(12 ส.ค. 2568) นายอนุทิน ชาญวีรกูล สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี มีการเบิกจ่ายงบประมาณในพื้นที่ชายแดนไทย - กัมพูชา ล่าช้า จนถูกย้ายออกจากพื้นที่ ว่า นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ก็ทำหน้าที่ในฐานะที่เป็นเจ้ากระทรวง ซึ่งหากมีงบประมาณ 100 ล้าน แต่สามารถเบิกเพียงได้ 55,000 บาท หากเป็นตนก็ทำเช่นเดียวกับ นายภูมิธรรม หากมีการพิสูจน์ออกมาว่าเป็นแบบนั้น
ส่วนกรณีที่ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.2) โยนว่าคนแต่งตั้งผู้ว่าฯ อุบลราชธานี คือ มท.1 คนเก่านั้น นายอนุทิน กล่าวว่า คนแต่งตั้งคือปลัดกระทรวงมหาดไทย ซึ่งตนมองว่าตรงนี้พูดมั่วไปหน่อย และคนที่พูดเป็นถึง มท.2 แล้ว คงทราบเรื่องนี้ดี และตอนที่ตนดำรงตำแหน่ง ท่านก็เป็นถึง มท.4 ซึ่งการแต่งตั้งข้าราชการระดับ C10 คือระดับอธิบดีหรือผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นหน้าที่ปลัดกระทรวงฯ ที่จะเสนอให้กับคณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบ
เมื่อถามว่า มองว่าเป็นเจตนาเพื่อต้องการหักหน้าทางการเมืองหรือไม่ นายอนุทิน ระบุว่า ไม่ควรที่จะต้องมาพูดกันแบบนี้ พร้อมถามกลับว่า ถ้าคนที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้ว่าราชการในชุดนี้หรือได้รับการแต่งตั้งเป็นอธิบดีในยุค มท.ภูมิธรรม หรือ มท.อ้วน ก็เป็นเด็กท่านหมดใช่หรือไม่ หรือจะมีคนไหนที่เป็นเด็กของ มท.2 ด้วยหรือไม่ โดยยืนยันว่า ทุกอย่างผ่านมาด้วยความเห็นชอบของ ครม.
ส่วนขณะนี้สถานการณ์ชายแดนไทย - กัมพูชา ส่อแววว่าจะกลับมาปะทะกันอีกรอบ มีการกำชับ สส.ในพื้นที่จังหวัดชายแดนอย่างไร นายอนุทิน เผยว่า พรรคภูมิใจไทย มีสส.อยู่ในทุกจังหวัดที่ติดชายแดนไทย - กัมพูชา ซึ่งยืนยันว่า อยู่ใกล้ชิดกับประชาชน และดูแลประชาชนอยู่ตลอดเวลา โดยตนไม่อยากจะคิดว่าเขาดูแลดีเกินไปหรือไม่ จึงไม่ได้มีการไปเบิกงบประมาณจากผู้ว่าราชการจังหวัด
เมื่อถามอีกว่า ท้ายที่สุดสถานการณ์ชายแดนไทย - กัมพูชา เป็นศึกระหว่าง 2 ตระกูลหรือไม่เพราะยังมีการพูดถึง นายอนุทิน ตอบว่า ตอนนี้ตนมองว่าเป็นเรื่องอธิปไตยของประเทศไทย เราจะไปบอกว่าเป็นความขัดแย้งของคนใดคนหนึ่ง เป็นเรื่องที่แล้วแต่ใครจะคิดไป แต่วันนี้ตนคิดว่าเป็นเรื่องปัญหาของ 2 ประเทศ และเป็นเรื่องที่รัฐบาลของทั้ง 2 ประเทศ ต้องเร่งหาวิธีเพื่อทำให้เหตุการณ์สงบโดยเร็วที่สุด
Advertisement