วันที่ 5 ส.ค. 68 พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ในฐานะรักษา รมว.กลาโหม ระบุถึงความคืบหน้าการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา หรือ GBC หลังจากฝ่ายเลขานุการ 2 ฝ่ายได้ประชุมเป็นวันที่สองว่า จากที่ได้ติดตามเป็นเรื่องน่าประหลาดใจที่ฝ่ายกัมพูชาไม่ค่อยมีเรื่องมาเสนอมากนัก แต่ฝ่ายไทยได้เตรียมการไว้ 8 ข้อ โดยฝ่ายเลขาฯกัมพูชา ได้รับขอเสนอไปพิจารณา และปรึกษา กับผู้บังคับบัญชา เนื่องจากทางฝ่ายกัมพูชาก็มาเฉพาะ ระดับเลขานุการเช่นกัน ซึ่งตามกรอบGBC ช่วง 4-6 ส.ค. นี้ เป็นการประชุมของกองเลขาฯสองฝ่าย
ส่วนประเด็นข้อเสนอ 8 ข้อแตกต่างจากข้อตกลงในระดับพื้นที่ 7 ข้ออย่างไรนั้น พล.อ.ณัฐพล กล่าวย้ำว่า เป็นการลงในรายละเอียดจากข้อตกลงเดิม สำหรับกรณีที่ทางกัมพูชามีความเคลื่อนไหวในลักษณะการเคลื่อนกำลังเข้าประชิดชายแดนในระหว่างการประชุม GBC นั้น ก็จะนำเรื่องนี้เข้าหารือในที่ประชุมด้วย แต่ขอไม่พูดในรายละเอียด ซึ่งจะนำประเด็นที่เป็นข้อห่วงใยทั้งหมดเข้าไปหารือร่วมกัน
โดยเฉพาะข้อห่วงใยที่กองทัพ และรัฐบาลฝากให้ไปหารือกับทางกัมพูชา ซึ่งในกองเลขา GBC มีผู้แทนของรัฐบาล เหล่าทัพ รวมทั้งกองทัพบกอยู่ด้วย เพื่อร่วมกันพิจารณาว่า หากกัมพูชาเสนอเรื่องใดมาทางฝ่ายไทยจะยอมรับได้หรือไม่
โดยหลักการประชุมของกองเลขาฯ หากกัมพูชาเห็นด้วยกับข้อเสนอ 8 ข้อของไทย ก็ถือว่าผ่าน และเข้าสู่ที่ประชุมหลักในวันที่ 7 ส.ค. ได้ โดยก่อนการประชุมหลัก ทางกองเลขาฯ ก็จะกลับมาไทย เพื่อให้สภาความมั่นคงแห่งชาติเห็นชอบ ก่อนลงนามในวันประชุมหลักต่อไป
แต่หากข้อเสนอทั้ง 8 ข้อที่ฝ่ายไทยเสนอไปทางกัมพูชายอมรับได้เพียงบางส่วน ก็จะบันทึกเฉพาะส่วนที่กัมพูชาเห็นด้วยตรงกัน และจะนำประเด็นที่ทางกัมพูชาไม่เห็นด้วยไปประชุมในครั้งต่อไป ทั้งนี้ก็ต้องดูด้วยว่าประเด็นที่กัมพูชาไม่เห็นด้วยขัดแย้งกับเจตนารมณ์โดยรวมหรือไม่
โดยขอยืนยันว่า จะไม่ทำให้ไทยเสียประโยชน์อย่างแน่นอน เพราะคนที่ไปประชุมไม่ได้มีเฉพาะกระทรวงกลาโหมเท่านั้น แต่ยังมีผู้แทนของกระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปด้วยเพื่อร่วมกันพิจารณา โดยได้ประสานกับส่วนราชการต่างๆว่าให้พิจารณาคนที่มีความรู้ความสามารถไปช่วยกันเพราะถือเป็นวาระสำคัญของชาติ
พล.อ.ณัฐพล ย้ำว่า ได้สอบถามจากฝ่ายเลขาถึงเหตุผลที่กัมพูชาไม่ได้เสนอประเด็นเข้าสู่การประชุมระดับเลขา มากนัก และได้คำตอบว่า เป็นลักษณะของทางกัมพูชาที่จะไม่มีอะไรเสนอ แต่จะรอฟังข้อเสนอจากฝ่ายไทย ไม่ว่าใครจะเป็นเจ้าภาพก็ตาม ซึ่งทางกองเลขาไม่ได้แปลกใจ เพราะเป็นเรื่องปกติของทางกัมพูชา
แต่โดยส่วนตัวที่ประหลาดใจเนื่องจากเห็นว่าทางกัมพูชาแสดงท่าทีต้องการจะประชุมแบบทวิภาคี จึงคาดว่าทางกัมพูชาจะเตรียมข้อเสนอมา แต่ก็ไม่เป็นอะไรถือว่าเป็นเรื่องปกติของกัมพูชา
ส่วนข้อสังเกตว่าหากการประชุม GBC ไม่คืบหน้าอาจจะส่งผลให้เกิดการปะทะตามแนวชายแดนขึ้นอีกรอบ พลเอกณัฐพล ระบุว่า ขอยืนยันว่า ทางฝ่ายไทยไม่มี แต่ขึ้นอยู่กับทางฝั่งกัมพูชาว่าจะรักษาคำพูดหรือไม่
ทั้งนี้อีกประเด็นหนึ่งที่ทำให้ไม่กังวลมากนักเนื่องจากว่ามีประเทศผู้สังเกตการณ์ซึ่งเป็นประเทศมหาอำนาจ เข้ามาร่วมด้วย เพราะฉะนั้นการกระทำใดก็ตามหากกัมพูชาฝ่าฝืนคำมั่นสัญญาที่ตกลงกันไว้ ในเรื่องของการหยุดยิง ก็จะถูกประนามในเวทีโลกและสังคมนานาชาติ แต่ไทยก็ไม่ได้ประมาทโดยหน่วยต่างๆ ในพื้นที่เฝ้าระวังอยู่ ทั้งนี้ไม่ได้มองในแง่ร้ายเพียงอย่างเดียว แต่มองไว้ 2 ทาง
ส่วนที่มีการปล่อยข่าวยั่วยุต่างๆจากทางฝั่งกัมพูชาในช่วงนี้ พล.อ.ณัฐพล ระบุว่า ไทยก็ต้องหนักแน่น และตรวจสอบข่าวว่าเป็นข่าวจริงหรือข่าวปลอม ซึ่งไทยก็ต้องระมัดระวังอยู่แล้ว ไม่ว่าจะยั่วยุเพื่อต้องการให้เกิดการใช้อาวุธกันหรือไม่ เพราะไทยต้องเตรียมการไว้ ขณะเดียวกันการเจรจาก็ต้องนำไปสู่ข้อยุติให้ได้ด้วย
ซึ่งบทบาทแตกต่างกันระหว่างทีมเจรจาที่พยายามทำให้ได้ข้อยุติ ส่วนหน่วยที่อยู่ในพื้นที่ป้องกันชายแดนก็ต้องเตรียมให้พร้อมเพราะฉะนั้นประชาชนไม่ต้องเป็นห่วง
พล.อ.ณัฐพล ย้ำว่า ช่วงที่ผ่านมาถูกนักวิชาการและนักวิจารณ์บางคนมอง ในเรื่องความสามารถ ซึ่งโดยส่วนตัวมั่นใจตนเองเพราะรับราชการ และมีประสบการณ์หลายด้าน รวมทั้งเป็นเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติด้วย แต่จะไม่พูดในลักษณะเป็นการยกตน จึงได้ย้ำว่ามั่นใจทีมงาน พร้อมทั้งตั้งใจจะทำให้ดีที่สุด
Advertisement