กองทัพภาคที่ 1 โดยศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 1 ขอสรุปสถานการณ์ประจำวันที่ 16 ตุลาคม 2568 ณ เวลา 16.00 น. ในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา จ.สระแก้ว ดังนี้
สถานการณ์ด้านความมั่นคงชายแดน จ.สระแก้ว โดยฝ่ายไทย มีมวลชน ชาวบ้านในพื้นที่และสื่อมวลชน ติดตามการลงพื้นที่ของส่วนราชการ เพื่อสำรวจพื้นที่ในการสร้างบังเกอร์และหลุมหลบภัยของประชาชน สำหรับการฉายสารคดีและการกระจายเสียง ได้รับการประสานจากฝ่ายพลเรือนว่าอยู่ระหว่างการปรับเปลี่ยนท่าที ตามมาตรการกดดันชาวกัมพูชาส่วนฝั่งตรงข้าม ฝ่ายกัมพูชา บ.โจกเจย พบการเคลื่อนไหว ของมวลชน 15 - 20 คน ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารและ ตชด.เฝ้าระวัง ส่วน บ.เปรยจัน เจ้าหน้าที่ส่วนราชการ ประมาณ 20-25 ราย และคาดว่าเจ้าหน้าที่ จ.บันเตียเมียนเจย จะนำคณะเจ้าหน้าที่สาธารณะสุขลงพื้นที่ติดตามเรื่องสุขภาพของประชาชน ที่ได้รับผลกระทบจากกรณีฝ่ายไทยสร้างเสียงดังก่อกวนจนกระทบต่อสุขภาพจิตของประชาชน
การปฏิบัติการที่สำคัญ สำหรับภารกิจการเก็บกู้ระเบิด กกล.บูรพา ร่วมกับศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ (ศทช.) ในวันนี้อยู่ระหว่างการเสร้างสภาพแวดล้อมภาพรวมให้ปลอดภัย เพื่อเตรียมมอบคืนพื้นที่ปลอดภัยให้ประชาชนในพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้วได้มีที่ทำกิน ภายหลังเสร็จสิ้นภารกิจการค้นหาวัตถุระเบิดครอบคลุมพื้นที่แล้ว และเตรียมการวางแผนเข้าตรวจสอบค้นหาวัตถุระเบิดที่คาดว่าตกค้างในพื้นที่บริเวณบ้านหนองจาน ในห้วงต่อไป
สำหรับความคืบหน้าการจัดสร้างบังเกอร์และหลุมหลบภัยของประชาชนในพื้นที่ชายแดน จ.สระแก้ว ซึ่งได้รับการสนุนจาก “กองทุนหทัยทิพย์” ภายใต้มูลนิธิจุฬาภรณ์ โดยในวันนี้ พล.ท.วรยส เหลืองสุวรรณ แม่ทัพภาคที่ 1/ ผบ.ศปก.ทภ.1 ร่วมกับกกล.บูรพาและทุกภาคส่วน ลงพื้นที่สำรวจพื้นที่เหมาะสมในการจัดสร้างบังเกอร์และ
หลุมหลบภัยประชาชน โดย กกล.บูรพา ได้รับการสนับสนุนให้สร้างและปรับปรุงที่มั่นกำบัง (บังเกอร์) จำนวน 72 แห่ง และหลุมหลบภัยสำหรับประชาชน ขนาดความจุ 40 คน จำนวน 6 แห่ง โดยในห้วงแรกจะเร่งดำเนินการสร้างบังเกอร์ 10 แห่ง และหลุมหลบภัย 2 แห่ง ด้วยพระเมตตาของสมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี นำมาซึ่งความความรู้สึกซาบซึ้งใจของกำลังพลที่ปฏิบัติงานและประชาชนที่อาศัยตามแนวชายแดน และน้อมสำนึกในพระกรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้
Advertisement