานอยู่แล้ว การให้กู้โดยปลอดดอกเบี้ย ลงทุนประกอบอาชีพ รวมถึงการฟื้นฟูเยียวยาจิตใจด้วย
เมื่อถามว่ามีข้อมูลในโซเชียลมีเดียที่ระบุว่ามีจำนวนผู้เสียชีวิต กังวลหรือไม่ พล.อ.เกรียงไกร กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นสิ่งสำคัญ ตนคิดว่าเรื่องนี้สื่อต้องช่วยกัน ช่วยกันไปดูว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร มีรายการจะขอสัมภาษณ์ตนเรื่องสถานการณ์ในพื้นที่ ตนบอกว่าตนไม่ได้ลงไป ไม่เห็นกับตา ไม่สามารถพูดได้ เลยต้องกราบขออภัย พูดไม่ได้จริงๆ ว่าเขต 8 เป็นอย่างนั้น เขตนั้นเป็นอย่างนี้ เราพูดไม่ได้ ต้องไปเห็นกับตา
“ในส่วนที่บอกว่าเขาเสียชีวิตเท่าไหร่ เราก็ไปดูสิครับ ในส่วนที่เขาพิสูจน์อัตลักษณ์ ศพต่างๆ ที่มายังโรงพยาบาลมันมีเท่าไหร่ ทราบว่าเมื่อวานซืน 141 ราย ก็ทราบว่าเพิ่มขึ้น เอาจากไหนมาพูดก็ไม่รู้ 500 1,000 ราย ไม่รู้นะ ผมว่าถ้าไม่จริงน่าเอาไปตัดหัวประจาน ต้องขอให้เป็นเรื่องจริง ขออย่ามา ที่เขาบอกว่าเล่นการเมืองกัน อันนี้เสียหาย ทำให้ขวัญของประชาชนตกต่ำ ต่อไปสื่อหลัก สื่อที่เสนอเรื่องจริง ตรงไปตรงมา เป็นกระบอกเสียงให้พี่น้องประชาชน ก็กลายเป็นว่าประชาชนไม่รู้จะเชื่อถือได้หรือไม่ เป็นสิ่งหนึ่งที่เราพูดกันว่าการแจ้งเตือนของหน่วยงาน ต่อไปนี้จะเชื่อถือหรือไม่ เพราะไม่รู้หน่วยงานปลอมหรือจริง แอดมินเพจตัวจริงหรือตัวปลอม แจ้งว่าเอาอยู่ น้ำมาเร็วไปเร็ว พอแจ้งข่าวเท็จ ประชาชนตื่นตระหนกจนเคยชิน ต้องขอร้อง กราบวิงวอนคนที่คิดเรื่องนี้ ที่โจมตีการทำงานเจ้าหน้าที่ก็ดี โจมตีมูลนิธิก็ดี แล้วไปออกเฟกนิวส์ ออกข่าวที่ไม่เป็นความจริง ขอเถอะ อย่าซ้ำเติมพี่น้องประชาชน วิงวอน สื่อเองก็ต้องช่วยประจาน ผมเห็นหลายสำนักก็ช่วยกันเยอะ ทำให้คนที่ออกข่าวไม่จริงต้องมีสำนึก” พล.อ.เกรียงไกร กล่าว
พล.อ.เกรียงไกร กล่าวอีกว่า อย่างเรื่องเขต 8 บางทีเกิดการเข้าใจผิดได้ เพราะเจ็ตสกี เขาต้องควานหาที่ไป บางทีมันมีรถอยู่ข้างใต้ คนรอความช่วยเหลือเขาคิดว่าทำไมไม่เข้ามาช่วย แต่บางทีคนนอกพื้นที่ที่เข้าไปช่วยอาจจะเข้าไปไม่ถึง หรือเข้าใจผิด ตนก็ได้ประสานมูลนิธิที่ไปจาก จ.สุราษฎ์ธานี เขาบอกว่าเจาะเข้าไปเขต 8 ได้แล้ว แต่เขาถามตนว่าเข้าไปดีหรือไม่ ตนเลยบอกไปว่าเข้าไปเลย ไม่มีอะไรหรอก ไม่มีใครทำร้าย คิดว่าต่างคนต่างสื่อสารผิด จริงๆ คนหาดใหญ่ใจดี
ด้านนายพิบูลย์อัฑฒ์ หฤหรรษ์ปราการ สว. กล่าวว่า การที่บอกว่าเขต 8 ยิงกัน ต้องบอกว่าพวกเจ็ตสกีไปแข่งเรือกัน ไปเล่นกัน บางส่วนเขาเลยโกรธ แต่คนหาดใหญ่ไม่ได้ร้าย หลังจากนั้น พวกเจ็ตสกี ไม่มีใครกล้าลงไป ตนเลยบอกเดี๋ยวลงเอง ก็ไม่มีอะไร ทุกคนก็ยกมือไหว้ เอาข้าวไปให้ น่ารักทุกคน
Advertisement