Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
"ก่อแก้ว"ซัดตั้งรัฐมนตรีนอมินี-ไชยชนกแฉมีคนเสนอ40ล้านไม่ให้จับแก๊งคอลฯ

"ก่อแก้ว"ซัดตั้งรัฐมนตรีนอมินี-ไชยชนกแฉมีคนเสนอ40ล้านไม่ให้จับแก๊งคอลฯ

30 ก.ย. 68
15:48 น.
แชร์

"ก่อแก้ว" ซัดตั้งรัฐมนตรี นอมินี-ระบบอุปถัมภ์ ชี้ "รมว.ยุติธรรม" มีภารกิจพิเศษเป่าคดี ให้จบในรัฐบาลนี้ ด้านไชยชนก แฉมีคนเสนอ40ล้านไม่ให้จับแก๊งคอลฯ

เมื่อเวลา 11.50 น. นายก่อแก้ว พิกุลทอง สส.บัญชีนายชื่อพรรคเพื่อไทย กล่าวอภิปรายนโยบายรัฐบาล ว่า ในคำแถลงนโยบายให้คำมั่นว่า จะเร่งแก้ไขปัญหาประเทศ จะยึดยึดมั่นในหลักยุติธรรม จะขจัดทุจริตประพฤติมิชอบอย่างเด็ดขาด และจะยึดประโยชน์ของประเทศเป็นที่ตั้ง แต่ตนขอถามว่า สิ่งที่แถลงสวยงามแต่การกระทำสอดคล้องกันหรือไม่ เห็นได้จากการแต่งตั้งคณะรัฐมนตรี ที่บางท่านไม่มีความเหมาะสม บางคนไม่มีความสามารถ และศักยภาพ อีกทั้งบางคนก็ไม่ขาวสะอาด มีทั้งเป็นนอมินีของผู้มีอำนาจตัวจริง พรรคภูมิใจไทย

นายก่อแก้ว ยังได้ยกตัวอย่างการแต่งตั้งนายโสภณ ซารัมย์ เป็นรองนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นคนสนิทของครูใหญ่นายเนวิน ชิดชอบ และหากย้อนไปปี 2554 มีข่าวครึกโครมมีโจรปล้นบ้านอดีตปลัดกระทรวงคมนาคม ได้เงินไปกว่า 200 ล้านบาท แต่ความจริงแล้วมีเงินในบ้านหลังนั้นกว่า 500 ล้านบาท จึงมีการตั้งคำถามตามมาว่า หากบ้านปลัดกระทรวงคมนาคมมีเงินมากขนาดนั้น แล้วบ้านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมในขณะนั้นจะมีเงินสดมากขนาดไหน แต่เสียดายที่ไม่ได้ดำเนินการเรื่องนี้ต่อ ทำให้คดีจบที่บ้านของอดีตปลัดกระทรวงคมนาคม และคนที่สอง พลตำรวจโท รุทธพล เนวรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ซึ่งทุกคนทราบดีว่าทำงานใกล้ชิดนายเนวิน

ระหว่างนี้ทำให้นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ซึ่งทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม ทักท้วง ว่าไม่ควรกล่าวถึงบุคคลภายนอกคือนายเนวิน เพราะเกรงว่าจะมีการทักท้วง

นายก่อแก้ว อธิบายต่อว่า การแต่งตั้ง พลตำรวจโทรุทธพล เป็นการแต่งตั้งแบบหวังผล พร้อมถามว่าไม่มีคนอื่นแล้วหรือไม่ จึงมีการแต่งตั้งแบบโจ่งแจ้ง เพราะตามหลักแล้วการแต่งตั้งรัฐมนตรีกระทรวงสำคัญอย่างกระทรวงยุติธรรม ควรให้บุคคลสำคัญของพรรคมาเป็นรัฐมนตรีว่าการ ทั้งที่ในพรรคภูมิใจไทย ก็มีบุคลากรที่มีคุณภาพมากมาย กลับเอาคนนอกที่ไม่มีความผูกพันในการสร้างผลงาน หรือสร้างคะแนนนิยมในพรรคมาเป็นรัฐมนตรี

“คิดได้มุมเดียวคือมีภารกิจพิเศษ ได้รับมอบหมายให้ดำเนินการบางเรื่องบางอย่าง ตนขอทำนายเลย คดีฟอกเงิน ซ่องโจร ที่เกี่ยวพันกับคดีฮั้วสว. ถูกสั่งให้เดินหน้าเต็มที่ และจบลงในยุคท่านด้วยหลักฐานไม่เพียงพอไม่ฟ้อง ซึ่งเป็นวิธีที่ตำรวจเมืองไทยมักใช้กัน เวลานายสั่งให้เป่าคดี ขอแสดงความยินดีกับผู้ที่ถูกกล่าวหาทั้งหลาย ”

นายก่อแก้ว กล่าวต่อว่า ส่วนการแต่งตั้งนายไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัล เพื่อเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งถือเป็นกระทรวงที่สำคัญ ดูแลโครงสร้างโทรคมนาคมของประเทศ รวมถึงเรื่องของเศรษฐกิจดิจิทัล ถือเป็นเรื่องใหญ่หลายประเทศขับเคลื่อนได้ผล แต่ไทยยังกึกๆ กั๊กๆ ขับเคลื่อนเรื่องนี้ไม่ค่อยได้ดี ส่วนการปราบปราม fake News พนันออนไลน์ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่เรามีปัญหาเยอะ เราจึงต้องการรัฐมนตรีที่มาทำหน้าที่ได้ทันทีทันใดไม่ใช่มาศึกษางานอยู่ อย่าลืมว่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์สร้างความเจ็บปวดให้ประเทศไทยมาหลายปี แต่ละปีคนไทยถูกหลอกลวงสูญเงินให้แก๊งเหล่านี้ปีละหลายหมื่นล้าน ซึ่งในช่วงรัฐบาลนางสาวแพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในช่วงปลายสมัยของรัฐบาลแก๊งคอลเซ็นเตอร์หายไป แต่เมื่อนางสาวแพทองธารถูกถอดถอน แก๊งคอลเซ็นเตอร์กลับมาอีกครั้ง เราจึงต้องการรัฐมนตรีที่ทำหน้าที่ได้ในทันที เพราะปัญหาประชาชนต้องการคนแก้ไขปัญหาทันที ที่ตนยกตัวอย่างมาทั้ง 3 คนนี้ เป็นการแต่งตั้งในระบบอุปถัมภ์ ที่ไร้ความชอบธรรม ไม่ยึดประโยชน์ของประเทศเป็นที่ตั้ง

ทำให้นายสนอง เทพอักษรนรงค์ สส. บุรีรัมย์พรรคภูมิใจไทย ประท้วงว่า รัฐมนตรีที่ได้รับการแต่งตั้งยังไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ให้เสียหายอะไร ถือว่าใส่ร้ายป้ายสีกันล่วงหน้า อย่าคิดว่าพรรคการเมืองทุกพรรคจะทำเหมือนพรรคการเมืองที่ท่านสังกัด แต่ประธานในที่ประชุม ได้วินิจฉัยว่า ยังอยู่ในประเด็นการอภิปราย

นายก่อแก้ว จึงอภิปรายต่อว่า การแต่งตั้งนี้เป็นไปตามระบบอุปถัมภ์ ไม่ใช่ประโยชน์ของประเทศเป็นหลัก หากคณะรัฐมนตรีแบบนี้ แนะนำให้รัฐบาล ตั้งกระทรวงบุรีรัมย์ขึ้นมาเลยดีกว่า จะได้เป็นกระทรวงส่วนตัว เวลาผู้ยิ่งใหญ่บุรีรัมย์ จะแต้งตั้งใครก็ทำได้เต็มที่ ขณะที่นายกรัฐมนตรีเองก็เป็นเสี่ยใหญ่ในกรุงเทพมหานคร แต่ย้ายทะเบียนบ้านไปอยู่บุรีรัมย์ และน่าจะย้ายทำเนียบรัฐบาลไปอยู่บุรีรัมย์เลยดีหรือไม่ เอาที่เขากระโดงให้ชัดๆ เลย เสี่ยเน เสี่ยหนูอยู่ด้วยกัน

ทำให้มีผู้ประท้วงจากพรรคภูมิใจไทย ว่ามีการกล่าวพาดพิงถึงบุคคลภายนอก ทั้งนี้ประธานในที่ประชุมได้มีการตักเตือนให้นายก่อแก้วอภิปรายด้วยความระมัดระวัง โดยนายก่อแก้ว อภิปรายต่อว่า ตนไม่ได้ว่าจังหวัดบุรีรัมย์ไม่ดี ซึ่งเป็นจังหวัดที่ดีในการพัฒนาไปเยอะ ก็เพราะฝีมือผู้ยิ่งใหญ่แห่งบุรีรัมย์ เพียงแต่ที่คนบางคนใช้อำนาจแบบนี้ ประชาชนผู้เสียภาษีไม่ชอบใจ และมีความกังวล ส่วนกรณีที่บางครั้งนายกรัฐมนตรี เผลอพูดชี้นำ เช่นคดีฮั้วสว. ท่านไม่ได้ทำผิดอะไรเลย ตอนอยากขอร้องนายกรัฐมนตรี ให้ระวัง เพราะท่านเป็นผู้นำฝ่ายบริหาร เวลาพูดอะไรแบบนี้เป็นการชี้นำและกดดันข้าราชการผู้ปฏิบัติงาน ผู้รักษากฎหมาย เวลาท่านพูดเอาสนุก ท่านพูดท่านหน้าบาง แต่ข้าราชการหน้าซีด พูดแบบนี้เหมือนเป็นการสั่งกลายๆว่าไม่ผิด แบบนี้ไม่เหมาะสม

เมื่อท่านเข้ามาบริหาร ย้ายเข้ามาในทำเนียบรัฐบาล ย้ายองค์นรสิงห์ ถือเป็นความเชื่อความศรัทธาไม่ว่ากัน แต่หากมีการย้ายอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ มีปัญหากันแน่ ตนเชื่อมั่นว่านายกรัฐมนตรีเป็นคนดี แต่ทุกครั้งที่ท่านมาอยู่ในการเมืองจะไม่เป็นตัวของตัวเอง จึงอยากบอกไปถึงนายกรัฐมนตรีว่าวันนี้ท่านมาถึงจุดสูงสุด เป็นเกียรติประวัติต่อตนเองและครอบครัว แต่การที่จะประสบความสำเร็จในหน้าที่นายกรัฐมนตรี ประชาชนจะชื่นชอบหรือไม่ อยู่ที่การปฏิบัติตัวของท่านเอง เวลาเท่านั้นจะบอกว่าเป็นอย่างไร

ถ้าท่านเป็นตัวของตัวเองบริหารประเทศด้วยจิตบริสุทธิ์ บนผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก ตนเชื่อว่าสังคมจะชื่นชมและเชิดชู แต่ท่านกลับปล่อยให้ใครบางคนบางกลุ่มมาครอบงำ ชี้นำและใช้อำนาจของนายกรัฐมนตรี เพื่อผลประโยชน์ของพรรคการเมือง ของพวกพ้องเป็นที่ตั้ง โดยเฉพาะการกินรวบประเทศไทย ตนเชื่อว่าสังคมจะประณามและกล่าวขานว่าท่านไม่ใช่นายกรัฐมนตรีตัวจริง นายกรัฐมนตรีตัวจริง ไม่ใช่ “อนุทิน แต่เป็นอนุวิน กินรวบประเทศ” ทำให้ประธานฯ ท้วงติงว่า การเสียดสีหรือประชดประชัน ผิดข้อบังคับการประชุม ขอให้นายก่อแก้วถอนคำพูดดังกล่าว “ อนุวิน กินรวบประเทศ” นายก่อแก้ว จึงยอมถอนคำพูดดังกล่าว

จากนั้นนายโสภณ ใช้สิทธิ์ในการพาดพิงโดยมีการแจงว่า การจะกล่าวอะไรในสภาฯ ศีลข้อ 4 ตนระวังอยู่แล้ว ส่วนท่านจะระวังหรือไม่เป็นเรื่องของท่านเรื่องนี้ เรื่องนี้ต้องชี้แจงเพราะตนเสียหาย เรื่องผู้นำทางจิตวิญญาณ เป็นผู้ร่วมทางจิตวิญญาณของพรรคท่านมาก่อน ผมทำก่อนท่าน จึงรู้ว่าอะไรคืออะไร และย้ำว่าผมทำก่อนที่ท่านจะมาด้วยซ้ำ โดยในปี 2554 ตนออกจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมแล้ว กรณีของอดีตปลัดกระทรวงคมนาคมก็เป็นเรื่องของเขา และเป็นรัฐบาลในยุคนั้น ไม่ใช่ยุคของตน ส่วนที่บอกว่าบ้าน บ้านรัฐมนตรีมีเงินเท่านั้นเท่านี้ กรุณาไปกล่าวโทษอย่ามาพูดพล่อยๆ แบบนี้ คนบุรีรัมย์รู้ว่าตนเป็นคนอย่างไร ส่วนเรื่องบุรีรัมย์ท่านรู้แก่ใจว่าพูดทำไม เพราะมันเข้าตัวเอง และนายไชยชนกเป็นบุตรของนายเนวิน ถือว่าไม่ผิด และที่ได้เป็นรัฐมนตรีก็มาตามความสามารถ

"แบบพรรคท่านเอาลูกมาเป็นนายกรัฐมนตรี ผมไม่อยากใช้วาทะกรรมเรื่องแบบนี้ เป็นสส.มาตั้งแต่ปี 2544 เคยใช้วาทะกรรมในสภาแม้แต่ครั้งเดียว มีครั้งนี้ที่ตนต้องใช้ GMO ดัดแปลงพันธุกรรม เมื่ออยู่กับท่านท่านว่าดี เมื่อพวกผมออกมาเป็นคนชั่วในทันที เลิกได้แล้วการเมืองแบบนี้ ยืนยันว่าเรื่องบุรีรัมย์ ไม่มีอะไรเสียหาย ส่วนเรื่องยาเสพติด มีบุรีรัมย์ที่เดียว ที่ทำเป็นรูปธรรม เพราะฉะนั้นอย่ามาใช้วาทกรรมในสภาฯ เพราะเป็นสภาฯ สร้างสรรค์ และเป็นสภาฯ ยุคใหม่ ให้คนรุ่นใหม่เอาเป็นตัวอย่าง การแต่งตั้งคนบุรีรัมย์ เป็นรัฐมนตรีกี่คนไม่ใช่เรื่องผิด ถ้าผิดต้องดูหลังจากวันแถลงนโยบายว่า เขาทำผิดค่อยมาว่ากัน ท่านปรามาทพวกผม ถ้าเป็นไปตามคำปรามาท พวกผมจะกลายเป็นผู้ร้ายทันที แต่เมื่อไหร่ที่ไม่ได้เป็นไปตามคำปรามาส พวกผมจะเป็นพระเอกเอง โดยให้สังคมตัดสิน" นายโสภณ กล่าว

จากนั้นนายไชยชนก ได้ขอใช้สิทธิ์พาดพิงเช่นเดียวกัน ที่ตนเป็นรัฐมนตรีป้ายแดงในการบริหารด้านการเมือง แต่ไม่ว่าจะทำหน้าที่ใดก็ทำสุดความสามารถและเต็มกำลัง เพื่อประโยชน์สูงสุดของส่วนรวม ย้ำว่าวันที่ตนก้าวเข้ามาในการเมืองก็มีประสบการณ์ แต่ก็เป็นฟันเฟืองสำคัญที่ช่วยประเทศ ให้พ้นจากหนึ่งภัยความมั่นคงสำคัญต่อประเทศ ก็คือเอาพวกท่านออกจากการบริหารสูงสุดของประเทศไทย แม้ว่าไม่มีประสบการณ์แต่สัญญาว่าจะทำเพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศ และแม้ว่าจะยังไม่แถลงนโยบายแล้วเสร็จ แต่มีหลายเรื่องที่ทำให้ตนสงสัย ในประเพณีปฎิบัติของฝ่ายบริหาร ตนยังไม่ได้เข้าสู่ตำแหน่ง ก็มีคนติดต่อมาหาตน ผ่านเพื่อนสมาชิก เสนอมอบเงินเดือนละ 40 ล้านบาท เพื่อไม่ให้จับเรื่องคอลเซ็นเตอร์ สแกรมเมอร์ และเว็บไซต์ แต่ตนปฏิเสธไปแล้ว แต่ทำให้สงสัยว่าประเพณีปฏิบัติของรัฐมนตรีกระทรวงดีอี ที่ผ่านมานั้นเป็นอย่างไร

นายไชยชนก ยังยืนยันว่าแม้ยังไม่มีประสบการณ์ เพราะเป็นการบริหารงานครั้งแรก แต่ตนจะทำทุกอย่างถูกต้อง ด้วยความสุจริต เพื่อประโยชน์ของประเทศในระยะเวลา 4 เดือนนี้อย่างแน่นอน

อย่างไรก็ตามนายก่อนแก้ว ได้อภิปรายเพิ่มเติม โดยชื่นชมนายไชยชนก ที่ยอมรับไม่มีประสบการณ์ ส่วนที่ระบุว่ามีคนติดต่อให้เดือนละ 40 ล้านบาท ขอให้กระชากหน้ากากมาให้สังคมรับทราบ และดำเนินการจับกุมเลย

ไชยชนก ย้อนต้องเป็นรัฐบาล “ทักเซน หรือ ฮุนษิณ หรือไม่”

นายไชยชนก ยังขอใช้สิทธิ์พาดพิงต่อ ว่าขอน้อมรับความคิดเห็นที่นายก่อแก้วอภิปรายเกี่ยวกับ “รัฐบาลเนทิน” ซึ่งตนก็ไม่มั่นใจเพราะเป็นน้องใหม่ทางการเมืองว่าต้องเป็นรัฐบาล “ทักเซน หรือ ฮุนษิณ หรือไม่”

ทำให้ประธานในที่ประชุมทักท้วง ไม่อยากให้ย้อนเพราะจะเป็นการประชดประชัน จึงขอถอนคำพูด ซึ่งนายไขยชนกก็ถอนคำพูดดังกล่าว

Advertisement

แชร์
"ก่อแก้ว"ซัดตั้งรัฐมนตรีนอมินี-ไชยชนกแฉมีคนเสนอ40ล้านไม่ให้จับแก๊งคอลฯ