เมื่อเวลา 08.00 น.วันที่ 14 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานกองกำลังบูรพาโดยการบูรณาการกำลังร่วมระหว่างหน่วยเฉพาะกิจอรัญประเทศ,ชุดควบคุมกรมทหารพรานที่12,กองพันทหารม้าที่30และเจ้าหน้าที่กรมปศุสัตว์ด่านกักกันสัตว์สระแก้วได้ออกลาดตระเวนพื้นที่ชายแดนด้านอำเภออรัญประเทศ ก่อนตรวจพบสินค้าบริโภคจำนวนมากถูกลักลอบซุกซ่อนอยู่ภายในไร่อ้อย บริเวณบ้านหนองปรือ หมู่ 7 ตำบลผ่านศึก อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว
พบอาหารสำคัญซุกซ่อนกลางไร่อ้อย จากการตรวจสอบพบว่าสินค้าดังกล่าวเป็นอาหารจำเป็นต่อการดำรงชีวิต อาทิ นมผง ซึ่งเป็นแหล่งโภชนาการหลักสำหรับเด็กและผู้สูงอายุ น้ำกระเทียมดอง และน้ำตาลกรวดที่เป็นอาหารแปรรูป ซึ่งนิยมบริโภค ไส้ขมวัตถุดิบอาหารที่มีราคาสูงในตลาดชายแดน
ทั้งหมดถูกห่อหุ้มและจัดวางอย่างแนบเนียนในไร่อ้อย เพื่อรอการลำเลียงออกนอกประเทศ โดยไม่มีผู้ใดแสดงตนเป็นเจ้าของ ซึ่งเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าเป็นกลยุทธ์ของขบวนการลักลอบค้าของเถื่อน ที่อาศัยเส้นทางธรรมชาติและไร่รกร้างเพื่อเลี่ยงการตรวจจับ เชื่อมโยงวิกฤตอาหารฝั่งกัมพูชา
การตรวจยึดครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางรายงานที่สอดคล้องกันว่า กัมพูชากำลังเผชิญปัญหาขาดแคลนอาหารอย่างหนัก สืบเนื่องจากปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำและภัยพิบัติทางธรรมชาติในปีที่ผ่านมา ส่งผลให้สินค้าบริโภคขั้นพื้นฐานมีราคาแพงเกินเอื้อมหลายครอบครัว ต้องพึ่งพาการลักลอบนำเข้าสินค้าจากประเทศไทย
การลักลอบส่งอาหารออกนอกประเทศเช่นนี้ นอกจากจะซ้ำเติมปัญหาวิกฤตอาหารในกัมพูชาแล้วยังเป็นปัญหาความมั่นคงด้านชายแดนของไทย เพราะทำให้เกิดการเคลื่อนไหวของขบวนการผิดกฎหมาย ทั้งการค้าของเถื่อนการคอร์รัปชั่น และอาจเกี่ยวโยงไปถึงปัญหาการค้ามนุษย์หรือแรงงานผิดกฎหมายที่ใช้เป็น “แรงงานขนของ”
หลังการตรวจยึดเจ้าหน้าที่ได้ประสานงานกับด่านศุลกากรอรัญประเทศ เพื่อตรวจสอบรายละเอียดและจัดเก็บของกลางทั้งหมดก่อนดำเนินการตามกฎหมาย ทั้งนี้ยังคงอยู่ระหว่างการสืบสวนหาตัวผู้กระทำผิดและเครือข่ายที่อยู่เบื้องหลัง
เหตุการณ์ครั้งนี้นอกจากจะเป็นคดีความมั่นคงชายแดนแล้ว ยังสะท้อนภาพที่ชัดเจนถึงความสิ้นหวังของประชาชนกัมพูชาที่ต้องดิ้นรนเอาชีวิตรอดจากวิกฤตหิวโหย แม้ต้องเสี่ยงพัวพันกับขบวนการลักลอบผิดกฎหมายก็ยอมเพื่อแลกกับอาหารประทังชีวิต
Advertisement