DE แถลงผลปฏิบัติการ "Cut Down Scam" รวบ 6 ผู้ต้องหา วงจรสแกมเมอร์
ก.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมร่วมศูนย์ต่อต้านฉ้อโกงออนไลน์ แถลงผลปฏิบัติการ "Cut Down Scam" เข้าตรวจค้น 8 จุดทั่วประเทศ รวบ 6 ผู้ต้องหา วงจรสแกมเมอร์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมร่วมกับศูนย์ต่อต้านฉ้อโกงออนไลน์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นําโดย นายไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พร้อมด้วย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมแถลงผลปฏิบัติการ “Cut Down Scam สยบเครือข่ายค้าข้อมูลส่วนบุคคล” เข้าตรวจค้น 8 จุดทั่วประเทศ รวบ 6 ผู้ต้องหา วงจรสแกมเมอร์ หลังพบนำข้อมูลส่วนบุคคลกว่า 2.3 ล้านรายชื่อไปเสนอขายในกลุ่มเฟซบุ๊ก
นายไชยชนก กล่าวว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเกิดจากการทํางานเชิงรุกเริ่มต้นจากคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือ PDPC โดยการใช้ซอฟต์แวร์ที่สร้างขึ้นมาเอง ไปตรวจสอบพบว่ามีการลักลอบนําข้อมูลส่วนบุคคลของประชาชนทั่วไปและที่เสียชีวิต อาทิ ชื่อ ที่อยู่ เลขบัตรประชาชน เบอร์โทรศัพท์และเลขบัญชีธนาคารนำมาซื้อขายผ่านกลุ่มเฟซบุ๊กเพื่อให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์นำข้อมูลเหล่านี้ไปใช้หลอกลวงประชาชน
ทางคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลจึงประสานไปยังตํารวจกองบังคับการปราบปรามเพื่อดําเนินการสืบสวนจนนํามาสู่การจับกุมในที่สุด เบื้องต้นพบมีข้อมูลส่วนบุคคลกว่า 9 ล้านรายชื่อ ได้รับความเสียหายแล้วกว่า 4,630 รายชื่อ ที่ถูกนําไปใช้ในการก่ออาชญากรรม มูลค่าความเสียหายกว่า 298 ล้านบาท สําหรับทั้ง 9 ล้านรายชื่อ หลังจากนี้จะมีการสื่อสารไปให้ทราบว่าข้อมูลรั่วไหลในลักษณะใดบ้างเพื่อดําเนินการป้องกัน
ด้าน พล.ต.ต.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ ผู้บังคับการปราบปราม กล่าวว่า จากข้อมูลที่ทางคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประสานเข้ามาให้ทางตํารวจหลังพบกลุ่ม “การตลาดสายเทา” ที่ลักลอบซื้อขายข้อมูลส่วนบุคคล จํานวนกว่า 6 ล้านรายชื่อ ตํารวจจึงทําการล่อซื้อ 6 เพจ รวมกว่า 2 ล้านรายชื่อ
พร้อมบัตรประชาชน 18 ใบ โดยมีการซื้อขายข้อมูลส่วนบุคคล 1 แสนรายชื่อในราคา 3,000 - 5,000 บาท ส่วนบัตรประชาชนใบละ 100 บาท
จากนั้นจึงดําเนินการออกหมายจับผู้ต้องหา 6 คน เป็นแอดมินดูแลกลุ่มซื้อขายดังกล่าว ซึ่งสามารถจับกุมได้ครบทั้งหมด พร้อมตรวจยึดของกลางคอมพิวเตอร์ 6 เครื่อง โทรศัพท์มือถือ 11 เครื่อง อุปกรณ์สํารองข้อมูลและสมุดบัญชี ตรวจสอบข้อมูลในคอมพิมเตอร์พบผู้ต้องหากําลังจะทําการซื้อขายข้อมูลอีกกว่า 6 ล้านรายชื่อ เบื้องต้นจากการสอบถามผู้ต้องหาให้การว่าได้ข้อมูลมาจากเพจกู้เงินนอกระบบและเว็บพนันออนไลน์ หลังจากนี้จะดําเนินการขยายผลเพิ่มเติม เนื่องจากปัจจุบันยังพบว่ามีการซื้อขายกันอยู่
ด้าน พ.ต.อ.สุรพงศ์ เปล่งขำ เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล กล่าวว่า ศูนย์เฝ้าระวังการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล หรือ PDPC Eagle Eye ทํางานเชิงรุกจะไม่รอให้เกิดความเสียหาย โดยดําเนินการตรวจสอบผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์และโซเชียล หากพบความเสี่ยงจะเข้าไปแก้ไขทันทีและหากพบว่าเป็นการละเมิดที่เกี่ยวข้องกับคดีอาญาจะทําการบูรณาการร่วมกับตํารวจ ทั้งนี้เพื่อคุ้มครองสิทธิประชาชน นอกจากการจับกุมจะทําการตรวจสอบเพิ่มว่า 9 ล้านรายชื่อข้อมูลรั่วไหลมาจากหน่วยงานใด
Advertisement
