วันที่ 20 ต.ค. 68 น.ส.รักชนก ศรีนอก หรือ ไอซ์ รักชนก สส.กทม. พรรคประชาชน กล่าวช่วงหนึ่ง ถึงกรณีที่มีประเด็นกับนาย กัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง อินฟลูเอนเซอร์ช่วยเหลือสังคมชื่อดัง ในรายการ "กรรมกรข่าว คุยนอกจอ" ซึ่งดำเนินรายการ โดยนาย สรยุทธ สุทัศนะจินดา พิธีกรข่าวชื่อดัง ถ่ายทอดทางยูทูบช่อง “สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว” ว่า
คุณกัน จอมพลัง ถือว่าโชคดีมาก ที่ได้รับการซัพพอร์ตจากประชาชน และกลุ่มการเมือง เช่น พรรคกล้าธรรม และ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี และรมว.เกษตรและสหกรณ์ ที่ได้ไฟเขียวผ่านทางตลอดเข้าไปแนวหน้า และซัพพอร์ตเงินเป็นถุงเป็นถัง ซึ่งตนก็เห็นด้วยว่าเป็นเรื่องที่ดี
เมื่อถามว่า เป็นการกล่าวหาว่า กัน จอมพลัง ได้โอกาสมากกว่าคนอื่น น.ส.รักชนก กล่าวว่า เป็นสิ่งที่มันเห็นข้อเท็จจริง ซึ่งตนก็บอกว่าเป็นเรื่องที่ดี แต่ความยินดีก็ส่วนหนึ่ง แต่ตนก็อยากให้ประชาชนได้มองทุกอย่างอย่างรอบด้าน ส่วนที่ตนโพสต์คลิปล่าสุดเมื่อคืนนี้ เพราะว่าเวลาประชาชนติดตามข่าวอาจจะได้ดูเป็นตอนๆ ตนแค่รวบรวม 4 เหตุการณ์มาไว้ที่เดียวกัน ทำหน้าที่ส่งสารอย่างตรงไปตรงมา สิ่งที่ต้นทำมันคือการพูดอย่างตรงไปตรงมาทั้งหมดทุกสิ่งทุกอย่างที่ กัน จอมพลัง ทำอะไรไว้บ้าง ทั้งเรื่องดี และเรื่องที่น่าตั้งข้อสงสัย
เมื่อถามว่าพรรคประชาชนไม่พอใจที่ กัน จอมพลัง เข้ามาเหน็บแนมพรรคประชาชนใช่หรือไม่ น.ส.รักชนก กล่าวว่า คุณสรยุทธน่าจะพูดเกินไปสักนิดนึง การให้ข้อมูลประชาชนรอบด้าน หลังจาก กัน จอมพลังไปช่วยชายแดน คะแนนนิยมของ กัน จอมพลัง สูงขึ้นมากจริงๆ ต้องขอกราบขอบพระคุณ ร.อ.ธรรมนัส ที่ได้ซัพพอร์ต ไม่ว่าจะเป็นเงินทอง ข้าวของ อาหาร หรือทรัพยากรต่างๆ รวมทั้งเป็นแบล็คให้คุณ กัน จอมพลังไปติดต่อหน่วยงานราชการต่างๆ ได้ ซึ่งต้องบอกว่า การที่ กัน จอมพลัง เข้าไปประสานงานได้อย่างราบรื่นนั้น เพราะ ร.อ.ธรรมนัสเคยพูดว่านัสทำกันทำ ซึ่งตนก็คิดว่ามันเป็นเรื่องใหญ่ เพราะฉากหน้าเป็น กัน จอมพลัง แต่มองไปข้างหลังก็จะเห็นแนวหลังลางๆ สีเทาๆ
เมื่อถามว่า ถ้ามองที่ผล ประชาชนได้ประโยชน์หรือไม่ น.ส.รักชนก กล่าวว่าประชาชนได้ประโยชน์ แต่สิ่งที่คุณ กัน จอมพลัง ทำ ถ้าเป็นคะแนนนิยมคงพุ่งขึ้นทะลุเพดานไปเลยตอนนี้ เช่น ฝ่ายการเมืองยกตัวอย่างนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ในตอนนี้ยังไม่กล้าออกมาวิพากษ์วิจารณ์ หรือพูดถึงอย่างตรงไปตรงมาในสิ่งที่ กัน จอมพลัง ทำเลย เพราะมันทำให้เสียคะแนนนิยม
สิ่งที่คุณ กัน จอมพลัง ทำตอนนี้แน่นอนว่ามีประชาชนซัพพอร์ตจำนวนมาก แต่ก็มีอีกส่วนตั้งคำถาม แต่ไม่มีใครกล้าพูดออกมา เพราะถ้าตั้งคำถามไม่ว่าจะถามเล็กถามใหญ่ก็ประเด็นข้อสงสัยต่างๆ กลับโดนด่า โดนทัวร์ลงอย่างหนัก เช่น ตนโดนมาสี่วันแล้ว
อีกสิ่งหนึ่งที่ต้องถามหนักๆ คือ กัน จอมพลัง บอกว่าไม่ยุ่งการเมือง แต่ก็มีสายสัมพันธ์ที่เกี่ยวข้องกับ ร.อ.ธรรมนัส ถ้าคุณ กัน จอมพลัง เป็นกลางทางการเมืองอย่างแท้จริง ไม่ได้เอาสิ่งต้นทุน กระแส หรือประชาชน 9 ล้านคนเป็นแฟนคลับคุณ กัน จอมพลัง ไปเป็นเครื่องมือของพรรคการเมืองไหน เราก็คงไม่ต้องออกมาตั้งคำถามกัน แต่ตนคิดว่าที่ตนต้องออกมาตั้งคำถาม เพราะตอนนี้ ร.อ.ธรรมนัสก็ถูกสังคมตั้งคำถามอย่างหนัก และก่อนที่ตนจะออกมาเปิดเผยถึงความสัมพันธ์นี้ ก็ไม่มีใครรู้ว่าทั้งสองคนมีความสนิทสนมชิดเชื้อกัน
ขณะที่ กัน จอมพลัง ไดโฟนอินเข้ามากลางรายการ พร้อมระบุว่า วันนี้ตนมีภารกิจที่โรงพยาบาลปราสาท ฐานตชด. และดูการทำถนนตอนเย็นที่ จ.ศรีสะเกษ ที่ผ่านมาตนไม่ได้เคยคุยกับ น.ส.รักชนก ตรงๆ ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ได้พูดคุยกันตรงๆ ในรายการนี้
ด้าน น.ส.รักชนก กล่าวว่า เสียดายคุณ กัน จอมพลัง ไม่ได้มานั่งอยู่ตรงนี้ เพราะตนก็เห็นว่าเวลามีรายการต่างๆ เชิญคุณ กัน จอมพลัง ไป คุณกันก็ให้โอกาส เวลาที่คุณกันไปจับคนมาเชือดขึงพืดกลางรายการ และตามล่าตัวล่าแม่มด ตนก็เสียใจที่วันนี้ไม่มีโอกาสมาเจอหน้าคุณกันแบบตัวต่อตัว
ขณะที่ กัน จอมพลัง กล่าวว่า ถ้าติดตามตนจริง เกือบทุกรายการ หากต้องการคุยกับตนจะเป็นการโฟนอิน เพราะตนอยู่ชายแดน น่าจะสำคัญกว่า ตนอยู่ชายแดนมา 4-5 วันแล้ว ส่วนที่บอกเอาคนมาขึงพืดดูอคติไปนิดนึง
ทำให้ น.ส.รักชนก กล่าวว่า ตนคิดว่าพ่อแม่พี่น้องประชาชนสามารถใช้วิจารณญาณตัวเองได้ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา กัน จอมพลัง และ หนุ่ม กรรชัย พูดคุยกันถึงเรื่องที่นักสิทธิ์ที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของคุณ กัน จอมพลัง แต่คุณกันก็ไปออกรายการ หลังจากนั้นก็มีการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างรุนแรงมาก บางคำที่นักสิทธิ์พูดตนไม่ได้เห็นด้วยทั้งหมด แต่คุณ กัน จอมพลัง ต้องยอมรับก่อนว่ารายการที่คุณทำในวันนั้นเป็นการเอานักสิทธิ์ขึงพืดเสียบประจานให้คนทั้งประเทศปาก้อนหินใส่ ด้วยการดูถูกดูแคลนคำเหยียดหยาม แม้ว่าวันนี้คุณ หนุ่ม กรรชัย จะขอโทษทุกคน แต่ตัวนักสิทธิ์เอง ตนไม่รู้ว่าไปขอโทษแล้วหรือยัง ซึ่งคุณ กัน จอมพลัง ก็ยังไม่ได้สำนึกผิด แม้ว่าคุณ หนุ่ม กรรชัย จะสำนึกผิดแล้ว แต่กระแสความเกลียดชังที่มันเกิดขึ้นที่คุณประทับตราไปในสังคมนี้ให้เกลียดคนไทยด้วยกัน ด่าคนไทยด้วยกัน ตามคุกคามเขา จนมีคนจะเอาชีวิตคุณพ่อเขา ต่อให้ขอโทษแล้วสิ่งเหล่านี้ไม่ได้หายไป และคุณอาจจะลืมไปว่า นี่คือคนไทยด้วยกัน
ตนยังไม่เห็นว่าคนที่สร้างความเดือดร้อนให้ประเทศนี้ หรือแม้กระทั่งผู้มีอำนาจ ยกตัวอย่างนายกรัฐมนตรี หรือคุณธรรมรัส ที่ถูกกล่าวหาอย่างหนักในช่วงเวลาที่ผ่านมา ตนก็เห็นว่า กัน จอมพลัง หรือคุณ หนุ่ม กรรชัย และคนอื่นๆ จะทำในสิ่งที่เดียวกันนี้กับผู้มีอำนาจเช่นเดียวกับนักสิทธิ์ ทั้งที่ควรนำตัวมาออกรายการ ทั้งคุณอนุทิน และ ร.อ.ธรรมนัส
ขณะที่ กัน จอมพลัง กล่าวว่า ตนคิดว่ามันไม่ใช่วันนี้ สิ่งที่มันเกิดขึ้น เราพยายามอธิบายในมุมมองของชาวบ้านมันเป็นอย่างไร ตนเชื่อว่ามันมีความรู้สึกทั้งสองฝ่ายว่าเหตุผลคืออะไร ตนก็รับฟังที่นักสิทธิ์พูด ตนก็หยุด ไม่ได้ดันทุลังต่อ และการที่เขาออกมาพูดตนกับคนที่อยู่หน้างานรู้ดีที่สุดว่ามันมีภารกิจอะไรที่อยู่ในนั้น และภารกิจที่อยู่ในนั้นมันสำเร็จด้วย แต่ตอนนี้ซึ่งตอนยืนยันว่า ตนฟังนักสิทธิ์ การที่ตนไปออกรายการไม่ใช่การขึงพืด หรือการตอบโต้ ไม่อย่างนั้นแสดงว่าการที่ น.ส.รักชนกเอารูปตนไปก็ถือเป็นการขึงพืดตนเหมือนกัน ซึ่งมันไม่ใช่
“ผมยืนยันว่าไม่เคยขึงพืดนักสิทธิ์ และไม่เคยให้แฟนคลับไปไล่ล่า เพราะตนไม่สนับสนุนการการใช้ความรุนแรง”
น.ส.รักชนก กล่าวว่า กัน จอมพลัง จะพูดอะไรก็ได้ แต่การกระทำไอซ์ และคำพูดสอดคล้องกันหรือไม่ ในวันนั้นสิ่งที่ทำก็คือมีการเอามาแขวนในโซเชียลมีเดีย โดยมีการพูดถึงในแง่ลบ ไม่ว่าจะพูดถึงใครทางโซเชียล และเอฟซี พร้อมที่จะถลกหนังคนคนนั้นออกมา ซึ่งวันนี้ตนกลายเป็น สส.เขมรไปแล้วที่ออกมาตั้งคำถามถึงการทำงานของ กัน จอมพลัง ซึ่งตนสนับสนุนในสิ่งดีๆ ทุกคนมีความแสดงออกในการรักชาติแบบแตกต่างกันได้ และน้ำเสียงในวันนั้น คือรับบทมือปราบมารเลย ปราบเขมร ปราบทุกคนที่เข้าข้างเขมร และพร้อมถล่มทุกคนที่พูดไม่เข้าหู และไม่ถูกใจเอฟซี ตนก็เกือบไม่รอดเช่นกัน แต่ว่าตนจิตแข็ง วันนี้ กัน จอมพลัง กลับมารับบทพ่อพระที่ถูกกระทำกระทำ
กัน จอมพลัง กล่าวว่า พูดไปเรื่อย แต่อาจจะเป็นมุมมองของ น.ส.รักชนก มีอดีตรองหัวหน้าพรรคส้ม บอกว่าเหตุการณ์ปล่อยเสียงหลอนเขมรมาจากอินฟลูฯ หิวแสง ซึ่งตนก็ไม่ได้รู้จักกัน แต่ก็ไม่ได้อะไร ตนไม่เคยไปไล่บี้ แต่ตนเตือนเพราะเขมรเอาคำพูด ไปบิดเบือน
ด้าน น.ส.รักชนก กล่าวว่า ก่อนหน้าหน้าที่ กัน จอมพลัง จะเอาเครื่องเสียงไปเปิดให้ชาวเขมรฟังนั้น มีประเด็นสำคัญอยู่ เนื่องจากนาย รังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะกมธ.ความมั่นคงแห่งรัฐฯ ได้เปิดโปงว่า ร.อ.ธรรมนัส มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างไรหรือไม่ เพราะมีภาพปรากฏกับนาย เบน สมิธ ซึ่งมีการตั้งคำถามและให้นายอนุทินออกมาจัดการ เรื่องสแกมเมอร์ และจัดการกับ ร.อ.ธรรมนัส เมื่อไหร่ ร.อ.ธรรมนัสจะออกมาตอบเรื่องนี้ ซึ่งเป็นเวลาพอดีกับช่วงที่การกำลังเอาเสียงผีไปเปิดที่ชายแดนพอดี หลังจากนั้นมีการตั้งคำถามกับ นายกฯ และ ร.อ.ธรรมนัสก็หายไปจากหน้าสื่อ เพราะทุกสื่อต้องมาประโคมข่าวที่ กัน จอมพลัง ไปเปิดเสียงหลอนที่ชายแดน
ตนไม่แน่ใจว่ามันเป็นความบังเอิญ หรือความตั้งใจ ซึ่งตนคิดว่าคุณ กัน จอมพลัง มีความตั้งใจดีจริงๆ ที่จะแก้ไขปัญหาเรื่องชายแดนไท-ยกัมพูชา แต่เราต้องมาพูดกันอย่างตรงไปตรงมาว่า การไปฉีดอุจจาระ หรือการเปิดซาวด์ผีมันจะช่วยทำให้ประเทศไทยเอาชนะในสนามนี้ได้อย่างไร ซึ่งสิ่งที่คุณ กัน จอมพลัง ทำจะให้คนไทยสะใจ แต่สิ่งที่จะแก้ไขปัญหาได้เรื่องชายแดนกัมพูชา คือการตีไปที่กล่องดวงใจของ ฮุน เซน คือเรื่องเงิน ซึ่งเงิน 60% ของจีดีพีมาจากการหลอกลวงแก๊งคอลเซ็นเตอร์และสแกมเมอร์ และคนที่ถูกตั้งคำถามตอนนี้มากที่สุดในสังคมคือ นายอนุทินในฐานะนายกรัฐมนตรี และ ร.อ.ธรรมนัส ที่ถูกกล่าวหาว่า และมีภาพปรากฏเกี่ยวข้องอย่างไรกับ เบน สมิธ หรือไม่ ซึ่ง ร.อ.ธรรมนัส ก็ยังไม่ได้ตอบ
ด้าน กัน จอมพลัง ถึงกับหัวเราะ พร้อมกับถามว่า “โกรธผมเหรอที่ข่าวตัวเองถูกกลบ มากดผมเรื่องนี้เหรอ” ทำให้ สส.ไอซ์ ยกมือไหว้ พร้อมกับกล่าวว่า “คุณกันคะ ขอโทษนะคะ นี่ไม่ใช่ข่าวของพรรคประชาชน นี่คือผลประโยชน์ของประเทศชาติ” ขณะที่ กัน จอมพลัง กล่าวว่า ตนไม่มีเจตนาที่จะต้องไปบอกว่าตนจะไปกลบข่าวของใคร เพราะตนไม่รู้ว่าเขาปฏิบัติการอะไรกันด้วยซ้ำ แต่ในส่วนของตนมีคิวที่จะต้องปฏิบัติการเรื่องนี้อยู่แล้ว ไม่ใช่ตัวของตนอยู่ดีๆ จะเข้าไปเปิดเสียง ซึ่งมันมีเรื่องการปฏิบัติการอยู่ในนั้น ไม่ใช่อยู่ดีๆ ตนอยากจะไปเปิดกลบกระแสข่าว ตนก็ไม่ใช่ เพราะไม่เกี่ยวกันเลย และส่วนรถส้วมตอนนั้นสถานการณ์ต้องมองว่าฝั่งกัมพูชาระดมพลเข้ามา และฟาดทหารไทย ตอนนั้นทหารไทยก็ตอบโต้ไม่ได้ต้องตั้งรับเพียงอย่างเดียว ก่อนที่ตนจะเข้าพื้นที่ได้พูดคุยกับกองกำลังบูรพา มีการคุยกันว่าจะต้องจอดรถตรงไหน ซึ่งตนยังไม่ได้ไปฉีด เป็นการเอาไปจอดไว้เฉยๆ แล้วฝ่ายกัมพูชาก็ถอยกำลัง ทำให้เรามีเวลาตั้งหลัก และเซ็ตว่าจะทำอย่างไรต่อ จนตอนหลังก็เปลี่ยนจากทหารมาเป็นตำรวจควบคุมฝูงชน ซึ่งวันนี้เขมรทำงานด้วยกันหลายฝ่าย เราจะใช้รถส้วมหยุดทุกอย่าง มีเหตุผล ตนไม่ได้จะไปกลบข่าวอะไรทั้งนั้น ตอนอยู่ชายแดนไม่ได้มอนิเตอร์อย่างอื่น แค่ต้องรู้ว่าพรุ่งนี้จะทำอะไรอย่างไร วันนึงทั้งวันหน้าแนวบางทีไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ด้วยซ้ำ
ด้าน น.ส.รักชนก กล่าวว่า กัน จอมพลัง พูดจาต้องระวังนิดนึง เพราะตอนนี้เหมือนคุณกันกำลังยอมรับว่าตัวเองปฏิบัติการร่วมกับทหาร หรือกองทัพ ซึ่งตนก็สงสัยว่าคุณกันทำไมถึงได้รับมอบหมายให้ทำภารกิจที่มันควรที่จะต้องเป็นฝ่ายประจำหรือฝ่ายการเมืองหรือไม่ เพราะการเข้าไปร่วมปฏิบัติการร่วมกับกองทัพ ถ้าผิดพลาดประการใดควรมีการรับผิดรับผิดชอบ แต่คุณกันเป็นภาคเอกชน ต้องระวังอย่างมากในการสื่อสาร
ตนอยากสอบถามว่าคุณ กัน จอมพลัง ไม่ค่อยได้ติดตาม แต่รู้ไหมว่าอะไรที่เป็นหัวใจสำคัญในการที่จะทำให้เราชนะกัมพูชาได้ในศึกอันใหญ่หลวงครั้งนี้
ด้านนาย กัน จอมพลัง กล่าวว่า ในเรื่องของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ตนเห็นด้วย แต่ตัวตนไม่มีอำนาจที่จะไปทำอะไรแบบนั้น มันเกินมือตน แต่ตนก็เห็นด้วย หากสส. จะขับเคลื่อนเรื่องนี้ ตนก็ยินดีถ้ามีข้อมูลขอให้บอก ตนยินดี
ซึ่งช่วงหนึ่ง น.ส.รักชนก ได้ตั้งคำถามเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่าง ร.อ.ธรรมนัส กับ กัน จอมพลัง ที่เป็นผู้สนับสนุนหลัก ทำให้มองไม่เห็นปัญหาที่เกิดขึ้น ด้าน กัน จอมพลัง กล่าวว่า คนที่สนับสนุนหลักของตนเป็นเอฟซี ตนกล้าพูดเลย เพราะคนที่สนับสนุนเงินนำมาให้ขับเคลื่อนการช่วยเหลือชายแดนเป็นแฟนคลับของตนทั้งนั้น ในส่วนของ ร.อ.ธรรมนัส ไม่เคยเอาเงินมาให้ตน แต่ถ้าถามว่าช่วยประสานหรือไม่นั้นก็มีการช่วยประสานบ้างเวลาชาวบ้านที่ลำบากขอความช่วยเหลือ ตนตะล่อนไปหาทุกคน ไม่ว่าจะกระทรวงไหน ตนโทรเป็น 10 คน ถ้าคนไหนช่วยได้ก่อนก็ยินดี เพราะเป็นประโยชน์กับชาวบ้าน ตนไม่เคยเอาทุนของ ร.อ.ธรรมนัสมาทำ คอนเฟิร์มได้ ล้านล้าน%
กัน จอมพลัง กล่าวว่า ส่วนกรณีเรื่องงานกระทรวงเกษตรและสหกรณ์นั้น ซึ่งมีการจ้างงานตนให้รายได้ต่องานไม่เกิน 500,000 บาท โดยมีการเลือกคนให้เหมาะกับงาน ในส่วนของตนได้รับ 7 งานเป็นเวลา 2 ปี ปีแรก 3 งาน ปีสอง 4 งาน ที่เป็นงานเฉพาะเจาะจง และเป็นงานประชาสัมพันธ์ทั้ง 7 งาน ซึ่งในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีงานเฉพาะเจาะจง 5,000 งานต่อปี สองปี 10,000 งาน แต่ กัน จอมพลัง ได้ 7 งาน ถ้าบอกว่าตนมีเส้นสายกับ ร.อ.ธรรมนัส ตนขอ 1,000 หรือ 10,000 งานได้ไหม แต่ กัน จอมพลัง ได้ 7 งาน ซึ่งงานเฉพาะเจาะจงมีหลายแบบ ซึ่งเขาก็เชิญมาทีมงาน มีการติดต่อจ้างงานตนเหมือนบริษัทเอกชนทั่วไป ตนเป็นอินฟลูฯ สามารถทำงานประชาสัมพันธ์ได้ มีคนติดตามตน 2.5 ล้านคน ก็ติดต่อมา ภาครัฐก็อาจจะได้พรีเซนต์กับชาวบ้าน แต่ถ้าอยู่ดีๆ มาเฉพาะเจาะจงให้ กัน จอมพลัง ไปทำถนน ไปจัดซื้อ หรือขุดบ่อ แบบนั้นค่อยว่าตนประหลาด แต่ตนก็ไม่ได้ดิ้นรนขนขวาย เขาจะติดต่อมาก็ว่าไปแล้วงาน ที่ตนจำได้ ทั้ง 7 งานขาดทุนก็มี ซึ่งตอนนี้ต้นตัดปัญหา เพราะทำแล้วไม่รุ่ง ไม่เวิร์ค ก็ไม่ได้ทำแล้ว เพราะแต่ละงานมีต้นทุน
กัน จอมพลัง กล่าวว่า ส่วนกรณี ร.อ.ธรรมนัส และ เบน สมิธ นั้น ยืนยันว่าตนไม่เคยเจอ เบน สมิธ และไม่รู้จัก ถามว่า สส.ไอซ์มีหลักฐานที่จะเอาผิด เบน สมิธ หรือไม่ ถ้ามีหลักฐานเอามาเลย ตนพร้อมช่วย ส่วนที่จะให้ตนติดต่อ ร.อ.ธรรมนัสนั้น ขนาดทุกคนมีตำแหน่งเป็น สส. มีอำนาจทุกคนยังบอกว่าทำไม่ได้ ต้องให้ตนไปติดต่อให้ แต่ตนไม่มีตำแหน่ง จะเอาอำนาจอะไรไปบังคับเขา หรือบังคับใคร แต่ถ้ามีหลักฐานตนพร้อมซัพพอร์ต แต่ตนไม่มีอำนาจ ตนเป็นประชาชน ก็ไม่รู้ว่าจะเริ่มยังไง จะให้ไปถาม หรือไปบอก ก็ไม่รู้ว่าข้อมูลข้อเท็จจริงคืออะไรอย่างไร แต่ถ้ามีข้อมูลเชิงลึกอยู่แล้วก็ขอให้นำมา แต่ตนไม่มีอำนาจไปบีบปากใคร หรือเอาข้อมูลจากใครได้
ขอบคุณข้อมูล : รายการ "กรรมกรข่าว คุยนอกจอ"
Advertisement