วันที่ 21 ต.ค. 68 น.ส.อรวรรณ ชาญศิล อายุ 49 ปี ลูกสาวของนายวิไล ชาญศิล อายุ 81 ปี ชาวบ้านโคกยาง ต.ชำนิ อ.ชำนิ จ.บุรีรัมย์ และครอบครัวได้ออกมาร้องขอความเป็นธรรม หลังเกิดเหตุรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์สีฟ้า ได้พุ่งชนนายวิไล ซึ่งเป็นผู้พิการหูตึง ขณะเดินเท้าข้ามถนนกลับจากไปดูวัวที่เลี้ยงไว้ บนถนนสายสายชำนิ-นางรอง เมื่อช่วงเย็นวันที่ 19 ต.ค. ที่ผ่านมา จนร่างคุณตาวิไลกระเด็นไกลเกือบ 100 เมตร ทำให้เสียชีวิตคาที่เกิดเหตุ
แต่รถคันที่ชนไม่ได้จอดลงมาดู กลับขับหลบหนีไป ทิ้งร่างคุณตาไว้กลางถนน ซึ่งกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพเหตุการณ์ได้อย่างชัดเจน ทั้งยังมีชิ้นส่วนกันชนหน้ารถตกในที่เกิดเหตุด้วย
จากนั้นชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ ก็ได้แจ้งตำรวจและหน่วยกู้ภัยสว่างจรรยาธรรมจุดอำเภอชำนิ มาตรวจสอบและนำร่างส่ง รพ.ชำนิ ก่อนที่ญาติจะไปติดต่อรับศพกลับไปประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลที่บ้าน ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจของครอบครัว
โดยเฉพาะนางละมัย ชาญศิล อายุ 80 ปี ภรรยาผู้ตาย ที่ป่วยเป็นโรคหัวใจ และโรคชรา ต้องมาสูญเสียคู่ชีวิตไปแบบกะทันหันไม่ได้ร่ำลา หรือสั่งเสียเลย
กระทั่งผ่านไป 1 วัน หรือช่วงเย็นของวันที่ 20 ต.ค. 68 ได้มีทหารเกษียณ ยศ ร.ต. อายุ 66 ปี เดินทางมายังงานศพพร้อมกับญาติ มาไหว้ขอขมาศพผู้ตายที่บ้าน พร้อมมอบพวงหรีดแสดงความเสียใจ และมอบเงินช่วยงานศพญาติผู้ตายไว้จำนวน 10,000 บาทด้วย ซึ่งญาติก็พยายามสอบถามว่า ทำไมชนแล้วถึงไม่จอดรถลงมาดู แต่กลับขับหนีเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ซึ่งคนขับก็ตอบแค่ว่าตกใจมากที่ชนคนทำอะไรไม่ถูก จึงขับกลับไปตั้งหลักก่อนไม่ได้เจตนาจะหลบหนี ซึ่งญาติก็แอบกังวลอยู่บ้าง เนื่องจากคนชนเป็นอดีตทหาร จึงได้ฝากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการเพื่อให้ความเป็นธรรมกับคุณตา ที่เสียชีวิตด้วย
น.ส.อรวรรณ ชาญศิล อายุ 49 ปี ลูกสาวผู้ตาย กล่าวว่า วันเกิดเหตุมีงานบุญกฐินในหมู่บ้าน ตนก็ทำโรงทานไปร่วมงานบุญ ส่วนพ่อก็จะชอบไปดูวัวที่เลี้ยงไว้ซึ่งอยู่อีกฟากถนน ก็จะไปดูแบบนี้เกือบทุกวัน แต่วันเกิดเหตุขณะที่พ่อเดินข้ามถนนจะกลับมาบ้าน ก็ถูกรถยนต์ที่คาดว่าน่าจะขับมาด้วยความเร็วได้พุ่งชนพ่อเต็มแรงจนร่างกระเด็น วงจรปิดจับภาพได้อย่างชัดเจน และมีชาวบ้านใกล้จุดเกิดเหตุเห็นเหตุการณ์ด้วย แต่รถคันที่ชนกลับมาได้ลงมาดูพ่อเลยก็รู้สึกเสียใจมาก เพราะพ่อเป็นคนพิการหูตึง ก็อยากให้คนขับชนแสดงความรับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ลูกสาว ยังเล่าอีกว่า วันเกิดเหตุมีเสื้อสีดำของตนที่แขวนเอาไว้ตกลงที่พื้น แต่ตอนนั้นไม่ได้คิดอะไร กระทั่งมาทราบว่าพ่อโดนรถชนเสียชีวิต ก็ไม่รู้ว่าจะเป็นลางบอกเหตุอะไรหรือไม่ ก็เป็นความรู้สึกส่วนตัว
ด้านนายสำเนา ชาญศิล อายุ 75 ปี น้องชายผู้ตาย บอกว่า พี่ชายเป็นคนพิการหูตึง แต่ก็ชอบเดินไปดูวัวที่เลี้ยงไว้ ก็เป็นความสุขของคนแก่ก็ไม่คาดคิดว่าจะมาโดนรถชนเสียชีวิตแบบนี้ ตนก็คิดว่าเป็นคราวเคราะห์ของพี่ชาย อาจจะทำบุญมาเท่านี้ แต่เพื่อมนุษยธรรมก็อยากให้คนชนรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้นด้วย เพื่อความเป็นธรรมกับผู้ตายและครอบครัว
Advertisement