จากเหตุการณ์เศร้าสะเทือนขวัญที่ น้องพิ้ง อายุ 19 ปี พนักงานร้านสะดวกซื้อ เสียชีวิตจากเหตุจรวดตกใส่ปั๊มน้ำมัน ปตท. ใน อ.บ้านผือ จ.ศรีสะเกษ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคมที่ผ่านมา ล่าสุดครอบครัวผู้เสียชีวิตต้องเผชิญกับอีกหนึ่งความเจ็บปวด เมื่ออดีตภรรยา ซึ่งเป็นแม่ของน้องพิ้ง ที่ขาดการติดต่อไปนานกว่า 10 ปี ได้กลับมาอ้างสิทธิ์รับเงินเยียวยานับล้านบาท ท่ามกลางความรู้สึกไม่เป็นธรรมของฝ่ายพ่อและปู่ที่ดูแลน้องพิ้งมาตลอดชีวิต
ล่าสุดวันนี้ ผู้สื่อข่าวเดินทางมาที่ บ้านผือเก่า ต.ทุ่งใหญ่ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ มาที่บ้านของ น้องพิ้ง ผู้เสียเสียชีวิต
โดยวันนี้ ผู้สื่อข่าวได้พบกับ นาย วิสุทธิ์ อายุ 71 ปี ปู่ของน้องพิ้ง ซึ่งวันนี้ได้นำภาพถ่ายของน้องพิ้ง มาให้ผู้สื่อข่าวดู รวมถึงพาผู้สื่อข่าวขึ้นไปดูห้องนอนของน้องพิ้ง ที่อยู่บริเวณชั้น 2 ของบ้าน ซึ่งยังคงมีทุกอย่างครบ เหมือนตอนที่น้องพิ้ง ยังมีชีวิตอยู่
จากนั้นนาย วิสุทธิ์ ปู่ของน้องพิ้ง ได้ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า น้องพิ้ง เกิดและโตที่นี่ จนถึง ม.3 จากนั้น ตาและยาย จากทางฝั่งแม่ ก็มาขอเอาน้องพิ้งไปเรียนด้วย และบอกหลานของตนว่าจะซื้อโทรศัพท์มือถือใหม่ให้ หลานสาวของตนจึงยอมไป และเรียนกับแม่ของเขา 3 ปี จนจบ ม.6 หลังจบ ม.6 น้องพิ้ง ก็โทรให้ตนไปรับ และกลับมาอยู่ที่นี่ กับตนเอง จากนั้นก็ไปสมัครงานที่ ปตท.บ้านผือ เพราะไม่มีเงินเรียนต่อ จึงอยากทำงานก่อน ประกอบกับน้องพิ้ง อยากให้น้องพิมพ์ น้องสาว ได้เรียนหนังสือต่อ จึงหยุดเรียนเพื่อทำงานและเข้าทำงานที่ 7-11 ปั๊ม ปตท.บ้านผือ ได้เกือบ 2 เดือน และมาเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว
โดยเหตุการณ์วันที่ 24 กรกฎาคมตนเองเป็นคนไปส่งหลานสาวที่ ปั๊มปตท.บ้านผือ เพื่อทำงานในช่วงเช้า หลังจากนั้นตนเองก็กลับมาบ้าน จากนั้นน้องพิมพ์ หลานสาวคนเล็กของตน ก็กลับมาจากโรงเรียนและมาบอกกับตนว่า ตอนนี้เกิดเหตุการณ์ปะทะกันที่แนวชายแดนแล้ว และโรงเรียนปล่อยให้กลับบ้าน โดยน้องพิมพ์ จะออกไปรับน้องพิ้งที่ เซเว่นฯ แต่ตนเองได้ห้ามไว้ ไม่นานผ่านไปประมาณ 20 นาที ก็ได้ยินเสียงระเบิดดังหลายลูก หลังจากนั้นลูกชายของตนอีกคนที่อยู่ต่างจังหวัด ก็โทรมาหาและถามว่าน้องพิ้งทำงานอยู่ที่ไหน ตนเองจึงตอบไปว่าทำงานอยู่ เซเว่นอีเลฟเว่น ปตท.บ้านผือ จากนั้นลูกชายของตนก็แจ้งข่าวว่ามีระเบิดลงที่เซเว่น ปตท.บ้านผือ ตนเองตกใจมากและรีบออกไปหาหลานโดยทันที และพยายามตามหาหลานสาวแต่ก็ถูกเจ้าหน้าที่ไล่ออกมา
ยืนยันว่าตนเอง ซึ่งมีศักดิ์เป็นปู่ และ เลี้ยงน้องพิ้งมาตั้งแต่เกิด หากคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ คือครอบครัวของตนเลี้ยงน้องพิ้ง ประมาณ 80% ส่วนแม่ของน้องพิ้งเลี้ยงแค่ 20%
ส่วนเรื่องดรามาเงินเยียวยา ตนเองก็ไม่ทราบเรื่องดังกล่าว แต่ก็เห็นมีการตกลงกันแล้ว ส่วนตัวแล้วตนเองมองว่าเรื่องเงินเยียวยาควรจะแบ่งกันคนละครึ่ง 50/50 แต่ยอมรับว่าหลังจากมีกระแสดรามาออกมาก็ยังไม่ได้พูดคุยกับทางแม่ของน้องพิ้งเลย
Advertisement