วันที่ 5 ก.ย.2568 พ.ต.อ.กฤษ ก้อมน้อย ผกก.สส.บก.น.3 พ.ต.ท.จำนงค์ ประสพสุขมั่งดี รอง ผกก.สส.บก.น.3 ร.ต.อ.นพพนธ์ แก้ววรรณา ร.ต.อ.ณฐภัทร์ จุ่งพิวัฒน์ รอง สว.กก.สส.บก.น.3 พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนนครบาล 3 เข้าทำการจับกุมหมอเถื่อน ปลอมบัตรใบอนุญาตของหมอจริง อาศัยมีประสบการณ์เคยทำงานกับหมอและศึกษาแบบครูพักลักจำกับหมอจริง แล้วออกตระเวนแอบอ้างเป็นหมอไปสมัครทำงานในคลินิกเวชกรรม รักษาคนไข้ทั่วไปทั้งที่มิใช่หมอจริง หลอนทั้งคนไข้และเจ้าของคลินิค
สืบเนื่องจาก พล.ต.ต.เกียรติกุล สนธิเณร ผบก.น.3 ได้รับการร้องเรียนว่ามีบุคคลแอบอ้างเป็นหมอใช้ชื่อว่า “นพ.มานิตย์ จารุวรรณ” ไปสมัครทำงานกับคลินิคเวชกรรมหลาย ๆ ที่เพื่อทำงานรักษาคนไข้ เห็นว่าเป็นภัยกับสังคมประเภทมิจฉาชีพที่แสวงหาผลประโยชน์จากทรัพย์สินแล้ว ยังเสี่ยงต่อการรักษาที่ผิดพลาดอันเป็นอันตรายต่อชีวิตร่างกายและสุขภาพของพี่น้องประชาชน ซึ่งจบแพทยศาสตร์บัณฑิต มาจากกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน อยู่ในระหว่างการสอบเพื่อขอใบประกอบโรคศิลป์จากแพทยสภา แฝงตัวเข้าไปทำการหาข่าวจากกลุ่มหาหมอพาร์ทไทม์ในอินเตอร์เน็ต เพื่อหาหมอที่มีใบอนุญาต ฯ เพื่อไปทำงานในคลินิกเวชกรรม ต่าง ๆ จึงเกิดช่องว่างให้มิจฉาชีพแฝงตัว ปลอมเป็นหมอเข้าไปเพื่อทำงานพาร์ทไทม์ ในคลินิกเวชกรรม เนื่องจากมารายได้งามจากการทำงานชั่วโมงละ 500 -1,000 บาท
ต่อมาทราบว่าบุคคลที่แอบอ้าง “นพ.มานิตย์” คือนายบุญมาก อายุ 74 ปี ซึ่งเคยก่อเหตุปลอมตัวเป็นหมอ และถูกจับดำเนินคดีไปแล้ว 2 ครั้ง ล่าสุดเมื่อประมาณปี 2560 นายบุญมาก ได้ปลอมเอกสารแสดงตัวเป็นหมอเข้ามาทำงานภายในห้องพยาบาล บริษัทแห่งหนึ่ง อ.ปลวกแดง จ.ระยอง ได้ประมาณ 2 ปี เมื่อวันที่ 6 ส.ค. 2562 ถูกเจ้าหน้าที่สำนักงานสาธารณสุข จ.ระยอง และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปลวกแดง จ.ระยอง เข้าทำการจับกุมพร้อมของกลางเป็นสมุดบันทึกผู้มารับบริการที่ห้องพยาบาล และใบบันทึกเวลาของแพทย์ รวมทั้งยาอันตราย 4 รายการ และเอกสารยืนยันจากแพทยสภา จำนวน 1 ชุด นำตัวส่งฟ้องศาลและประกันตัวสู้คดีจนถึงชั้นศาลฎีกา นายบุญมาก ไม่ยอมไปฟังคำพิพากษา ซึ่งต่อมาได้มีการอ่านคำพิพากษาลับหลังจำเลย โดยได้ลงโทษจำคุก จำนวน 1 ปี 2 เดือน เมื่อนายบุญมาก หลบหนี ทางศาลจังหวัดระยอง ได้ออกหมายจับ ที่ 540/2565 ลง 30 พ.ย. 2565 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ ความผิดเกี่ยวกับเอกสาร, ความผิดต่อพระราชบัญญัติวิชาชีพเวชกรรม ความผิดต่อพระราชบัญญัติยา ”
ต่อมาทราบว่านายบุญมาก ได้ปลอมเอกสารและปลอมตัวเป็น “นพ.มานิตย์” ไปเป็นหมอพาร์ทไทม์ที่คลินิกย่านลาดพร้าว 48 ได้ประมาณ 2 เดือนแล้ว จึงได้ไปทำการตรวจสอบ เมื่อวันที่ 3 ก.ย. 2568 เวลาประมาณ 15.30 น. จึงได้ไปตรวจสอบที่ ต้องดีต่อกายคลินิกเวชกรรม ซอยลาดพร้าว 48 แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร พบที่บริเวณหน้าห้องตรวจโรคติดรูปนายบุญมาก แต่ระบุชื่อ “นพ.มานิตย์” เอาไว้ และพบนายบุญมาก กำลังตรวจรักษาคนไข้ที่ใช้สิทธิ สปสช. อยู่ จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าพนักงานตำรวจ เพื่อขอทำการตรวจสอบ พบตรายางระบุชื่อ “นพ.มานิตย์” และ ใบ OPD CARD ของคลินิก ที่ใช้ชื่อ “นพ.มานิตย์” สั่งรักษาโรคของคนไข้ พร้อมขอตรวจสอบหลักฐานประจำตัวพบว่าเป็นบุคคลตามหมายจับจริง จึงได้ทำการจับกุมตัวไว้ จนเป็นที่ตกใจของคนไข้และพยาบาลในคลินิกดังกล่าวเป็นอย่างมาก
ทำการสอบถามพยาบาลของคลินิคทราบว่า นายบุญมาก ได้ปลอมเอกสารของ “นพ.มานิตย์” มาสมัครทำงานพาร์ทไทม์ จนทุกคนเชื่อว่าเป็นหมอ และมีอายุมากแล้ว ทุกคนเรียก “อาจารย์หมอ” แต่การรักษาบางครั้งสั่งยาให้คนไข้แบบแปลก ๆ ไม่ตรงกับการรักษาปัจจุบัน จึงได้ไปทำการสอบถามเพื่อยืนยัน ก็จะเปลี่ยนความเห็นตามที่พยาบาลแนะนำ แต่ทางพยาบาลจะไม่กล้าไปสอบถามเนื่องจากเห็นว่าอายุมากอยู่ในระดับอาจารย์แพทย์
สอบสวน นายบุญมาก ให้การรับว่าได้ปลอมเอกสารของ “นพ.มานิตย์” มาจริง เนื่องจากเคยทำงานด้วยกันมาก่อน ตนเองเห็นว่าหมอเป็นอาชีพที่มีรายได้ดี จึงปลอมเอกสารและปลอมตัวตนเป็น “นพ.มานิตย์” ออกไปสมัครทำงานพาร์ทไทม์ตามคลินิกเวชกรรม และ ห้องพยาบาลของโรงงาน ต่าง ๆ จนถูกดำเนินคดีมาแล้ว 2 ครั้ง ปัจจุบันได้ปลอมตัวไปเป็นหมอพาร์ทไทม์อยู่ในคลินิกเวชกรรม ในพื้นที่ กรุงเทพมหานคร , จ.ฉะเชิงเทรา และ จ.ระยอง เงินที่ได้จากการทำงานส่วนมากจะนำไปเล่นพนันจนเสียหมด
จากนั้นเมื่อวันที่ 4 ก.ย. 2568 เวลา 10.00 น. จึงได้นำตัวนายบุญมาก ส่งศาลจังหวัดระยอง ในข้อหา “ ความผิดเกี่ยวกับเอกสาร, ความผิดต่อพระราชบัญญัติวิชาชีพเวชกรรม ความผิดต่อพระราชบัญญัติยา ” เพื่อรับโทษตามคำพิพากษาต่อไป ส่วนความผิดที่ได้กระทำใน “คลินิกเวชกรรม” ซอยลาดพร้าว 48 นั้น เจ้าหน้าที่ กก.สส.บก.น.3 จะได้รวบรวมพยานหลักฐานไปร้องทุกข์กล่าวโทษเพื่อดำเนินคดีกับนายบุญมาก ฯ กับพนักงานสอบสวน สน.สุทธิสาร ต่อไป
Advertisement