วันที่ 26 ก.ย.2568 ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วยนางสาวธนพร ศรีวิราช ภริยา นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เข้าทำเนียบรัฐบาลโดยสวมชุดสูทสีเขียวเข้ม ซึ่งเป็นสีประจำกระทรวงและประจำพรรคกล้าธรรม
เพื่อสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในเวลา 09:29 น โดยเริ่มจุดธูป 16 ดอก และหันหน้าไปยัง ตึกไทยคู่ฟ้าซึ่งด้านบนมีศาลท้าวมหาพรหมอยู่ด้านบน และสวดบทสวด 16 ชั้นฟ้า 15 ชั้นดิน ซึ่งเป็นการสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดที่อยู่ในทำเนียบรัฐบาล ก่อนที่จะสักการะศาลพระภูมิ-เจ้าที่ และศาลตา-ศาลยาย
ร้อยเอกธรรมนัส กล่าวภายหลังสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบรัฐบาล โดยใช้เวลาสวดนานหลายนาที ว่า เป็นความลับส่วนตัว บูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบรัฐบาล เป็นประเพณีปฏิบัติ ของคนที่จะมาทำงานยังทำเนียบรัฐบาล ก็ควรจะคารวะ
เมื่อถามว่ารู้สึกอย่างไรที่ได้กลับมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีอีกครั้ง ร้อยเอกธรรมนัส ระบุว่า ก็มีความตั้งใจที่จะมาทำงาน และสานต่อในสิ่งที่ตน ได้ทำมาโดยตลอด ในระยะเวลาตั้งแต่ปี 2562 จนมาถึงปัจจุบันก็ดีใจที่ได้กลับมา
เมื่อถามว่าการได้รับตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีซึ่งจะมีความรับผิดชอบเพิ่มมากขึ้นด้วย ร้อยเอกธรรมนัส ระบุว่า ก็เป็นเรื่องความรับผิดชอบที่เราต้องทำให้ดี เพื่อแก้ปัญหาการจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ประจำปี 2568 ซึ่งเป็นงานสำคัญในเรื่องปัญหาต่างๆ ในส่วนของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
เมื่อถามถึงปัญหาการจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ที่ตอนนี้ดูเหมือนว่าสว.ก็จับจ้องเรื่องนี้อยู่ ร้อยเอกธรรมนัส ระบุว่า เราเหลือเวลาประมาณ 70 วัน วันนี้ช่วงบ่ายตนก็จะไปประชุม ร่วมกับคณะกรรมการกีฬาแห่งประเทศไทย และกองทุนกีฬาซึ่งเป็นเรื่อง สำคัญที่ทุกสมาคม ต่างมีปัญหาเรื่องงบประมาณในการจัดสรร ซึ่งไม่มีความชัดเจน ในการใช้งบประมาณของเงินกองทุนกีฬา ไปใช้ในทางที่ไม่เกิดประโยชน์กับวงการกีฬา ซึ่งตนก็มีมาตรการเด็ดขาดอยู่แล้ว
เมื่อถามว่าจะเข้าไปสร้างปัญหาเรื่องนี้เพราะมีตัวที่ขวางอยู่ใช่หรือไม่ ร้อยเอกธรรมนัสกล่าวว่า " ตัวขวาง ผมชอบอยู่แล้ว จะฟันให้ขาด ไม่ต้องห่วง" ซึ่งวันนี้เป็นวันมงคลตนจึงตามนายกรัฐมนตรี เข้ามาที่ทำเนียบรัฐบาล และเมื่อวานนี้เรื่องของกีฬานายกรัฐมนตรีได้สั่งการชัดเจน ว่าต้องทำให้เด็ดขาด อะไรที่สะสมมานานก็ต้องทำให้สะอาด ทำบ้านเราให้สะอาด ก่อนที่การกีฬาโลก ที่เขาจะมาลงทันเรา เช่นเดียวกับสมาคมเปตอง ซึ่งก็ต้องแก้ปัญหาต่อไป
Advertisement