(29 ก.ค. 2568) พล.อ.ณัฐพล นาคพานิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงความคิดเห็นกับหลักการของการหยุดยิงที่จุดปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ว่าควรจะทำอย่างไรนั้น พล.อ.ณัฐพล ระบุว่า ขอให้เชื่อมั่น เพราะที่ผ่านมาตนเคยดำรงตำแหน่งเจ้ากรมยุทธการทหารบก เสนาธิการทหารบก เลขาธิการสภาความมันนคงแห่งชาติ กระทั่งเป็นรัฐมนตรีช่วยกลาโหม จึงมีมุมมองในทุกมิติ ซึ่งก่อนการเจรจาที่ประเทศมาเลเซีย ตนได้พูดคุยกับผู้บัญชาการทหารสูงสุด และ ผบ.เหล่าทัพ เรื่องระยะเวลาหยุดยิง โดยได้รับคำตอบจากเหล่าทัพคือ 18:00 น. โดยมีเงื่อนไขตามที่โฆษกกระทรวงต่างประเทศแถลง ขณะที่ประเทศกัมพูชา ขอตกลงหยุดยิงในเวลา 00:00 น. ตนก็รับได้แต่ยังกังวลอยู่เพราะเป็นเวลากลางคืน จึงอยากเน้นย้ำว่าตนไม่ได้ทำอะไรคนเดียว มีการปรึกษากองทัพเสมอ
พล.อ.ณัฐพล กล่าวต่อว่า ในเงื่อนไข 7 ข้อก่อนหน้านี้ จะเริ่มขึ้นในวันนี้ รวมถึงการประชุม RBC ระหว่างผู้แม่ทัพภาคทั้ง 4 แห่ง และจะใช้ผลประชุม RBC ที่ยุติแล้ว และเข้าสู่ที่ประชุม GBC ในขั้นสุดท้าย ซึ่งจะมีตนเป็นประธานฝ่ายไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกัมพูชา เป็นประธานของกัมพูชา ซึ่งจะมีเรื่องพูดคุยกันที่กว้างมากขึ้น และอาจจะใช้เวลาต่อไปอีก
"การหยุดยิงไม่ใช่ว่าหยุดเมื่อคืน วันนี้จะมาเล่นตะกร้อกินข้าวด้วยกัน ต้องมีการคุยกันต่อไป 6 ข้อนั้นอาจจะจบที่เดือนหน้าหรือไม่ก็ไม่รู้ แต่อย่างน้อยการหยุดยิง ทำให้ประชาขนไม่ได้รับผบกระทบจนเสียชีวิต"
พร้อมย้ำถึงหน้าที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ว่าต้องคำนึงถึงทุกอย่างถึงชีวิตของพี่น้องประชาชน ขณะนี้มีประชาชนเสียชีวิต 14 ราย บาดเจ็บ 48 ราย ทหารเสียชีวิต 12 ราย บาดเจ็บ 160 กว่าราย อยากให้ลองคำนึงว่าบุคคบเหล่านั้นเป็นกำลังหลักครอบครัว แต่ระดับผู้บัญชาการสูงสุด หรือ ผบ.เหล่าทัพ จะมาคิดแบบตนไม่ได้ ตนต้องคิดให้ต่างจากเหล่าทัพ แต่ถ้าตนตกลงใจบอกเหล่าทัพว่ายังไม่หยุดยิง ก็จะมีนายทหารรุ่นน้องตนขาขาดเพิ่มขึ้นวันละรายสองวันราย เราจะรีบเร่งรัดไม่ได้ เพราะเราต้องนึกถึงครอบครัวทหารด้วย อย่างน้อยการหยุดยิงก็เป็นการชะลอความสูญเสียไปได้
ซึ่งการยอมรับข้อตกลงวานนี้ ตนยืนยันว่าเป็นไปตามนโยบายรัฐบาล ด้านการต่างประเทศ ด้านเศรษฐกิจ ณ เวลาหนึ่งเราต้องชั่งน้ำหนักแบบหนึ่ง สัปดาห์หน้าก็อาจจะเป็นอีกแบบ เราก็ต้องมาคิดกัน
ผู้สื่อข่าวถามถึงเหตุผลที่ไม่เจรจาให้มีการนำอาวุธของแต่ละฝ่ายออกจากพื้นที่ พล.อ.ณัฐพล ระบุว่า ขณะนี้ในสังคมบางส่วนอาจจะคิดเหมือนสื่อมวลชนที่ยังไม่มีความเข้าใจ เพราะเวทีเจรจาแบบนั้ยมานั่งคุยกันรายละเอียดได้อย่างไร ต้องให้แม่ทัพภาคลงไปพูดคุย จะได้รู้ว่าอาวุธหนักแต่ละประเภทจะเคลื่อนย้ายอย่างไร ถ้าใช้วิธีเจรจาวานนี้มาพูดคุย ท่านก็จะกลับมาด่าผมว่าทำไมไม่ถามกองทัพ ถ้าหากกองทัพคุยไม่จบก็คือไม่จบ
ส่วนต่างตั้งข้อสังเกตที่มีการเจรจาหยุดยิงโดยไม่มีเงื่อนไข คือการแลกกับนโยบายภาษีของสหรัฐอเมริกานั้น พล.อ.ณัฐพล ตอบเสียงแข็งทันทีว่า "ไม่ใช่ ไม่ใช่" และย้ำว่าการเจรจามีการคำนึงถึงถึงทุกด้านไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจ ต่างประเทศ ไม่อยากให้มองมุมเดียวและมากล่าวหากัน คนพยายามเจรจาและหาข้อตกลงที่ดีที่สุด
ผู้สื่อข่าวถามถึงความเชื่อมั่นที่มีต่อกัมพูชา ที่ขณะนี้ยังมีการตอบโต้กัน หลังการเจรจาหยุดยิงแล้วนั้น พล.อ.ณัฐพล ระบุว่า ตนไม่ได้เชื่อ เมื่อวานในเวทีเจรจาตนก็พูดออกไปตรงๆ ว่าอยากได้ความเชื่อมั่น ไว้วางใจ ส่วนการเรียกร้องหลังจากนี้ ระบุเพียงว่า ถ้าต้นอยู่ตรงนี้แล้วฝั่งตรงข้ามทำขึ้นมาตนจะไม่ทราบ จึงได้ให้อำนาจกองทัพ หากมีเหตุการณ์อะไรก็รายงานกลับมา เพราะตนเชื่อว่าถ้าหากนำเงื่อนไข 6 ข้อไปเจรจา ทหารประชาชนส่วนหนึ่งอาจจะพอใจ บางส่วนอาจจะไม่พอใจ
ส่วนความคิดเห็นที่ว่าขณะนี้มีการเจรจาหยุดอีกแล้ว แต่ยังคงมีการประทะกันอย่างต่อเนื่อง พล.อ.ณัฐพล ให้ความเห็นว่า ก็คงอยู่แบบนี้กันต่อไป
"ยิงมาเราก็ยิงไป เมื่อเช้าได้อนุญาตแล้วว่าถ้าเขายิงมาเราก็ยิงไป ตอบโต้กันไป ไม่ใช่เราหยุดยิง เขาไม่หยุดยิง แล้วมานั่งรอเขายิง ท่านคิดว่าผมสั่งแบบนี้เหรอ"
เพราะกล่าวถึงการเจรจาวานนี้ ถ้าไม่มีการตกลงหรือยิง สถานการณ์ที่เกิดขึ้นก็จะแรงกว่านี้ ส่วนการประทะในวันนี้ก็ถือเป็นการใช้ปืนเล็ก อาวุธที่ไม่ใหญ่ ถ้าใช้จรวดหลายลำกล้อง หรือหากฝ่ายไทยใช้กำลังของกองทัพอากาศ เพื่อจะเป็นการละเมิดที่ทำให้นานาชาติเห็นได้ แต่ถ้าเขาใช้เราก็จะไม่หยุด จะมีการตอบโต้ที่สมน้ำสมเนื้อ และอยากให้ทุกคนเข้าใจว่าเป็นขั้นตอนตามการเจรจาของเรา ไม่มีการเกี้ยเซี๊ยะให้กับใครทั้งสิ้น
ผู้สื่อข่าวถามถึงใบสั่งทางการเมือง ในการเจรจาครั้งนี้ พล.อ.ณัฐพล ระบุว่าตนไม่ได้สนใจใบสั่ง ไม่ต้องการมาเติบโตทางการเมือง หลายคนก็รู้ดีอยู่แล้ว จบภารกิจตนก็กลับบ้านมีความสุขไม่ต้องมานั่งให้เจอคนด่า แต่เมื่อยังมีเวลาอยู่ก็จะทำให้ดีและนึกถึงผลประโยชน์ของชาติให้มากที่สุด
"เป็นทหารมาทั้งชีวิต ไม่รู้จะเอาเกียรติยศมาแลกตรงนี้ทำไม ผมถือว่าเพียงพอแล้ว"
อีกทั้งการที่ตนมายืนตอบแบบนี้เพื่อจะให้สื่อมวลชนได้เข้าใจ แต่ก็ทราบว่าแม้จะพูดไปก็บางส่วนที่ยังไม่เข้าใจอยู่ดี แต่หากมีคนที่เข้าใจ 1 ใน 30 กว่าสำนัก ตนก็ดีใจแล้ว ตนถือว่าได้พูดไปแล้ว
สำหรับคำแนะนำในการปฏิบัติตัวของพี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดน พล.อ.ณัฐพล ระบุว่า ขอให้ติดตามการแจ้งเตือนจากกระทรวงมหาดไทย โดยการร่วมประเมินสถานการณ์กับกองทัพ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการคลัง ก็จะเข้าไปดูแลเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งพื้นที่สีแดงเดิม ยังกลับเข้าไปไม่ได้ใช่หรือไม่นั้น พล.อ.ณัฐพล พยักหน้า พร้อมระบุว่าขอให้รอการประเมิน
"ขออภัยนะครับเมื่อวานนี้ตั้งแต่เริ่มออกเดินทางตั้งแต่กลับมา ดัชนีความสุขผมไม่มีเลย กลับมาลงถึงดอนเมือง ที่สื่อถึงเดินไปนั่นคือไปพบกับผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้บัญชาการเหล่าทัพ"
ส่วนการตัดสินใจในการเจรจาจะเป็น พล.อ.ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา หรือบุคคลอื่นใดนั้น พล.อ.ณัฐพล ระบุว่า ตรงนั้นไม่ทราบ ขออย่าไปสนใจตรงนั้น เราไม่ต้องสนใจฝ่ายกัมพูชาให้สนใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
Advertisement