วันที่ 8 ต.ค.2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2568 เวลาประมาณ 17.00 น. พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. , พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รอง ผบช.น. (ปส) ได้สั่งการให้ ชุดยาเสพติด กองบัญชาการตำรวจนครบาล วางแผนโดยให้สายสืบหุ่นล่ำบึกแบบชายชอบชาย อำพรางติดต่อเป็นลูกค้าแบบลุ้นระทึกจนสามารถจับกุมตัว
นายคมอนันต์ หรือ หมอกอล์ฟ อายุ 39 ปี ภูมิลำเนา ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี
โดยกล่าวหาว่า “จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์หรือเมทแอมเฟตามีน) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้าและก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท1 (ยาไอซ์หรือเมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต”
พบประวัติถูกดำเนินคดี 5 คดี ดังนี้
1.วันที่ 6 พ.ค. 54 ถูกจับกุมข้อหา “เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1” พื้นที่ สภ.พระสมุทรเจดีย์ ภ.จว.สมุทรปราการ
2.วันที่ 25 พ.ย. 55 ถูกจับกุมข้อหา “พ.ร.บ.ค้ามนุษย์ฯ , โฆษณาหรือรับโฆษณา ชักชวน หรือแนะนำด้วยเอกสาร สิ่งพิมพ์ หรือกระทำให้แพร่หลายด้วยวิธีใดไปยังสาธารณะฯ” พื้นที่ สภ.สำโรงเหนือ ภ.จว.สมุทรปราการ
3.วันที่ 22 ก.พ. 56 ถูกจับกุมข้อหา “เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1” พื้นที่ สน.พระราชวัง
4.วันที่ 5 ส.ค. 62 ถูกจับกุมข้อหา “มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครอง มีปริมาณคำนวณเป็นสารบริสุทธิ์ตั้งแต่ 375 มก.ขึ้นไปฯ” พื้นที่ สภ.พระสมุทรเจดีย์ภ.จว.สมุทรปราการ
5.วันที่ 25 ธ.ค. 63 ถูกจับกุมข้อหา “ร่วมกันครอบครองเพื่อจำหน่าย ซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (แอมเฟตามีน หรืออนุพันธ์แอมเฟตามีน) มีปริมาณคำนวณเป็นสารบริสุทธิ์ตั้งแต่ 375 มก.ขึ้นไปฯ” พื้นที่ สภ.เสม็ด ภ.จว.ชลบุรี
ส่วนน.ส.ปวีณา หรือนา อายุ 40 ปี ภูมิลำเนา ต.ผไทรินทร์ อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ โดนกล่าวหาว่า “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท ๑ (ยาไอซ์หรือเมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้าและก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน” ตรวจยึดของกลางได้ 7 รายการ ดังนี้
1.เข็มฉีดยา บรรจุยาไอซ์พร้อมฉีด 2 เข็ม (พบในมือหมอเถื่อนขณะจับกุม)
2.ยาไอซ์ บรรจุอยู่ในพลาสติกแบบรูดปิดดึงเปิด จำนวน 6 ถุง รวม 7.2 กรัม (น้ำหนักชั่งรวมถุง)
3.แผงยาไวอากร้า 6 เม็ด จำนวน 8 แผง
4.เข็มฉีดยา (ยังไม่ได้ใช้) จำนวน 7 เข็ม
5.กล่องพัสดุ แบบเตรียมจัดส่ง จำนวน 4 กล่อง (ภายในซุกซ่อนยาเสพติดเตรียมจัดส่ง)
6.กล่องพัสดุเปล่าพร้อมอุปกรณ์การแพ็คส่ง จำนวนมาก
7.โทรศัพท์มือถือ จำนวน 2 เครื่อง (พบคลิปวิปริต 283 คลิป)
โดยจับกุมได้ที่ : โรงแรมม่านรูดชื่อดัง ย่านคลองตัน ต่อเนื่องไปยัง ห้องพักแห่งหนึ่ง ภายในซอยปรีดี พนมยงค์ 40 แขวงคลองตันเหนือเขตวัฒนา กทม.
พฤติการณ์กล่าวคือ “หมอเถื่อนได้ทุกฟิวส์” เอเย่นต์ค้ายาเสพติดทางโลกโซเชียลสุดพิสดารจำหน่ายยาเสพติดผ่านช่องทางออนไลน์ โดยพยายามใช้จุดการขายสร้างตัวตน “เป็นหมอ”โดยมีบริการนำยาไอซ์ใส่เข็มไปฉีดให้ลูกค้าถึงเตียงนอน ในขณะที่กลุ่มลูกค้ามีเพศสัมพันธ์กัน(ชายรักชาย) และยังมีบริการสุดพิเศษที่นิยม คือ “ฉีด 2 เข็ม ลูกค้าบางรายถูกแอบถ่ายคลิปไปโพสต์โชว์ในโลกโซเชียล จนปรากฏคลิปวิดีโอวิปริตเหล่านี้เป็นจำนวนมาก กระทั่งหมอเถื่อนรายนี้กลายเป็นที่ฮือฮาในวงการ LGBTQ+ และยาเสพติด
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รอง ผบช.น. จึงส่งชุดสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบจนกระทั่งทราบว่าหมอเถื่อนรายนี้คือ นายคมอนันต์ หรือ หมอกอล์ฟ ซึ่งเป็นพ่อค้ายาเสพติดมีประวัติการหลายคดี และจากการสืบสวนยังพบว่าเอเย่นต์รายนี้มีลูกค้าใช้บริการไม่ต่ำกว่า 100 ราย ในพื้นที่กรุงเทพฯ แต่ทว่าคนร้ายรายนี้ระมัดระวังตัวไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง พล.ต.ต.ธีรเดชฯ จึงใช้ปฏิบัติการอำพรางคัดเลือกตำรวจสืบสวนหุ่นล่ำบึก เป็นเจ้าหน้าที่อำพรางติดต่อล่อซื้อกับเอเย่นต์หมอเถื่อนรายนี้แต่การนัดหมายนั้นทำได้ยากเนื่องจาก “คิวแน่น” จนชุดสืบสวนต้องเฝ้ารอเป็นเวลากว่า 1 สัปดาห์กระทั่งวันที่ 2 ต.ค. 68 หมอเถื่อนได้ส่งสัญญาณมาว่าพร้อมบริการฉีดยาไอซ์ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจอำพรางแล้ว แต่มีเงื่อนไขเพิ่มว่าจะมีหนุ่ม LGBTQ+ “ขอร่วมประตูหลัง” ด้วย ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจอำพรางใจคอไม่ดี งานนี้ พล.ต.ต.ธีรเดชฯได้ให้กำลังใจและเน้นย้ำแผนการต้องทำอย่างรัดกุมรอบคอบ โดยวางแผนจะจับกุมตัวทันทีเมื่อเห็นของกลาง และ “จะไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจอำพรางสูญเสียเอกราชทางประตูหลังอย่างแน่นอน” ปฏิบัติการสืบสวนจึงเริ่มต้นขึ้นด้วยความยากไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้เพราะคนร้ายไม่ยอมออกมาพบ แต่นัดหมายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจอำพรางเข้าไปในโรงแรมม่านรูดย่านคลองตัน
เมื่อเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนไปตรวจสอบและวางกำลังโดยรอบแล้ว ถึงคิว เจ้าหน้าที่ตำรวจอำพราง เข้าห้องไปเป็นเหยื่อล่อตามลำพังแต่ทว่าเมื่อเข้าไปพบหนุ่ม LGBTQ+ กล้ามใหญ่ มีแผลเป็นเต็มตัว นอนนุ่งผ้าเช็ดตัวอยู่บนเตียงนอนลักษณะพร้อมออกศึก แต่ยังไม่พบหมอเถื่อนและยังไม่พบของกลางยาเสพติด ซ้ำร้ายหนุ่ม LGBTQ+ ได้สั่งให้ตำรวจอำพรางทำการถอดเสื้อผ้าเพื่อรอหมอเถื่อน หนังชีวิตได้เริ่มต้นขึ้นเป็นเวลาสุดบีบหัวใจของตำรวจอำพราง ยอมทำตามคำขอเพื่อมิให้เสียแผนการ กระทั่งผ่านไปราว 10 นาที หมอเถื่อนได้เดินทางมาถึงห้องและผสมยาไอซ์ใส่หลอดฉีด พร้อมกับบอกให้หนุ่ม LGBTQ+ เริ่มเปิดศึกกับตำรวจอำพราง ตำรวจอำพรางจึงรีบส่งสัญญาณให้ชุดสืบสวนที่ซุ่มอยู่ด้านนอก บุกพังประตูเข้ามาชาจน์ตัวคนร้ายไว้ได้ทันท่วงที รอดจากการเสียเอกราชได้อย่างหวุดหวิด
โดยจากการตรวจค้นพบ เข็มฉีดยาบรรจุของเหลวสีใส 2 เข็ม ลักษณะพร้อมฉีด , ยาไอซ์ 1 ถุง น้ำหนัก 1.2 กรัม และซองยาไวอากร้า 1 แผง จึงทำการจับกุมตัวหมอเถื่อนรายนี้ทันที
หลังทำการจับกุมตัวหมอเถื่อนรายนี้ได้แล้ว พล.ต.อ.สำราญ นวลมา รอง ผบ.ตร. (ผอ.ศอ.ปส.ตร.) ได้สั่งการให้ พล.ต.ท.สยามบุญสม ผบช.น. ทำการขยายผลต่อเนื่อง โดยหมอเถื่อนยอมรับว่าได้แอบซุกซ่อนยาเสพติดไว้ที่ห้องพักแห่งหนึ่งภายใน ซ.ปรีดรีพนมยง 42 จึงตัวจึงได้นำกำลังไปตรวจสอบ ผลการตรวจสอบพบของกลางยาไอซ์ อีกจำนวน 5 รายการ ลักษณะแพ็คในกล่องพัสดุพร้อมส่ง พบอุปกรณ์การแพ็คส่งพัสดุอีกจำนวนมาก และพบข้อมูล "คลิปลับ" แนววิปริตของหมอเถื่อนรายนี้อีกเป็นจำนวน 283 คลิปในโทรศัพท์ของหมอเถื่อนรายนี้ ซึ่งคลิปวิปริตดังกล่าวหมอเถื่อนรายนี้ล้วนเป็นคนถ่ายเองกับมือ ซึ่งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนไม่สามารถตรวจสอบคลิปได้ทั้งหมดเนื่องจากเกิดอาเจียนระหว่างตรวจสอบ
ในชั้นจับกุม นายคมอนันต์ หรือ หมอกอล์ฟ ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า “ตนเองติดคุกมา 3 ครั้ง ครั้งแรกเรื่องขโมยของ ครั้งที่สองเรื่องที่ตนไปเชียร์แขกให้เด็กสาววัย 16 ปีขายบริการ ครั้งที่สามเรื่องของยาเสพติด เพิ่งออกจากเรือนจำมาได้ไม่ถึงปี ไม่มีงานทำ จึงหันมาค้าขายยาเสพติด ตอนแรกๆขายไม่ดีเลยพยายามหาจุดเด่นการขาย จนไปพบว่ากลุ่มชายรักชาย LGBTQ+ เป็นกลุ่มลูกค้าที่ใช้ยาเสพติดเป็นจำนวนมาก จึงเจาะไปที่กลุ่มลูกค้านี้ และเมื่อเริ่มคลุกคลีมีลูกค้าบางรายมักกล่าวชมตนว่า หุ่นดี ทรงดี บางครั้งที่เอายาเสพติดไปขายให้ก็ให้ตนร่วมเพศแบบชายรักชายด้วย ซึ่งสร้างรายได้ดี และตนก็ได้ผุดไอเดียการฉีดยาไอซ์เข้าเส้นขณะมีเพศสัมพันธ์แบบชายรักชาย ซึ่งเมื่อได้ลองทำและแอบถ่ายคลิปที่ไปฉีดให้ลูกค้าโพสต์ลงในโลกโซเชียลก็ทำให้ถูกใจเหล่าลูกค้า LGBTQ+ เป็นอย่างมาก สร้างรายได้เป็นอย่างดีจึงได้พัฒนาการถ่ายคลิปให้แปลกใหม่มากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อเอาใจกลุ่ม ชายรักชาย LGBTQ+ จนคนในวงการอุปโลกน์ให้ตนเป็น “หมอ แต่ท้ายสุดเพราะตนเองก็ติดการพนันชอบปั่นสล็อตจึงทำให้ไม่สามารถตั้งตัวได้”
ในส่วนของ น.ส.ปวีณาฯ หรือนา ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า “หมอกอล์ฟทำตนซวย ตนเองกำลังจะไปทำงานที่ต่างประเทศสิ้นเดือนนี้อยู่แล้ว แต่ต้องมาถูกจับกุม ห้องที่อยู่เป็นห้องของตน ได้ให้หมอกอล์ฟมานอนพักอาศัยด้วยเพียงชั่วคราว พร้อมกับร่ำไห้ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจปล่อยตัวเธอไป”
เจ้าหน้าที่ยังคงไม่ปักใจเชื่อในคำให้การของทั้งสอง เนื่องด้วยการขยายผลพบหลักฐานว่าทั้งสองมีลักษณะรู้เห็นและช่วยกันในการครอบครองยาเสพติด จึงได้นำตัวพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สน.คลองตัน เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รอง ผบช.น. กล่าวว่า “..ศูนย์ปราบปรามยาเสพติดของ บช.น. จะเพิ่มมิติในการปราบปรามยาเสพติดทางโลกโซเชียลโดยเฉพาะ การแพร่ระบาดสู่เด็กและเยาวชน สำหรับผู้ต้องหารายนี้กำลังเป็นที่นิยมทางโซเชียลเป็นอันตรายแก่สังคมอย่างยิ่ง พวกเราจะช่วยกัน “ทำกรุงเทพฯ ให้ปลอดภัยจากยาเสพติด”
Advertisement