วันที่ 8 ก.ค. 68 ที่ปราสาทตาเมือนธม อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงสถานการณ์ภาพรวมในพื้นที่กองกำลังสุรนารี (กกล.สุรนารี) ว่า หน่วยทหารในพื้นที่ที่อยู่แนวหน้า มีภาระงานอย่างหนึ่ง ส่วนทหารแนวหลังก็จะมีแนวทางอีกส่วนหนึ่ง ซึ่งงานด้านกิจการพลเรือนที่ทำร่วมกับฝ่ายปกครอง เน้นเรื่องการทำความเข้าใจกับประชาชน หรือมีเหตุที่ไม่ปกติ ก็จะใช้ช่องทางสื่อสารไม่ให้ประชาชนเกิดความตื่นตระหนก รวมถึงดูแลรักษาความปลอดภัย
เมื่อถามว่า แนวโน้มการท่องเที่ยวในพื้นที่ปราสาทเมือนธมที่เพิ่มสูงขึ้น พล.ต.วิธัย กล่าวว่า การที่มีนักท่องเที่ยวมาเพิ่มมากขึ้นอย่างน้อยมีผลเชิงบวกกับเศรษฐกิจในพื้นที่ ซึ่งสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ประชาชน เกิดความสนใจ โดยเฉพาะการเยี่ยมชมโบราณสถาณ ซึ่งกรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนไว้ร่วม 100 ปีแล้ว แต่คนไทยในภูมิภาคอื่น อาจไม่ค่อยให้ความสนใจ จากสถิติจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาเที่ยวกลุ่มปราสาทตาเมือน เพิ่มขึ้นกว่าปีที่ผ่านมาจำนวนมาก
“เชื่อว่าประชาชนส่วนใหญ่มีความเชื่อมั่นในการทำงานของทหารในการดูแลความเรียบร้อย ในพื้นที่ และสถานการณ์ ก็ไม่ได้อยู่ในความน่ากังวล ในส่วนประเทศเพื่อนบ้านฝั่งกัมพูชา สามารถปฏิบัติหน้าที่และอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี” พล.ต.วินธัย กล่าว
เมื่อถามว่า ฝ่ายกัมพูชาได้มีการปฏิบัติการข้อมูลข่าวสาร (IO) โดยสร้างเหตุการณ์ต่างๆ จะมีผลกระทบต่อชายแดนอย่างไร พล.ต.วินธัย กล่าวว่า ไม่มีอะไรน่ากังวล เจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย ที่อยู่ในระดับปฏิบัติยังใช้ช่องทางความสัมพันธ์ ในการพูดคุย ส่วนปัญหาการกระทบกระทั่งกันมีเพียงเล็กน้อย และแนวโน้มไม่ได้พัฒนาไปสู่ที่น่ากังวล และไม่ว่าใครที่มีวัตถุประสงค์ ในการสื่อสารอย่างไรเชื่อว่าสังคมจะดูออก แต่อย่างน้อยก็ต้องใช้วิธีการเจรจาพูดคุยและขอความร่วมมือกัน
“ไทยมีจุดยืนในการนำเสนอข้อมูล โดยไม่ขยายความขัดแย้งผ่านการสื่อสาร แต่เน้นเรื่องข้อมูลและข้อเท็จจริง” โฆษกกองทัพบก กล่าว
เมื่อถามว่าแนวคิดในการสร้างรั้วเขตพื้นที่ปราสาทตาเมือนธมเป็นอย่างไร พล.ต.วินธัย กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องดูในรายละเอียดต่อไป เพียงแต่มีการพูดถึงในอดีตมีการสร้างในลักษณะที่ไม่เชิงเป็นรั้ว แต่เป็นประตูผ่านเข้า-ออก อาจจะทำเพื่อความปลอดภัย เพราะในอดีตสภาพเป็นป่ามากกว่านี้ ซึ่งในขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลว่าจะสร้างใหม่หรือไม่ เพราะการจะสร้างอะไรในพื้นที่ละเอียดอ่อน อาจจะต้องให้ระดับนโยบาย ระดับผู้บังคับบัญชาหรือผู้บริหาร ซึ่งกองทัพบกในฐานะผู้รับผิดชอบในพื้นที่ ก็จะต้องทำอยู่ภายในกรอบของผู้บังคับบัญชา ซึ่งในวันนี้ ก็จะทำให้พื้นที่ที่รับผิดชอบมีระเบียบ และเรียบร้อยมากที่สุด
Advertisement