Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
"ประเสริฐ" จี้ รบ.อนุทิน เร่งปราบสแกมเมอร์ ถ้าเอาจริงปราบได้ใน 30 วัน

"ประเสริฐ" จี้ รบ.อนุทิน เร่งปราบสแกมเมอร์ ถ้าเอาจริงปราบได้ใน 30 วัน

4 พ.ย. 68
12:04 น.
แชร์

"ประเสริฐ" จี้ รบ.อนุทิน เร่งปราบสแกมเมอร์ ถ้าเอาจริงปราบได้ใน 30 วัน ไม่ต้องรอ 4 เดือน ย้ำพลาดท่าเวทีเอเปคไม่หารือสแกมเมอร์ แต่ไปเซ็นMOU แร่หายากแทน

วันที่ 4 พฤศจิกายน 2568 เวลา 10.30 น. นายประเสริฐ จันทรรวงทอง อดีตรองนายกรัฐมนตรี อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย แถลงข่าวกรณีที่บางพรรคการเมืองชื่นชมผลการเข้าร่วมประชุมเอเปคของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีว่าพรรคเพื่อไทยมีมุมมองแตกต่าง พร้อมตั้งข้อสังเกต 4 ประเด็นสำคัญในเวทีนานาชาติของรัฐบาลภายใต้การนำของนายอนุทิน ชาญวีรกูล โดยเฉพาะเรื่อง “มาตรการปราบสแกมเมอร์ของไทย”

นายประเสริฐ ระบุว่า รัฐบาลประกาศจะเป็นผู้นำด้านการปราบปรามแก๊งสแกมเมอร์ในระดับโลก แต่กลับทำได้เพียง “สร้างภาพ” ขาดการปฏิบัติจริง ทั้งที่ปัญหาดังกล่าวเป็นอาชญากรรมข้ามชาติที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนและชื่อเสียงประเทศ ซึ่งรัฐบาลชุดก่อนสามารถลดความเสียหายลงกว่า 40% หรือราว 14,500 ล้านบาทต่อปี แต่ภายใต้รัฐบาลปัจจุบันกลับปล่อยให้กลับมาเป็นปัญหาใหญ่อีกครั้ง

พรรคเพื่อไทยชี้ว่า ขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านอย่างสิงคโปร์และมาเลเซียมีความก้าวหน้าในการปราบสแกมเมอร์ เช่น ประเทศสิงคโปร์มีการยึดทรัพย์มูลค่ากว่า 150 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์จากเครือข่าย “Prince Group” และการบังคับใช้ระบบยืนยันตัวตนดิจิทัล (e-KYC) เพื่อป้องกันบัญชีปลอม รัฐบาลไทยกลับไม่ใช้เวทีโลกอย่างเอเปคผลักดันความร่วมมือเชิงรูปธรรมในเรื่องนี้ โดยสมัยพรรคเพื่อไทยได้ผลักดันให้มีกฎหมายปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ฯ และกฎหมายการประกอบสินทรัพย์ดิจิทัลฯ ใช้เป็นเครื่องมือ แต่รัฐบาลนี้กลับไม่หยิบมาใช้เป็นเครื่องมือให้เป็นประโยชน์

นายประเสริฐ กล่าวว่าเมื่อนายกรัฐมนตรีไปประชุมเอเปค แทนที่รัฐบาลจะนำประเด็นการปราบสแกมเมอร์ข้ามชาติขึ้นหารือ แต่กลับไปลงนาม MOU เรื่องแร่หายากกับสหรัฐฯ โดยไม่ได้ขอความร่วมมือด้านความมั่นคงดิจิทัลหรือการปราบอาชญากรรมข้ามชาติ ถือเป็นการเสียโอกาสของประเทศ ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทยเสนอให้รัฐบาลเร่งดำเนินการปราบสแกมเมอร์ภายใน 30 วัน ก่อนการยุบสภา โดยต่อยอดจากกลไกที่รัฐบาลเพื่อไทยเคยวางไว้

พรรคเพื่อไทยจึงขอเสนอให้รัฐบาล เดินหน้าปราบสแกมเมอร์ภายใน 30 วัน ก่อนยุบสภา ไม่ต้องรอ 4 เดือนอย่างที่รัฐบาล ออกมาประกาศ โดยต่อยอดจากกลไกเดิมที่รัฐบาลเพื่อไทยได้วางไว้แล้ว คือ

1. ขอให้รัฐบาลออกมาแถลงผลการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีนายไชยชนก ชิดชอบ รมว.ดีอี แฉว่าถูกแก๊งสแกมเมอร์เสนอสินบน 40 ล้านต่อเดือน แลกกับการไม่ปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่เคยบอกว่าจะมาสรุปผลภายในสิ้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา พร้อมขยายผลจับกุมไปยังต้นตอด้วย

2. ขอให้มีการสืบสวนและดำเนินการทางคดีกับบุคคลและบริษัทที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัท Prince Group โดยเร็วที่สุด

3. ขอเสนอแนะว่า จะโค่นสแกมเมอร์ได้ ต้องโฟกัสที่“เงิน” เพราะเงินทุกบาทที่อาชญากรยึดไป รัฐบาลต้องเอาคืนให้พี่น้องประชาชนให้มากที่สุด ด้วยการใช้กฎหมายการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ซึ่งมีสาระสำคัญตรงคืนเงินให้ประชาชน และรัฐบาลต้องไปทำ พรก. ให้สอดคล้องกับกฎหมายนี้ และต้องเดินหน้าระงับบัญชีม้า โดยรัฐบาลชุดที่แล้วระงับบัญชีม้าได้มากกว่า 500,000 บัญชี

4. เดินหน้าความร่วมมือปราบสแกมเมอร์ทั้ง 3 ฝ่าย ระหว่าง ไทย-จีน-กัมพูชา โดยให้พิจารณาพัฒนาจากโมเดลความร่วมมือ ไทย-จีน-เมียนมา ที่รัฐบาลเพื่อไทยได้ริเริ่มไว้ รวมถึงกลับมาดำเนินมาตรการ 3 ตัด คือ ตัดไฟ ตัดอินเทอร์เน็ต ตัดการขนส่งน้ำมันเพื่อสกัดสแกมเซ็นเตอร์ ตามแนวชายแดน และให้กลับมาเข้มงวดในการปิดกั้นเส้นทางธรรมชาติทางชายแดนด้วย

5. สานต่อนโยบายรัฐบาลเพื่อไทย จัดตั้งศูนย์บริหารเหตุการณ์แก๊งคอลเซ็นเตอร์และค้ามนุษย์นานาชาติระดับภูมิภาค หรือ Regional Scam Combatting Cooperation เพื่อสร้างบทบาทนำที่แท้จริงให้กับประเทศไทยในฐานะที่เป็นผู้ริเริ่ม เพื่อบูรณาการความร่วมมือจาก สหรัฐ สหราชอาณาจักร เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และอีกหลายประเทศที่มีทั้งข้อมูลข่าวสาร ข่าวกรองต่างๆ การที่รัฐบาลไม่ได้หยิบยกเรื่องที่เป็นรูปธรรมเหล่านี้มาถกในเวทีโลก และสานต่อสิ่งที่รัฐบาลของพรรคเพื่อไทยเคยทำไว้ถือเป็นเรื่องที่น่าเสียดายและเป็นการเสียโอกาสอย่างยิ่ง

“พรรคเพื่อไทยขอเรียกร้องให้รัฐบาลภายใต้การนำของนายอนุทินหยุดเล่นการเมืองบนความมั่นคงของชาติและให้เอาผลประโยชน์ของประเทศและพี่น้องประชาชนเป็นตัวตั้ง ถึงเวลาที่รัฐบาลต้องทำจริง ไม่ใช่ทำตามกระแส เดินหน้ามาตรการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติให้ถึงที่สุด

ใช้เป็นยุทธศาสตร์หลักในการกดดันกัมพูชา ไม่ใช่เพียงแค่สร้างภาพเอาคะแนนนิยมทางการเมืองชั่วคราวเท่านั้น” อดีตรองนายกฯ ประเสริฐ กล่าว

Advertisement

แชร์
"ประเสริฐ" จี้ รบ.อนุทิน เร่งปราบสแกมเมอร์ ถ้าเอาจริงปราบได้ใน 30 วัน