แม่บ้าน เผย ยายวัย 83 ปี เผยชอบออกไปทำธุระการเงิน-ชอบลุงทุน
แม่บ้าน เผย ยายวัย 83 ปี เผยชอบออกไปทำธุระเกี่ยวกับการเงินทุกวันพฤหัสฯ ชอบลงทุน แต่ไม่เคยไปยุ่ง ด้านเพื่อนบ้านเผยคุณยาย เป็นคนใจดี แต่ชอบเก็บตัว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
จากกรณีคุณยาย อายุ 83 ปี ในพื้นที่สวนหลวง ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกโอนเงินสูญไปกว่า 5 ล้านบาท และคุณยายเชื่อว่า ตำรวจที่มาบริเวณหน้าบ้านเป็นตำรวจปลอม
ล่าสุดเช้านี้ (16 ก.ย.68) ทีมข่าวลงพื้นที่ไปที่บ้านหลังหนึ่งย่านอ่อนนุช ทราบว่าเป็นบ้านของผู้เสียหาย อายุ 83 ปี โดยพบหญิงแม่บ้านออกมา เปิดเผยว่า ผู้เสียหายอาศัยเพียงคนเดียว และขอไม่ให้สัมภาษณ์ใด ๆ ทั้งสิ้น ขณะเดียวกันญาติของผู้เสียหายได้โทรศัพท์มาพูดคุยกับสื่อมวลชน โดยขอความเป็นส่วนตัว ไม่อนุญาตให้มายุ่งวุ่นวายที่หน้าบ้าน พร้อมเผยสั้น ๆ เพียงว่าตอนนี้ทุกอย่างอยู่ในกระบวนการของตำรวจแล้ว และครอบครัวสามารถดูแลคุณยายได้ ไม่ต้องเป็นห่วง พร้อมทั้งทิ้งท้ายว่าหากมายุ่งวุ่นวายอีกจะขอแจ้งตำรวจให้มาจัดการทันที
ขณะเดียวกันทีมข่าวได้คุยกับ นางจินดาว อายุ 50 ปี แม่บ้านคุณยาย เผยว่าปกติแล้วคุณยายอยู่คนเดียว และไม่ทราบมาก่อนว่าคุณยายแกถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวง พอทราบก็รู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก ที่ผ่านมาเคยเตือนคุณยายแล้ว เพราะแกชอบออกไปทำธุระเกี่ยวกับโทรศัพท์ข้างนอก ทุกวันอังคารที่ห้างแห่งหนึ่ง แกชอบบอกว่าโทรศัพท์โทรออกไม่ได้ เพราะส่วนใหญ่แกชอบโทรศัพท์ไปยังต่างประเทศ ก็เคยเตือนไปแล้วว่าคนเดียวรู้หน้าไม่รู้ใจ แต่คุณยายบอกว่าคนที่ทำโทรศัพท์ให้เป็นคนใจดี และทุกวันพฤหัสคุณยายไปที่ธนาคาร ย่านพระโขนง พร้อมบอกว่าคุ ณยายเป็นคนชอบลงทุน แต่ที่ผ่านมาไม่เคยไปยุ่งเพราะมองว่าเป็นเรื่องของเจ้านาย
หลังจากนี้ต้องมีการดูแลคุณยายอย่างเข้มงวดกว่าเดิม ต้องมีการล็อกบ้านให้ดี ยอมรับว่าเป็นห่วงคุณยายมากๆ
นายณัฐพร นันทวัน ณ อยุธยา ประธานชุมชนล็อก 4 อายุ 58 ปี เปิดเผยว่าในวันที่ 10 กันยายนตนเองได้รับแจ้งจากลูกบ้านบอกว่ามีตำรวจมาที่หน้าบ้านคุณยาย จึงไปที่หน้าบ้านคุณยายเพื่อตรวจสอบ พอไปถึงหน้าบ้านคุณยาย ก็เห็นว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อนบ้านทุกคนนั้นเป็นห่วงคุณยายมากๆจึงพยายามเรียกให้คุณยายออกมาใช้เวลาอยู่ประมาณเกือบ 1 ชั่วโมง โดยตัวเองพยายามตะโกนเรียกให้คุณยายออกมาเพื่อเป็นการให้สติกันและกัน จะได้ดึงแกออกมาจากช่วงเวลาที่คุยกับ แก๊งคอลเซ็นเตอร์
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า คุณยายแกไม่รับฟังเลยใช่หรือไม่ นายณัฐพร บอกว่า ใช้คำว่าติดพันดีกว่า จึงใช้เวลาในการเกลี้ยกล่อมคุณยายประมาณหนึ่งจนลูกหลานคุณยายมา ที่หน้าบ้านหลังจากนั้นก็ไม่ทราบแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น
นายณัฐพร บอกว่าตัวเอง และคุณยายมาอยู่ในหมู่บ้านแห่งนี้พร้อมๆกันเมื่อ 50 กว่าปีก่อน รู้แค่ว่าคุณยายเคยทำงานบริษัทเกี่ยวกับบัญชีการเงิน แต่ไม่ได้รู้รายละเอียดที่ลึกกว่านี้ พร้อมบอกว่าปกติแล้วก็พูดคุยกับคุณยายตามปกติ แต่แกชอบเก็บตัว รักสงบ เวลาคุยกันแกเป็นคนนิสัยน่ารักใจดี เป็นผู้ใหญ่ที่น่านับถือ ที่ผ่านมาไม่เคยมาพูดเรื่องเงินกับตนเอง พร้อมบอกว่าคุณยายอยู่ในบ้านหลังนี้คนเดียวลูกหลานมาเยี่ยมบ้างตามโอกาส และบางครั้งก็จะมีแม่บ้านมาคอยดูแลบ้าง
นายณัฐพร พร้อมบอกว่าเรื่องแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เป็นเรื่องที่ใกล้ตัวทุกคน ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะโดนโดยเฉพาะผู้เสียหายที่จะอยู่บ้านคนเดียว จึงอยากเตือนพี่น้องประชาชนให้ติดตามข่าวให้ดี และเฝ้าระมัดระวัง เพราะกลุ่มแก๊งเหล่านี้ทำงานเป็นขบวนการ
นายณัฐพร บอกว่าหลังจากนี้คงต้องเข้าไปพูดคุยเพื่อเป็นการตรวจสอบว่าคุณคุณยายไม่ให้เกิดเหตุอีก ส่วนสภาพจิตใจของคุณยาย นายณัฐพร บอกว่าขวัญกำลังใจคุณยายดี และเชื่อว่าหลังจากนี้คงจะไม่เกิดเหตุแล้วแต่ คงจะต้องเฝ้าดูให้กำลังใจกัน
Advertisement
