พล.อ.อุกฤษฎ์ ผบ.ทสส. คนใหม่ลั่นยึดปณิธาน กองทัพไทยเพื่อราชอาณาจักรไทย
กองทัพไทย จัดพิธีรับ-มอบหน้าที่ ผบ.ทสส. หลัง พล.อ.ทรงวิทย์ ครบวาระเกษียณฯ ขณะที่ พล.อ.อุกฤษฎ์ ลั่นยึดปณิธาน กองทัพไทยเพื่อราชอาณาจักรไทย
"เพื่อนข้าราชการทหาร ณ ที่แห่งนี้ เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2566 ผมได้กล่าวรับมอบหน้าที่ผู้บัญชาการทหารสูงสุด นับจากวันนั้น ผมระลึกอยู่เสมอว่าจะปกครอง บังคับบัญชาด้วยความเที่ยงธรรม ปฏิบัติหน้าที่โดย ยึดมั่นในผลประโยชน์ส่วนรวม คุ้มครองรักษาอธิปไตยของชาติ เป็นสำคัญ เพื่อให้กองบัญชาการกองทัพไทย ดำรงซึ่งเกียรติและศักดิ์ศรี ดังเช่นที่เป็นมา การปฏิบัติราชการในกองทัพ นับเป็นช่วงเวลาที่ผมภาคภูมิใจ ที่ได้ทำหน้าที่ทหารของชาติ ตามปณิธานที่ตั้งไว้ ตลอดจนการถวาย พระเกียรติ ต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งหน้าที่ของทหารอันมีเกียรตินี้ เป็นสิ่งที่พวกเรายึดถือปฏิบัติตลอดไป แม้ต้องอำลาชีวิตราชการ แต่จิตวิญญาณของความเป็นทหาร ยังฝังแน่นอยู่ในจิตใจ”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
“ผมตระหนักดีว่ากองบัญชาการกองทัพไทย มีภาระหน้าที่ อันสำคัญยิ่ง มีชื่อเสียง เกียรติภูมิ ที่สั่งสมคุณงามความดีมายาวนาน ตลอดระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผมมีตั้งใจอย่างแน่วแน่ มุ่งหวังให้กองบัญชาการกองทัพไทย มีขีดความสามารถ ในการปฏิบัติภารกิจได้อย่างสมบูรณ์ มีพัฒนาการที่สอดคล้อง กับความเปลี่ยนแปลงในทุกมิติ สามารถรับมือกับภัยคุกคามที่มี ความซับซ้อน ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนมีความพร้อมใน การปฏิบัติหน้าที่รักษาความมั่นคง และปกป้องผลประโยชน์ของชาติ”
“โดยได้รับความร่วมมืออย่างดียิ่ง จากเพื่อนข้าราชการทหารทุกท่าน ผมขอขอบคุณในความทุ่มเท ความเสียสละ พร้อมร่วมเคียงบ่าเคียงไหล่ นำไปสู่การเป็น One Team ทัพไทย ที่เข็มแข้งทั้งร่างกายและจิตใจ ขับเคลื่อนภารกิจของกองทัพไทย อย่างเต็มประสิทธิภาพ จนสำเร็จลุล่วงเป็นกองทัพที่มีคุณค่าสำหรับประชาชนอย่างแท้จริง แม้ว่าวันนี้ ผมต้องอำลากองบัญชาการกองทัพไทยไปตามวาระ แต่ความภาคภูมิใจในการปฏิบัติหน้าที่ ความอบอุ่นจากทุกๆ ท่านที่มอบให้ ยังคงสวยงาม อยู่ในใจผมตลอดไป สำหรับผู้บัญชาการทหารสูงสุดท่านใหม่ ผมเชื่อมั่นในความสามารถ ที่เพียบพร้อมด้วยความรู้ ประสบการณ์ วิสัยทัศน์ และอุดมการณ์ความเป็นทหารอาชีพ ท่านสามารถ นำกองบัญชาการกองทัพไทย ก้าวไปข้างหน้าได้อย่างสง่างาม เต็มภาคภูมิสืบต่อไป”
ด้าน พลเอก อุกฤษฎ์ บุญตานนท์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุดท่านใหม่ ได้กล่าวว่า “ตามที่มีพระบรมราชโองการ โปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้กระผมดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารสูงสุด ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม พุทธศักราช 2568 นั้น นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ขอน้อมรับหน้าที่อันมีเกียรตินี้ ด้วยความสำนึกในความรับผิดชอบ เป็นอย่างยิ่ง”
“กองบัญชาการกองทัพไทย มีบทบาทในการดำเนินภารกิจหลากหลาย ที่ล้วนเกี่ยวข้องกับความมั่นคงของชาติ และความสงบสุขปลอดภัยของประชาชน โดยมีท่านผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นผู้นำการขับเคลื่อนภารกิจ ให้บรรลุผลสัมฤทธิ์ ตลอดระยะเวลาที่ท่านปฏิบัติราชการครบวาระของพันธะ แห่งเกียรติยศนี้ เป็นที่ประจักษ์ว่าท่านเป็นทหารอาชีพที่มีอุดมการณ์แนวแน่ มีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล โดยริเริ่มและกำหนดนโยบาย ที่ครอบคลุมการปฏิบัติงานให้มีความพร้อมในทุกมิติ อันเป็นการวางรากฐานให้กองทัพไทยมีศักยภาพในการดำเนินภารกิจทุกรูปแบบ ส่งผลให้กองทัพไทยก้าวทันต่อความเปลี่ยนแปลง ของบริบทความมั่นคง ทันต่อสถานการณ์ในยุคสมัยพร้อมทั้งพัฒนาคุณภาพชีวิตกำลังพลในทุกระดับ ให้มีขวัญกำลังใจ มีความพร้อม ในการทำหน้าที่ทหารของชาติ ส่งผลให้กองทัพไทย และกองบัญชาการกองทัพไทย ภายใต้การนำของท่าน ก้าวไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง เป็นที่ยอมรับทั้งในระดับสากล และประชาชนในชาติ”
“สำหรับการปฏิบัติหน้าที่ผู้บัญชาการทหารสูงสุดต่อไปนั้น กระผมและผู้ใต้บังคับบัญชาในทุกระดับชั้น ขอให้คำมั่นว่า จะร่วมกันปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรับผิดชอบสูงสุด อย่างเต็มกำลังความสามารถ พร้อมทั้งสานต่อนโยบายของท่านผู้บัญชาการทหารสูงสุด ให้มีความต่อเนื่องและเป็นรูปธรรม ยึดผลประโยชน์ส่วนรวมเป็นที่ตั้งเป็นหลักด้านความมั่นคงของชาติเป็นที่พึ่งของประชาชน โดยยึดปณิธาน กองทัพไทยเพื่อราชอาณาจักรไทย”
Advertisement
