วันที่ 11 ก.ย.2568 พล.ต.ท.ประสพโชค เอี่ยมพินิจ ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง ได้เปิดเผยความคืบหน้าคดีของ เก่ง ลายพราง หลังจากประชุมร่วมกับพนักงานสอบสวนและชุดสืบสวนแล้วมีความเห็นว่า คดีนี้ควรอยู่ในความรับผิดชอบของ สน.สุทธิสาร จึงได้ทำหนังสือพร้อมส่งสำนวนและพยานหลักฐานทั้งหมดไปให้ สน.สุทธิสาร เพื่อดำเนินการสอบสวนต่อไป
การโอนคดีครั้งนี้เกิดจากผลการสอบสวนที่พบว่า เหตุการณ์เริ่มต้นขึ้นที่ร้านไก่ย่างในซอยรัชดา 7 ซึ่งเป็นพื้นที่ของ สน.ห้วยขวาง จากนั้นเหตุการณ์ได้ต่อเนื่องไปยังบ้านพักของนายเก่ง ในพื้นที่เดียวกัน เมื่อผู้เสียหายหนีออกมาโดยใช้บริการรถโดยสาร นายเก่งได้ขี่รถจักรยานยนต์ไล่ตามไปจนถึงถนนรัชดา ก่อนจะขึ้นไปนั่งในรถคันเดียวกับผู้เสียหาย และตามไปถึงคอนโดในพื้นที่ของ สน.สุทธิสาร
ที่คอนโดฯ มีการข่มขู่เกิดขึ้นทั้งที่ชั้นล่างและในห้องของผู้เสียหาย จากนั้นผู้เสียหายจึงโทรแจ้งตำรวจ 191 และเจ้าหน้าที่จาก สน.สุทธิสาร เป็นผู้เข้าระงับเหตุและพาผู้เสียหายไปพบพนักงานสอบสวน ซึ่งหลังจากรวบรวมพยานหลักฐานและสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดแล้ว ทั้งผู้เสียหาย 1 คน และพยานอีก 4 คน (พนักงานร้านไก่ย่าง, พยานคนขับรถ, น้องสาวของผู้เสียหาย และ รปภ. คอนโดฯ) ก็เห็นชัดว่าเป็นเหตุการณ์ต่อเนื่องกัน
ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 19 วรรค 2 (ข) ระบุว่า พนักงานสอบสวนที่รับผิดชอบคดีที่ยังจับผู้ต้องหาไม่ได้ คือพนักงานสอบสวนของท้องที่ที่รับแจ้งเหตุก่อน ซึ่งในกรณีนี้คือ สน.สุทธิสาร ที่รับแจ้งเหตุและลงบันทึกประจำวันไว้เป็นที่เรียบร้อย
สำหรับพยานหลักฐานที่ สน.ห้วยขวางรวบรวมไว้ พบการกระทำที่อาจเข้าข่าย 4 ข้อหา ได้แก่ กระทำอนาจาร, หน่วงเหนี่ยวกักขัง, ข่มขืนใจผู้อื่น และข่มขู่ทำให้ผู้อื่นตกใจกลัว
อย่างไรก็ตาม การพิจารณาความสมบูรณ์ของสำนวนและความเห็นทางกฎหมายขั้นสุดท้ายจะเป็นดุลยพินิจของพนักงานสอบสวน สน.สุทธิสาร ที่จะพิจารณาว่าต้องมีการสืบหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมหรือไม่
Advertisement