กัมพูชา ส่งจดหมายถึงไทย อ้างชาวเขมรอยู่บ้านหนองจานก่อนมีMOU43
กัมพูชาส่งจดหมายถึงไทย อ้างชาวเขมรอยู่บ้านหนองจานก่อนมีMOU43รวมตัวปกป้องที่ดิน ไร่นา ทรัพย์สินที่ถูกต้องตามกฎหมายขอไทยอดทนรอผลJBCทำเขตแดนให้แล้วเสร็จ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
วันที่ 9 ต.ค. 68 จังหวัดบันเตียเมียนเจยของกัมพูชาส่งจดหมายถึงผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว กรณีจังหวัดสระแก้วประท้วงการก่อสร้างที่พักชั่วคราว การเคลียร์พื้นที่โดยรอบ และการนำประชาชนกัมพูชาไปรวมตัว ณ พื้นที่บ้านหนองจาน
โดยระบุว่า “ขอเรียนให้ทราบว่า สถานที่ที่จังหวัดสระแก้วประท้วงนั้น ตั้งอยู่ที่บ้านเซเรง ตำบลโอเบโจน อำเภอโอ-จเริว จังหวัดบันเตียเมียนเจย ซึ่งเป็นที่ที่ประชาชนกัมพูชาอยู่อาศัย ครอบครอง และใช้ประโยชน์มาเป็นเวลานานก่อนที่บันทึกความเข้าใจปี 2543 จะมีผลบังคับใช้”
จังหวัดบันเตียเมียนเจยขอชี้แจงว่า ศูนย์พักพิงชั่วคราวแห่งนี้จัดตั้งขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการรักษาความมั่นคงและความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ระหว่างการปะทะที่ผ่านมา และเพื่อเป็นการป้องกันตนเองและป้องกันเหตุการณ์ต่าง ๆ
จังหวัดบันเตียเมียนเจยขอย้ำว่า กิจกรรมต่าง ๆ ของชาวกัมพูชาที่รวมตัวกันในพื้นที่ดังกล่าว มีวัตถุประสงค์เพื่อปกป้องที่ดิน ไร่นา และทรัพย์สินที่ถูกต้องตามกฎหมายของพวกเขาเท่านั้น
นอกจากนี้ ประชาชนที่อาศัยอยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราวดังกล่าวในปัจจุบันเป็นประชาชนที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากกิจกรรมการติดตั้งลวดหนาม ตาข่ายดำ สิ่งกีดขวาง และการวางยางรถยนต์ ซึ่งทำให้พวกเขาสูญเสียศูนย์พักพิงถาวรและหลบหนีมาอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว
ปัญหานี้แสดงให้เห็นถึงความซับซ้อนและความยากลำบากในการแก้ไขปัญหาชายแดน ซึ่งจำเป็นต้องเคารพข้อตกลงและหลักการที่ทั้งสองฝ่ายได้ตกลงกันไว้ในอดีต
ในขณะเดียวกัน จังหวัดบันเตียเมียนเจยขอย้ำว่า จังหวัดทั้งสองของเราไม่มีอำนาจในการปักปันเขตแดนในพื้นที่ที่ยังไม่ได้ปักปันเขตแดน
ตามบันทึกความเข้าใจฉบับที่ 2543 และบันทึกการประชุมพิเศษของคณะกรรมการชายแดนทั่วไปกัมพูชา-ไทย (GBC) เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2568 ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะคงสถานะเดิมไว้จนกว่างานปักปันเขตแดนจะแล้วเสร็จ
จังหวัดบันเตียเมียนเจยขอแสดงจุดยืนตามข้อตกลงระหว่างสองประเทศ กล่าวคือ รอผลการประชุม JBC ในเรื่องนี้ เพื่อบรรเทาความตึงเครียดและรอการแก้ไข
จังหวัดทั้งสองของเราจะยังคงประสานงานกันอย่างใกล้ชิดเพื่อจัดการสถานการณ์ในพื้นที่โดยสันติ รวมถึงการยุติกิจกรรมใด ๆ ก็ตามที่ทำให้เกิดข้อพิพาทและเพิ่มความตึงเครียด
ดังนั้น ข้าพเจ้าผู้ว่าราชการจังหวัด จึงขอความกรุณาให้ตระหนักและอดทนรอมติของคณะกรรมการเขตแดนร่วม (JBC) ว่าด้วยการดำเนินงานเขตแดนชายแดนให้แล้วเสร็จ และในระหว่างนี้ ข้าพเจ้าผู้ว่าราชการจังหวัด ขอความร่วมมือด้วยไมตรีจิตและความเป็นเพื่อนบ้านที่ดี เพื่อหลีกเลี่ยงการสร้างความตึงเครียดและผลกระทบด้านลบต่อทั้งสองฝ่าย
คอนเทนต์แนะนำ
Advertisement
