Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
รวมพลังแผ่นดิน นัดรวมพล22พ.ย. บุกสถานทูตมาเลเซีย-สหรัฐฯ ปกป้องอธิปไตย

รวมพลังแผ่นดิน นัดรวมพล22พ.ย. บุกสถานทูตมาเลเซีย-สหรัฐฯ ปกป้องอธิปไตย

16 พ.ย. 68
16:13 น.
แชร์

รวมพลังแผ่นดิน นัดรวมพล 22 พ.ย. บุกสถานทูตมาเลเซีย-สหรัฐฯปกป้องอธิปไตย หยุดแทรกแซงไทย ทนายนกเขาซัดแรงถูกกัมพูชาตบหน้า-อเมริกาเอาเท้าเหยียบหน้า

วันที่ 16 พ.ย. ที่ สถานีพีซทีวี ถนนรามอินทรา 40 (นวลจันทร์) เวลา 13.20 น. คณะรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตย นำโดย นายจตุพร พรหมพันธุ์ นายนิติธร ล้ำเหลือ นายพิชิต ไชยมงคล นายสมชาย แสวงการ นายเจษฎ์ โทณะวณิก ร่งมแถลงข่าว

โดยนายพิชิต กล่าวว่า ตามที่คนไทยได้รับทราบถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นบริเวณชายแดนไทย- กัมพูชา ก่อนหน้านี้เราเคยขึงขังถึงมาตรการป้องกันเหตุกัมพูชาได้รุกล้ำอธิปไตยไทย เจรจา ระดับทวีปภาคีหลายครั้ง JBC GBC รวมถึงปฏิญญากันติภาพ ที่ผ่านมาพฤติกรรมกัมพูชาอย่างลุกล้ำอธิปไตยของประเทศไทย ด้วยการวางทุ่นระเบิดหลายครั้ง และไม่ร่วมมือทั้งกีดขวางการเก็บชนระเบิดของฝ่ายไทย จนมาถึงวางทุ่นระเบิดใหม่ ทำให้ทหารไทยลาดตระเวนเหยียบทุ่นระเบิดขาขาดเป็นรายที่ 7 ซึ่งกลุ่มรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตยมีปณิธานร่วมกันในการแสดงออกเพื่อปกป้องอธิปไตย ซึ่งเราเป็นองค์กรประชาชนที่เป็นแนวหลังประกาศตัวชัดเจนว่าจะร่วมกับทุกภาคส่วนในการยืนหยัดปกป้องอธิปไตยของไทย ในสถานการณ์ประเทศที่ 3 เข้ามาแทรกแซงการปกป้องอธิปไตยของไทย

เหมือนไปใส่เสื้อเกาะชื่อสันติภาพให้กับกัมพูชาเข้ามารุกราน เหมือนเป็นกำแพงป้องกันให้กัมพูชาเดินหน้ารุกรานอธิปไตยไทย ดังนั้นจึงชวนชวนพี่น้องทั้งประเทศ ออกมาแสดงสัญลักษณ์ปกป้องอธิปไตย ธงชาติไทยยังมีความจำเป็นในการแสดงออก ไม่ว่าจะติดที่หน้าบ้าน รถยนต์ โดยขอนัดหมายให้ประชาชนคนไทยได้ลุกขึ้นมาปกป้องอธิปไตยของไทยร่วมกันอีกครั้งในวันเสาร์ที่ 22 พฤศจิกายน ตั้งแต่ 10:00 น. ที่หน้าสถานทูตมาเลเซีย จากนั้นจะเดินทางต่อไปสถานทูตอเมริกาฯ ต่อ

นายนิติธร กล่าวว่า สถานการณ์ไทยกัมพูชาที่เกิดขึ้นที่ผ่านมาประชาชน อาจคิดว่าเป็นสถานการณ์ระหว่างไทย-กัมพูชาเท่านั้น แต่วันนี้สถานการณ์ต่างๆ มีความชัดเจน ปฏิเสธไม่ได้จากการแสดงออกของอเมริกา มาเลเซีย และการแสดงออกของกัมพูชาเอง การสู้รบที่ผ่านมาไม่ได้เริ่มจากความขัดแย้งไทย-อเมริกาในเรื่องเขตแดน แต่เป็นการอาศัยสถานการณ์เขตแดนเพื่อสร้างสถานการณ์การสู้รบให้เกิดขึ้น หากย้อนกลับไปพิจารณาการเปิดฉากโจมตีด้วยขีปนาวุธอย่างร้ายแรงพุ่งเป้าที่พลเรือน ซึ่งกัมพูชามีการเตรียมการมาอย่างดี หลังจากนั้นเริ่มเห็นชัดเจนว่าความกล้าของกัมพูชาไม่ได้มาจากตัวของเขา แต่มาจากการวางแผนร่วมกันกับอเมริกาและมาเลเซีย ได้สมคบคิดวางแผนร่วมกัน นำมาสู่ข้อตกลงหยุดยิงและปฏิญญาสันติภาพ วันนี้ไทยอยู่ในสถานะเหยื่อเต็มรูปแบบ ขณะเดียวกันกัมพูชามาเลเซีย ถูกใช้เป็นเครื่องมือของอเมริกา ภายใต้นโยบายของประธานาธิบดีฯ และยุมธศาสจร์ความมั่นคง และอเมริกาเฟิร์ส ท่าทีของอเมริกาและมาเลเซียไร้ความเป็นกลางอย่างชัดเจน สิ่ง2ประเทศนี้แทรกเข้ามา ไม่ได้ให้คุณค่าความเป็นจริงและศักดิ์ศรีชีวิตของชีวิตคนไทยแม้แต่นิดเดียว ซึ่งประชาชนต้องไม่ลืมว่าไทย อเมริกามีความสำคัญมานาน ถือเป็นมหามิตร เรามีสนธิสัญญาบันทึกข้อตกลง สามารถเลือกใช้ได้

“วันนี้อเมริการ่วมมือกับกัมพูชา สร้างสถานการณ์ขึ้นใหม่ วันนี้เราถูกกัมพูชาตบหน้า และอเมริกาเอาเท้าเหยียบหน้าและเอาเท้าขยี้หัวใจคนไทย อย่างไร้ความเป็นธรรม” ส่วนที่บอกกัมพูชาเป็นประเทศอาชญากรรม แหล่งสแกมเมอร์ที่ใหญ่ที่สุด แต่อเมริกากับยืนข้างประเทศนี้ เพราะ กระบวนการสแกมเมอร์เกิดขึ้นไม่ได้หากอเมริกาและอังกฤษไม่เปิดไฟเขียวให้ หนึ่งในกระบวนการสำคัญคือฟอกเงิน ซึ่งระบบโอนเงินทุกประเทศต้องผ่านระบบ SWIFT ควบคุมโดยอเมริกา

นายสมชาย กล่าวว่า เรื่องข้อพิพาทไทย-กัมพูชาต้องจบด้วยข้อตกลง หรือด้วยยุทธการระหว่าง 2 ประเทศเท่านั้น ในลักษณะทวิภาคี เช่นเดียวกับที่ไทยเคยมีกับประเทศลาว ไทยกับพม่า ตนอยากฝากไปทางนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน ซึ่งการทำหน้าที่ประธานอาเซียนต้องให้เกียรติประเทศอาเซียน ด้วยการพึงระลึกไว้ว่าปัญหาระหว่างไทยกับมาเลเซียก็เคยมี ซึ่งจบด้วยการเจรจา ทั้งนี้ไม่มีประธานอาเซียนคนไหนเข้าแทรกแซงกิจการระหว่างข้อพิพาทของประเทศเพื่อนบ้าน เช่นที่ผู้นำมาเลเซียกระทำในขณะนี้ จึงขอเตือนว่าตอนนี้ทำเกินบทบาท เป็นการแทรกแซงกิจการของประเทศไทย ตนไม่อยากเห็นความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับมาเลเซียบาดหมางเพิ่มเติมมากขึ้นในอนาคต การที่มาเลเซียทำหน้าที่ประธานอาเซียน พึงต้องรับรู้ไว้ว่าข้อปฎิญญาหรือข้อตกลงไทยหยุดยิง ตอนนี้ได้ถูกทำลายโดยกัมพูชา มาเลเซียไม่ควรทำตัวเป็นผู้เอียงข้างเข้ากับกัมพูชา เพราะผลประโยชน์ทับซ้อนใดๆ และไม่ควรนำมาหาอำนาจไม่ว่าจะเป็นอเมริกาหรือชาติใดๆ เข้ามาแทรกแซงกิจการภายในของประเทศไทย ทั้งนี้การยุติข้อขัดแย้งในรูปแบบและต้องรับผิดชอบในสิ่งที่เขากระทำต่อทหารไทย และประชาชนไทย ด้วยการขอโทษยอมรับผิด และกลับมารับผิดชอบต่อสิ่งที่ได้กระทำขึ้น และถ้าจะมีการเจรจาต่อ ต้องอยู่บนโต๊ะเจรจาในระดับทวิภาคีของ 2 ประเทศเท่านั้น หากมีข้างบ้านมาแทรกแซงอยู่แบบนี้เป็นปัญหาเหมือนทั่วโลกที่จะไม่มีวันยุตติ

นายเจษฎ์ กล่าวว่า ตนมองว่าสิ่งที่เป็นปัญหามี 3 ข้อ คือ 1. เราถูกอเมริกา มาเลเซีย โดยเฉพาะอเมริกาบีบบังคับให้เราทอดไมตรีให้กัมพูชา สิ่งที่เราต้องทำคือสะบั้นไมตรีกับเขมร และเริ่มต้นใหม่เมื่อกัมพูชาสำนึกในสิ่งที่ทำผิด แก้ไขในสิ่งที่ได้กระทำหยามหยาบกับประเทศไทย ยอมรับต่อชาวโลกว่าสิ่งที่ทำละเมิดต่อกฎหมายระหว่างประเทศ ละเมิดความเป็นมิตรต่อกัน การที่อเมริกาบอกว่าหาทางพูดคุยกัน มาเลเซียบอกทำปริญญาสันติภาพ ไม่มีตรงกลางระหว่างดีและเลว คนต้องเข้าข้างสิ่งที่ดี ซึ่งวันนี้เราถูกอเมริกาและมาเลเซียบอกให้อยู่ระหว่างกลางซึ่งทำไม่ได้ 2. เรายังถูกรุกรานอยู่ไม่ใช่ทางกายภาพ แต่เป็นสงครามลูกผสม ตลบตะแลงปลิ้นปล้อน โกหกพกลมกับชาวโลกว่าเราทำสิ่งไม่ดี ย่ำยี รุกราน หากเราไม่ตอบโต้ จะอยู่เป็นไทยแบบที่บรรพชนรักษาให้เราไว้ไม่ได้ และ 3. เรื่องที่พูดเกี่ยวกับทุ่นระเบิดสังหารบุคคล แก้ปัญหาโดยการเก็บกู้แล้วจบเรื่องคงไม่ได้ การที่ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลทำงานคือเกิดระเบิดขึ้นหากไม่โดนคนของเราแสดงว่ามีการยิงไปแล้ว หากโดนคนของเราคือทำร้ายเราแล้ว แปลว่าสิ่งที่เกิดขึ้นละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ คือการโจมตีด้วยอาวุธ ซึ่งเป็นระเบิด 7 ครึ่ง ซึ่งต้องมีการตอบโต้ไปแล้ว 7 ครั้งและต้องมากกว่าเดิม โดยต้องให้รัฐบาลไทยมีความหนักแน่น มั่นคง และดำเนินการเด็ดขาดมากกว่านี้

ด้านนายจตุพร กล่าวว่า ความเห็นของคนที่มีหน้าที่ในประเทศไทยบ้างจำพวกที่ออกมาตำหนินายกรัฐมนตรี ที่มีลักษณะแข็งกร้าวกับประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา จึงเล่นงานเรื่องมาตรการภาษี หรือเสียท่าให้อเมริกา ซึ่งการทำปฎิญญา เมื่อมีข้อตกลงเก็บกู้ทุ่นระเบิด แต่ทางกัมพูชากับทำตรงข้าม คนทีืถูกตำหนิในการวางตัวให้เป็นกลางหรือีิอาจจะมาเป็นกรรมการในมหาอำนาจอย่างอเมริกา และประธานอาเซียน สิ่งแรกที่ควรทำคือตำหนิกัมพูชา มาตรกที่รัฐไทย ระงับปฎิญญา เป็นมาตรการต่ำสุด หรือการสนทนา 3 สาย ระหว่างนายกรัฐมนตรีไทย นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย และประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทางการไทยเรียกร้องให้ทางการกัมพูชาออกมาขอโทษ จากการวางระเบิดทำให้ทหารไทยขาขาด ซึ่งเป็นมาตรการที่ต่ำสุด แต่บางส่วนในประเทศไทย กับมองเป็นการท้าทายอเมริกา วันนี้ต้องถามคนไทยว่าเราเป็นขี้ข้าอเมริกา หรือลูกไล่มาเลเซียหรือไม่

พร้อมย้ำไทยเป็นประเทศเอกราช ในอดีตเราได้เดิน ขบวนนำทัพนักศึกษาขับไล่ฐานทัพอเมริกา แล้วประเทศไทยเจ้งหรือไม่ แต่วันนี้เพียงแค่นายกฯ พูดว่าให้ทางการกัมพูชาขอโทษ คนไทยบางจำพวกกลับจะเป็นจะตายขึ้นมาให้ได้ และคนไทยอย่าเห็นการค้ามากกว่าขาทหาร หรือดินแดน ฉะนั้นเราจะรักษาชาติไว้ไม่ได้ ซึ่งตนไม่รู้ว่าใครหน้าเลือดกันบ้างในประเทศไทย แต่สิ่งที่อเมริกาทำกับคนไทย และมาเลเซียทำกับคนไทย เราไม่อาจรับได้ เพราะหากเรามีความกลัวที่ยอมทำตามอเมริกาทุกอย่าง ถามกลับว่าเขาเคยทำตามไทยหรือไม่ วันนี้คนไทยต้องไม่ยอมให้อเมริกาเข้ามากดขี่ ความสัมพันธ์เรายอมยกให้ทุกอย่าง เช่นแหล่งพลังงาน ถามว่า สิ่งที่ไทยให้ไปยังไม่เพียงพออีก หรือต้องการชนะจีน และต้องการโชว์บทบาทในการข่มเหงเห็นประเทศไทย ฉะนั้นสิ่งที่อเมริกาคือเจอคนไทยเมื่อในอดีต ในปี 2568 นี้อาจจะต้องเจอกันอีกรอบ

Advertisement

แชร์
รวมพลังแผ่นดิน นัดรวมพล22พ.ย. บุกสถานทูตมาเลเซีย-สหรัฐฯ ปกป้องอธิปไตย