นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี ได้ลงนามยื่นทูลเกล้าฯ เพื่อประกาศคืนอำนาจให้กับประชาชนแล้ว ทั้งนี้ หากมีการลงพระปรมาภิไธยประกาศยุบสภา คณะกรรมการการเลือกตั้ง ก็จะต้องกำหนดวันเลือกตั้งในกรอบ 60 วัน ซึ่งคาดว่าจะอยู่ในเดือนพฤศจิกายนปีนี้
ซึ่งการยื่นฯ ได้ทำก่อนที่พรรคประชาชนจะจับมือกับพรรคภูมิใจไทยดังนั้นผลการจับมือของสองพรรคไม่เกี่ยวกับการตัดสินใจคืนอำนาจให้ประชาชนของพรรคเพื่อไทยแต่อย่างใด
ส่วนการไปจับขั้วใหม่เพื่อเลือกนายกฯ นั้น ตนเชื่อว่าจะเกิดกรณี “หลอกให้รักแล้วหักอกทีหลัง” อย่างแน่นอน ซึ่งสถานการณ์ปัจจุบันทำให้เห็นได้ว่าการจะโหวตนายกรัฐมนตรีคนใหม่แต่มาอยู่ได้4เดือนก็จะเป็นสภาพปัญหาที่ไม่สามารถขับเคลื่อนใด ๆ ได้ และทำให้ประชาชนเกิดการคลางแคลงใจว่า นายกรัฐมนตรีคนใหม่ที่เข้ามา จะเข้ามาบริหารราชการแผ่นดินได้อย่างไรในรอบเพียงแค่ 4 เดือน นอกจากนี้ ยังมีคดีสำคัญที่ส่วนราชการต่าง ๆ ต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นเพื่อให้กลไกประชาธิปไตยเดินหน้าได้การยุบสภาคืนอำนาจให้ประชาชนจึงเป็นสิ่งสวยงามที่สุด
“ส่วนเรื่องที่ใครจะถูกหลอก หรือรู้ทั้งรู้ว่าเขาหลอกก็เต็มใจให้หลอก ก็เป็นสิทธิเสรีภาพของพรรคการเมืองแต่อย่างน้อยก็ทำให้ประชาชนได้เห็นแล้วว่าการจับมือของพรรคการเมืองเมื่อเช้านี้อาจทำให้แฟนคลับผิดหวังไปตาม ๆ กันได้ เพราะบางพรรคการเมืองก็เคยยืนยันว่า ไม่ยุ่ง ม.112 หรือกองทัพมาโดยตลอด”
Advertisement