7 ต.ค. 2568 ที่กระทรวงการต่างประเทศ นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยภายหลังหารือกับ นายจาง เจี้ยนเว่ย เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย โดยใช้เวลาหารือกว่า 1 ชั่งโมง 30 นาที ว่า ได้ถือโอกาสนี้ แสดงความยินดีกับเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทยในโอกาสเข้ารับตำแหน่งใหม่ ซึ่งมารับหน้าที่ในเวลาที่สำคัญเนื่องจากในปีนี้ครบรอบ 50 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทย-จีน ซึ่งเป็นความสัมพันธ์ที่เป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ จึงพูดคุยเกี่ยวกับการจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อยกระดับความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น พร้อมขอบคุณ นายจาง เจี้ยนเว่ย ที่ยินดีให้ความร่วมมือในการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างกัน
ในโอกาสนี้จึงได้หารือเกี่ยวกับกระแสข่าวจีนส่งอาวุธสนับสนุนกัมพูชา เพื่อใช้ในความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชาด้วย ซึ่งเชื่อว่าการชี้แจงของเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย คงให้ความกระจ่างกับเรื่องนี้ พร้อมขอบคุณฝ่ายจีนที่มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมสันติภาพกับภูมิภาคมาโดยตลอด และในกรณีสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ฝ่ายจีนยืนยันว่าจะมีท่าทีเป็นกลาง และจะสนับสนุนให้ไทย-กัมพูชาเจรจาโดยสันติวิธี รวมถึงในระดับทวิภาคี ซึ่งเป็นท่าทีของฝ่ายไทยมาโดยตลอด
ด้าน เอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย กล่าวว่า ตนรู้สึกเป็นเกียรติและดีใจอย่างยิ่ง ที่มีโอกาสมาเข้าเยี่ยมคารวะท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศคนใหม่ของประเทศไทย ทั้งสองฝ่ายมีการหารือเรื่องมิตรภาพความสัมพันธ์กันอย่างรอบด้าน ลึกซึ้ง ซึ่งปีนี้เป็นปีที่จีนกับไทยสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตครบรอบ 50 ปี ถือเป็นโอกาสที่สำคัญและพิเศษมาก ซึ่งจีนและไทยจะมีกิจกรรมต่างๆ รวมถึงการแลกเปลี่ยนระดับสูงมากมาย เราเชื่อมั่นว่าความสัมพันธ์จีนไทยนั้น โดยเฉพาะในช่วงครบรอบ 50 ปี ในโอกาสที่สำคัญนี้ จะพัฒนาก้าวหน้าอย่างต่อเนื่องและส่งผลสำเร็จมากขึ้น วันนี้ก็มีการพูดคุยเรื่องที่สื่อในประเทศไทยให้ความสนใจคือเรื่องอาวุธที่กัมพูชาใช้ ในส่วนนี้ขอชี้แจงว่าประเทศจีนให้ความสำคัญอย่างสูงต่อการพัฒนาความสัมพันธ์กับไทยและถือว่าการพัฒนาความสัมพันธ์กับไทยเป็นสิ่งที่ให้ความสำคัญสูงสุดของการดำเนินการทางการทูตของจีน
“ตั้งแต่ไทยกับกัมพูชาปะทะกัน จีนก็ใช้ท่าทีที่เป็นกลาง ยุติธรรม เพื่อช่วยทั้งสองฝ่ายพูดคุย คลี่คลายปัญหา ขอเน้นย้ำว่าตั้งแต่เกิดเหตุปะทะกันระหว่างชายแดนไทย-กัมพูชา ประเทศจีนเราไม่เคยสนับสนุนอาวุธยุทโธปกรณ์ใดๆ ให้กับกัมพูชา เพื่อใช้โจมตีประเทศไทย และอาวุธที่กัมพูชามีอยู่แล้วนั้นเป็นความร่วมมือทางด้านทหารที่มีอยู่แล้วทั้งสองฝ่าย” เอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย กล่าว
สำหรับเรื่องชายแดนไทยกัมพูชานั้น ประเทศจีนมีท่าทีที่เสมอต้นเสมอปลาย คือเราจะเป็นกลางและยุติธรรม เราจะพยายามส่งเสริมให้ทั้งสองฝ่ายพูดคุยเจรจาด้วยวิธีการทวิภาคี เพื่อคลี่คลายความขัดแย้ง เช่น นายหวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศของจีนได้ใช้โอกาสต่างๆ เพื่อพูดคุยกับรัฐมนตรีต่างประเทศของทั้งสองฝ่าย ขณะที่นายซุน เว่ยตง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีน ได้ช่วยส่งเสริมการพูดคุยเจรจากับทั้งสองฝ่ายด้วย
เช่นเดียวกับนายเติ้ง ซีจวิน ผู้แทนพิเศษด้านกิจการเอเชีย กระทรวงการต่างประเทศจีน ก็ได้ไปเยี่ยมไทยกับกัมพูชาถึง 3 ครั้ง เพื่อจะส่งเสริมสนับสนุนให้ทั้งสองฝ่ายพูดคุยกัน คลี่คลายปัญหากัน ต่อไปนี้จีนจะยืนหยัดให้ไทยกับกัมพูชาใช้ช่องทางทวิภาคี เพื่อแก้ไขปัญหาด้วยกันแบบสันติวิธีและยินดีที่จะให้ประเทศอาเซียน ใช้วิถีอาเซียนช่วยแก้ไขปัญหาเพื่อให้เกิดเสถียรภาพในภูมิภาค ไทยกับกัมพูชาในฐานะที่เป็นเพื่อนบ้านก็จะมีการส่งเสริมความไว้เนื้อเชื่อใจซึ่งกันและกัน ส่งเสริมการ แก้ไขปัญหาความขัดแย้งด้วยวิธี การหารือฉันมิตร สอดคล้องกับผลประโยชน์ของสองประเทศในระยะยาว จีนพร้อมจะแสดงบทบาทอย่างสร้างสรรค์ต่อเนื่อง
Advertisement