ฮุนเซน ขอพี่น้องเขมรขุดหลุมหลบภัย ลั่นสถานการณ์ตึงเครียดทวีความรุนแรง
ฮุน เซน เรียกร้องให้ประชาชนพื้นที่แนวชายแดนขุดหลุมหลบภัย รักษาเสบียงอาหาร ลั่นสถานการณ์ตึงเครียดทวีความรุนแรงระหว่างกองกำลังติดอาวุธกัมพูชาและไทย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สำนักข่าว Fresh News ของกัมพูชา รายงานว่า เมื่อวันพฤหัสบดี (26 มิถุนายน) สมเด็จเดโช ได้กล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมกับผู้บังคับบัญชาจากกองทหารภาคที่ 2 และ 3 ในจังหวัดอุดรมีชัย ตามด้วยการประชุมแยกกับสมาชิกสภาตำบลและสภาเขต 248 คนจากทั่วทั้งจังหวัด
ในโอกาสนี้ สมเด็จเดโช ได้ขอบคุณสมาชิกสภาตำบล อำเภอ และจังหวัดสำหรับการมีส่วนร่วมในการเลือกตั้งเมื่อเร็วๆ นี้ เขาย้ำว่าสมาชิกสภาทุกคนได้รับการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย และเตือนพวกเขาว่าพวกเขาต้องทำงานอย่างใกล้ชิดกับประชาชน เพื่อให้ได้รับความไว้วางใจและคะแนนเสียงอย่างต่อเนื่องในการเลือกตั้งครั้งต่อไป เขาย้ำว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐเป็นผู้รับใช้ประชาชน และสนับสนุนให้สมาชิกสภายังคงมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันกับประชาชนในเขตเลือกตั้งของตน เพื่อให้สามารถให้บริการพวกเขาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ฮุนเซน ชื่นชมความพยายามของหน่วยงานระดับภูมิภาคในการอุทิศตนเพื่อประชาชน โดยกล่าวถึงความตึงเครียดที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องตามแนวชายแดนกัมพูชา-ไทยว่า ความไม่มั่นคงทางการเมืองในประเทศเพื่อนบ้านอย่างไทยทำให้เกิดความขัดแย้งกับกัมพูชาเพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ตาม เขากล่าวว่าสิ่งที่ดูเหมือนเป็นวิกฤตในตอนแรกกำลังกลายเป็นเรื่องปกติ
เขาสนับสนุนให้สมาชิกสภาระดมประชาชนให้หันมาสนใจการผลิตทางการเกษตร โดยเปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาส เขาสนับสนุนให้เพิ่มการผลิตอาหารในท้องถิ่น เพื่อสนับสนุนการบริโภคภายในประเทศ รวมถึงสำหรับกองกำลังติดอาวุธที่ประจำการอยู่บริเวณชายแดน เขาเตือนว่าในความเห็นของเขา อาจจำเป็นต้องมีการส่งกำลังทหารไปประจำการเป็นเวลานาน ดังนั้น การรักษาเสบียงอาหารในระดับท้องถิ่นจึงมีความจำเป็น
ฮุนเซน ยืนยันว่า ขณะนี้กัมพูชากำลังมีข้อพิพาทเรื่องพรมแดนกับไทย และเตือนว่าหากไม่มีการเปลี่ยนแปลงผู้นำในกรุงเทพฯ สถานการณ์อาจทวีความรุนแรงขึ้นเป็นความขัดแย้งระยะยาว ซึ่งแตกต่างจากการปะทะขึ้นเพียงระยะสั้นๆ เมื่อปี 2554 สมเด็จฯ เรียกร้องให้ชุมชนในพื้นที่เสริมกำลังในพื้นที่ ไม่เพียงเพื่อปกป้องเท่านั้น แต่ยังเพื่อรักษาผลผลิตด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเข้าสู่ฤดูฝน
เกี่ยวกับความมั่นคงของชาติ สมเด็จฯ เดโชเน้นย้ำถึงความสำคัญอย่างต่อเนื่องของนโยบาย “ชุมชนปลอดภัย” ซึ่งเขากล่าวว่าต้องบังคับใช้ให้เต็มที่ เขายังเน้นย้ำว่าผู้นำระดับชุมชนมีบทบาทสำคัญในการรักษาความสงบเรียบร้อยในสังคมและในการแก้ไขปัญหาสำคัญ เช่น การใช้ยาเสพติดและการพนันผิดกฎหมาย เขายังเรียกร้องให้ดำเนินการอย่างเด็ดขาดต่อความผิดที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด โดยอธิบายว่าปัญหาดังกล่าวเป็นปัญหาของทั้งสาธารณชนและส่วนบุคคลที่ส่งผลกระทบต่อทุกครัวเรือน
เมื่อพูดถึงการปิดพรมแดนฝ่ายเดียวของไทย สมเด็จเดโช วิพากษ์วิจารณ์แนวทางของรัฐบาลไทย โดยระบุว่าการปิดพรมแดนมักดำเนินการโดยไม่มีการประสานงาน และจะกลับคำตัดสิน ก็ต่อเมื่อผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจถูกคุกคาม เช่น การหยุดชะงักของการส่งออกผลไม้ เขากล่าวเสริมว่า พฤติกรรมล่าสุดของไทยสะท้อนถึงรูปแบบของการแยกตัว เนื่องจากไทยกำลังเผชิญกับความท้าทายตามแนวชายแดนกับเมียนมา ลาว และมาเลเซีย
สำหรับกัมพูชา สมเด็จเดโช ย้ำถึงความมุ่งมั่นของราชอาณาจักรในการรักษาพรมแดนที่กำหนดโดยสันติภาพ มิตรภาพ ความร่วมมือ และการพัฒนากับประเทศเพื่อนบ้านทั้งหมด
Advertisement
